Starting a Business

หิ้วปิ่นโตปิกนิก กับ come to ปิ่นโตพาสเทล มีลาย

Text : Kritsana S. Photo : Vipa Vadi
 

 
     ในวัยเด็ก ปิ่นโตเป็นเครื่องใช้ที่เราคุ้นเคยกันดี บางทีก็เห็นพ่อแม่ใช้ห่อข้าวไปกินที่ทำงาน หรือพี่ป้าน้าอาหิ้วใส่กับข้าวไปทำบุญที่วัด แต่ทุกวันนี้ปิ่นโตเริ่มห่างหายไปจากชีวิตประจำวันของเรา อาจเป็นเพราะมีทัปเปอร์แวร์เข้ามาแทนที่ ฝนทิพย์ พนมธรรม สาวรุ่นใหม่ที่รักในการสะสมเครื่องใช้ในครัวจึงทำแบรนด์ come to ที่มีสินค้าหลักเป็นช้อนส้อม ถ้วยชาม แก้วน้ำ และปิ่นโตที่ถูกอกถูกใจทั้งคนที่ยังคิดถึงเรื่องราวในวัยเด็ก และชาวต่างชาติที่ชื่นชอบการปิกนิก

     “เราชอบสะสมเครื่องใช้ในครัวชิ้นเล็กๆ พอสะสมเยอะเข้าก็อยากแบ่งปันให้กับคนที่มีความชอบเหมือนกัน แรกๆ ก็เอาของที่สะสมออกมาขาย ขายเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไร แต่พอขายได้สักพักก็รู้ว่ามีคนชอบแบบเราเยอะเลยลองทำแบรนด์ของตัวเองชื่อ come to เป็นแบรนด์เครื่องครัวสีพาสเทลที่เราออกแบบลวดลายเอง ซึ่งสินค้าที่ขายดีที่สุดคือ ปิ่นโต”

     ปิ่นโต come to เน้นขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย และมีสีสันน่ารักเพราะใช้สีพาสเทล นอกจากปิ่นโตสีพื้นเรียบๆ ที่มีให้เลือกมากกว่า 5 สี ยังมีปิ่นโตเพ้นต์ลายตามฤดูกาล โดยตอนนี้ออกมาแล้ว 3 คอลเลกชัน ได้แก่ คอลเลกชั่น Summer มี 2 สี คือ สีชมพูลายเม็ดแตงโม และสีเหลืองลายสับปะรด คอลเลกชัน Santa สีแดงลายซานตา และคอลเลกชัน Snowman สีขาวลายสโนว์แมน โดยสองคอลเลกชันหลังเป็นคอลเลกชันฤดูหนาว ทั้งนี้ทั้งสามคอลเลกชันขายเฉพาะในฤดูกาลนั้นๆ ถ้าหมดฤดูจะไม่สามารถหาซื้อได้อีก

     “การออกแบบลวดลายปิ่นโตตามฤดูกาลทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้น เซอร์ไพรส์ เพราะเดาไม่ได้ว่าในฤดูนั้นๆ เราจะทำปิ่นโตลายอะไร และในแต่ละคอลเลกชัน นอกจากลูกค้าจะได้ปิ่นโตแล้ว ยังจะได้ช้อนส้อม แก้วน้ำ และผ้ารองจาน หรือบางคอลเลกชันก็เปลี่ยนจากผ้ารองจานเป็นผ้าปูสำหรับปิกนิก ซึ่งวิธีการพ่วงสินค้าอื่นๆ ของแบรนด์ไปด้วยช่วยลดปัญหาสินค้าค้างสต็อกได้ดีและยังทำให้ลูกค้ารู้ว่าแบรนด์ของเราไม่ได้ขายแค่ปิ่นโต”

     แม้ปิ่นโตจะเป็นเครื่องใช้ที่ไทยเราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่ยอดขายปิ่นโต come to กว่า 70 เปอร์เซ็นต์กลับมาจากลูกค้าต่างชาติอย่างลูกค้าไต้หวันและฮ่องกง ซึ่งฝนทิพย์บอกว่า ลูกค้าต่างชาติซื้อปิ่นโตเพื่อไปปิกนิกในวันหยุดสุดสัปดาห์และมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ ส่วนยอดขายอีก 30 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือมาจากลูกค้าไทยที่เป็นคุณแม่บ้านเสียส่วนใหญ่โดยนิยมซื้อแบบยกเซ็ต เช่น ปิ่นโต แก้วน้ำ ถ้วยชาม และช้อนส้อม

     “จริงๆ เราเล็งลูกค้าต่างชาติไว้ตั้งแต่เริ่ม เพราะมองว่าพวกเขาจะรู้สึกว้าวกับปิ่นโตมากกว่าลูกค้าไทย แต่ก็ไม่นึกว่าจะได้ผลตอบรับดีแบบนี้โดยเฉพาะปิ่นโตที่มีลวดลาย และเมื่อรู้ว่าลูกค้าหลักเป็นคนต่างชาติที่นิยมซื้อปิ่นโตเพื่อใส่อาหารไปปิกนิกในวันหยุด เราเลยออกแบบปิ่นโตให้มีความน่ารักเพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ดีในการปิกนิก อีกทั้งยังตั้งใจทำปิ่นโตให้มีขนาดเหมาะสำหรับใส่อาหารเพื่อรับประทานคนเดียว เพราะอยากให้ทุกคนที่ไปปิกนิกสนุกกับการแบ่งปันอาหารของตนเองให้ผู้อื่น ส่วนในเมืองไทย ด้วยอากาศที่ไม่เหมาะจะไปปิกนิก ลูกค้าที่เป็นแม่บ้านจึงซื้อปิ่นโตให้ลูกๆ หิ้วไปโรงเรียน และซื้อเครื่องครัวอื่นๆ ของแบรนด์ไปใช้ในครัว”

     สำหรับเคล็ดลับขายดีในตลาดต่างประเทศ ฝนทิพย์แชร์ให้ฟังว่า 1.ให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่อง เล่าว่าแบรนด์ขายอะไร มีคอนเซปต์อย่างไร เล่าจนกว่าลูกค้าจะเข้าใจตัวตนของแบรนด์ 2.สร้าง Emotional ให้ลูกค้ารู้สึกถึงความน่ารักของสินค้า 3.ทำให้ลูกค้ารู้ว่าสินค้าใช้งานอย่างไร เช่น ปิ่นโต เธอไม่ถ่ายภาพปิ่นโตอย่างเดียว แต่จะถ่ายภาพปิ่นโตที่มีอาหารและจัดฉากให้อยู่ในบรรยากาศการปิกนิก ถ่ายภาพให้สีไม่เพี้ยนไปจากของจริง ถ่ายคู่กับวัตถุอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าคาดคะเนขนาดของปิ่นโตได้จากสายตา และ 4.ศึกษาพฤติกรรม ความชอบของลูกค้าก่อนออกสินค้าใหม่ ไม่ใช่ทำตามความชอบของคนขาย เหมือนเช่นแก้วน้ำคอลเลกชัน Valentine ที่มีกิมมิกที่เป็นแก้วน้ำคู่ และลูกค้าติดสติกเกอร์บนแก้วได้ตามชอบ โดยเธอคิดว่าสินค้านี้จะโดนใจลูกค้าที่ชอบงาน DIY งานทำมือ แต่เมื่อวางขายกลับขายไม่ดีเท่าที่ควร นั่นอาจเพราะลูกค้าของแบรนด์ชอบสินค้าที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยไม่ใช่สินค้าที่ต้องมานั่งตกแต่งเอง

     www.cometo.cooking
     www.pinkoi.com/store/cometo
     Facebook : cometo.cooking
     Instagram : cometo.cooking
     Line : @cometo.cooking
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี