Finanace

Stablecoins คืออะไร? ทำความรู้จักกับทางเลือกใหม่ในการชำระเงินของโลกคริปโต

 

Text : Nares Laopannarai

     สกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency มักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แต่จะมีสกุลเงินดิจิทัลประเภท Stablecoins ที่มีคุณสมบัติมูลค่าคงที่เช่นเดียวกับ Fiat Currency จึงถูกมองว่าอาจจะเป็นทางเลือกสำหรับการนำมาใช้งานรูปแบบอื่น อย่างเช่น การชำระเงิน ทั้งนี้ Stablecoins สามารถแบ่งออกได้ 3 รูปแบบคือ

     - แบบที่มี Fiat Currency หนุนหลัง จะต้องใช้ Fiat Currency หรือสินทรัพย์อื่นที่ใกล้เคียงกันและมีสภาพคล่องสูงหนุนหลัง 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น สกุล USDT ซึ่งจะมีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หนุนหลังทั้งหมด โดย Stablecoins นี้จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ เช่น ธนาคารกลาง หรือ ก.ล.ต.

     - แบบที่มี Cryptocurrency หนุนหลัง เป็น Stablecoins ที่สร้างขึ้นมาจากสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์หนุนหลัง อย่างเช่น สกุลเงิน Dai ที่ต้องนำ Ethereum มาใช้เป็นสินทรัพย์ในการสร้างเหรียญขึ้นมา Stablecoins นี้จะไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ แต่จัดอยู่ในรูปแบบของการเงินไร้ตัวกลาง หรือ DeFi

     - แบบที่ใช้ Algorithm รักษาระดับราคา Stablecoins รูปแบบนี้จะไม่มีสินทรัพย์ใดๆ หนุนหลังแต่จะใช้ Algorithm ในการดูแลเสถียรภาพของราคาให้ยังคงตรึงอยู่กับสกุลเงินอ้างอิงแบบ 1 : 1 ถือเป็น Stablecoins รูปแบบใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น

     ทั้งนี้ Stablecoins มีคุณสมบัติที่แตกต่างไปจาก Fiat Currency คือ ทำงานอยู่บนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถโอนหาซึ่งกันและกันได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี รวมถึงกฎระเบียบเหมือนกับ Fiat Currency ทำให้มีความเร็วในการทำธุรกรรมสูง และมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่าโดยเฉพาะการโอนหากันระหว่างประเทศ

     Stablecoins สามารถเข้ามาเป็นทางเลือกในการชำระเงินแทนที่ Cryptocurrency ได้โดยไม่สร้างความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาระหว่างการทำธุรกรรม เพียงแค่ผู้ชำระทำการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ที่มีอยู่มาเป็น Stablecoins หรือทางผู้รับชำระพัฒนาระบบการแลกเปลี่ยนจาก Cryptocurrency มาเป็น Stablecoins แบบเรียลไทม์เพื่อที่จะลดความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคา

     นอกจากนี้ Stablecoins สามารถนำไปสร้างผลตอบแทนอื่นๆ ได้เหมือนกับการฝากเงินในบัญชีธนาคารแต่มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นการ Staking หรือ Yield Farming อย่างไรก็ตาม ยังต้องเลือกทำธุรกรรมกับแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ

     แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่อนุญาตให้นำ Cryptocurrency มาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงิน หรือ Mean Of Payment แต่ดูจากท่าทีอาจจะมีการเปิดช่องให้มีการสร้าง Stablecoins ที่มีสกุลเงินบาทหนุนหลังเพื่อนำไปใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงิน ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่านโยบายที่ออกมาจะสนับสนุน หรือควบคุมดูแลการใช้งาน Stablecoins

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup