Starting a Business

เบื้องหลังการแจ้งเกิด “Baked by Melissa” มินิคัพเค้กเจ้าดังในนิวยอร์ก

Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์


 

Main Idea
 
  • เมลิสสา เบนนิชายย์ เริ่มต้นธุรกิจจากงานอดิเรก นั่นคือการอบคัพเค้กสวยๆ และมักจะทำแจกเพื่อนๆ เสมอ
 
  • เมื่อเธอต้องตกงานกระทันหัน  กลับกลายเป็นแรงฮึดให้ธอได้เริ่มธุรกิจเล็กๆ ของเธอ “Baked by Melissa” ที่ปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจใหญ่ที่มีถึง 14 สาขา และพนักงานกว่า 300 คน
 



     มีธุรกิจจำนวนมากที่เริ่มต้นจากงานอดิเรก จากสิ่งที่ทำเพราะชอบเพราะรักสามารถแปรเป็นธุรกิจสร้างรายได้หลัก เมลิสสา เบนนิชายย์ สาวอเมริกันจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการประเภทนี้ หลังจบการศึกษาจากรัฐบ้านเกิด เธอมุ่งหน้าสู่นิวยอร์กและได้งานในบริษัทเอเยนซีโฆษณาแห่งหนึ่งในตำแหน่งพนักงานป้อนข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ เมลิสสาไม่ได้ชอบในงานที่ทำนัก สิ่งที่เธอรักคือการทำขนม ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอมักคลายเครียดด้วยการอบขนม กระทั่งได้งานทำ เธอก็ยังใช้วิธีนี้ในการบำบัดความเครียดของตัวเอง

     เหตุการณ์ที่ทำให้ความคิดเปลี่ยนไปคือ ก่อนถึงวันเกิดของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เธอไม่ได้สนิทด้วย แต่สังเกตว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูเหงาๆ เธอจึงตัดสินใจอบคัพเค้กสวยๆ จำนวนหนึ่งมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้เขา ปรากฏว่ามันสร้างความว้าวให้ทุกคนในที่ทำงาน ทุกคนตื่นเต้นที่ได้รับประทานขนมของเธอ เหตุการณ์นี้ทำให้เมลิสสาค้นพบว่า การอบขนมนอกจากทำให้หายเครียด การส่งมอบความสุขผ่านเค้กยังสร้างความสุขให้เธอได้มากมายเพียงใด

     แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเธอคือ การถูกปลดออกจากงานเนื่องจากนายจ้างเห็นว่าเธอไม่ได้รักในงานที่ทำ การตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้สติแทบแตก เธอจึงไปหาไบรอันพี่ชายคนเดียวของเธอ พี่ชายปลอบให้ใจเย็นๆ และบอกว่าเราจะเริ่มธุรกิจด้วยกัน ว่าแล้วก็สั่งน้องสาวให้กลับไปอบเค้กที่บ้าน

     เมลิสสาแบ่งคัพเค้กที่อบจำนวนหนึ่งให้น้องสาวเพื่อนที่กำลังฝึกงานในบริษัทประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่งได้นำไปแจกคนในออฟฟิศ ผลปรากฏว่าเจ้าของบริษัทชอบเค้กที่เธอทำ จึงแนะนำบริษัท Catering และร้านคาเฟ่ต่างๆ ให้เมลิสสาจึงเริ่มธุรกิจเล็กๆ ของเธอ และตั้งชื่อแบรนด์ “Baked by Melissa”

     เธอเริ่มอบขนมตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งไปเลี้ยงตามงานอีเวนต์ต่างๆ สินค้าของเธอมีเพียงอย่างเดียวคือ มินิคัพเค้กสีสันสดใสขนาดพอดีคำ “ฉันก็แค่เลือกขนมที่ทุกคนรู้จักอยู่แล้ว เป็นขนมที่คนส่วนใหญ่ชอบ แล้วนำมาออกแบบให้น่ารัก น่ารับประทานขึ้น” ทุกครั้งที่นำขนมไปส่งตามงานอีเวนต์ เธอจะแนบนามบัตรไปหน้ากล่อง ขณะเดียวกันก็รับออร์เดอร์ผ่านทางออนไลน์ด้วย ออร์เดอร์มีเข้ามาเรื่อยๆ เธออบขนมเพียงคนเดียวในครัวของอพาร์ตเมนต์ที่เช่ารวมกับคนอื่นๆ

     ทุกครั้งที่มีรายได้เข้ามา เมลิสสาจะกันเงินส่วนหนึ่งไว้ซื้อวัตถุดิบเพื่อรองรับออร์เดอร์ครั้งต่อไป การดำเนินธุรกิจเป็นเช่นนี้อยู่นาน 7 เดือน กระทั่งเจ้าของคาเฟ่ บารีในย่านโซโหที่เคยชิมคัพเค้กของเธอได้เอ่ยปากชวนให้มาใช้ครัวที่ร้านและทำคัพเค้กจิ๋วไปขายที่ตลาดนัดยูเนียนสแควร์ เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2551 เมลิสสาย้ายอุปกรณ์ไปผลิตขนมที่ครัวของคาเฟ่ บารี โดยจ้างลูกมือ 1 คนเป็นผู้ช่วย ทั้งคู่อบขนมวันละ 14 ชั่วโมงทุกวันไม่มีวันหยุดตลอด 6 สัปดาห์ของการวางขายที่ตลาดนัดยูเนียนสแควร์

     ผลคือได้รับการตอบรับดีมาก เป็นความสำเร็จที่ปูทางไปสู่การเปิดตัวแบรนด์ในตลาดนัดแห่งอื่นๆ กระทั่งเดือนมีนาคม 2552 มินิคัพเค้กของเมลิสสาก็จำหน่ายในคาเฟ่ บารี โดยแบ่งเป็นพื้นที่เล็กๆ ข้างหน้าต่าง ขายแบบ Take Away ให้กับคนที่เดินผ่านไปมา เดือนมิถุนายนปีถัดมา เมลิสสาก็เปิดร้านมินิคัพเค้กเป็นเรื่องเป็นราว ตั้งอยู่ละแวกยูเนียนสแควร์ และเป็นร้านที่ลูกค้าเดินเข้ามาเลือกชมและซื้อสินค้าได้

     ร้านที่สองก็ไปได้สวย ต้องเพิ่มกำลังการผลิต โดยมีการยุติการผลิตที่คาเฟ่ บารีไปและสร้างครัวกลางขึ้นมา หลังจากนั้น Baked by Melissa ก็ขยายสาขาเพิ่ม จนปัจจุบันมี 14 สาขาในนิวยอร์ก รวมถึงที่สนามบินเจเอฟเค สถานีรถไฟใต้ดิน และในห้างสรรพสินค้า จากธุรกิจที่ทำเองเพียงคนเดียว ก็กลายเป็นธุรกิจใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 300 คน เมลิสสาซึ่งนั่งเก้าอี้ซีอีโอแบ่งเวลาครึ่งหนึ่งเข้าครัวเพื่อออกแบบรสชาติใหม่ๆ และอีกครึ่งหนึ่งเข้าประชุมที่ออฟฟิศ

     ปัจจัยสู่ความสำเร็จของแบรนด์ Baked by Melissa มาจากตัวสินค้าที่สีสันสวยงาม รสชาติดี มีหลายรสให้เลือก และราคาไม่แพง ชิ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น การทำมินิคัพเค้กขนาดพอดีคำทำให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานทีละหลายรส ซึ่งแต่ละชิ้นให้พลังงานไม่เกิน 50 แคลอรี จึงสร้างความรู้สึกที่ไม่มากเกินไปสำหรับคนที่กำลังระวังเรื่องน้ำหนัก ที่สำคัญมีการพัฒนาสินค้าอยู่เรื่อยๆ โดยนับตั้งแต่เปิดธุรกิจมา มินิคัพเค้กที่วางจำหน่ายมีมากกว่า 100 รสชาติ

     นอกจากคิดค้นรสชาติใหม่ๆ มานำเสนอเพื่อไม่ให้จำเจ ทางแบรนด์ยังเพิ่มชนิดของขนมจากคัพเค้กจิ๋ว เป็นมาการอง และคัพเค้กปลอดกลูเต็นอีกด้วย ล่าสุด Baked by Melissa ได้ขยับจากขนมหวานเป็นขนมอบที่รับประทานเป็นอาหารเช้าคือมินิมัฟฟิน การวางมัฟฟินเพิ่มในไลน์สินค้าทำให้ร้าน Baked by Melissa ต้องขยายเวลาเปิดร้านให้เร็วขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าที่ซื้อมัฟฟินเป็นอาหารเช้า

     สำหรับช่องทางจำหน่าย มีทั้งจำหน่ายในร้าน 14 สาขา และจำหน่ายทางออนไลน์แบบจัดส่งถึงที่ทั้งในนิวยอร์ก และทั่วสหรัฐฯ นับตั้งแต่เริ่มธุรกิจมาเป็นเวลา 10 ปีเต็ม ขนมของเมลิสสาจำหน่ายไปแล้วกว่า 100 ล้านชิ้น คาดว่าปี พ.ศ. 2561 นี้น่าจะทำยอดขาย 30 ล้านชิ้น นอกจากนั้น เธอยังจัดพิมพ์ตำราขนมออกมาชื่อว่า “Cakes by Melissa : Life is What You Bake It” เพื่อส่งเสริมการขายอีกทาง ส่วนแผนธุรกิจในอนาคต เมลิสสากำลังพิจารณาว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้างกว่านี้ด้วยการขยายธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์

     จากพนักงานออฟฟิศสู่การเป็นผู้ประกอบการ เมลิสสากล่าวว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอคือ การถูกไล่ออกจากงาน เพราะหากไม่มีเหตุการณ์ในวันนั้น ก็อาจไม่มีแรงกดดันที่ทำให้เธอฮึดทำธุรกิจ เมลิสสาจึงเป็นผู้ประกอบการคนหนึ่งที่โชคดีได้ทำในสิ่งที่รัก และสิ่งนั้นยังสร้างรายได้เป็นล่ำเป็นสันอีกด้วย
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup