Starting a Business

Small Happy Entrepreneur

เรื่อง   aris





Main Idea
 
  • นี่คือซีรีย์การเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ จากคนทำหนังสือ ในยุคที่สิ่งพิมพ์ล่มสลาย ด้วยวัยย่างเข้าห้าสิบ ไม่ได้มีไฟแบบคนหนุ่มสาว แถมยังไร้ทั้งทุนและประสบการณ์หากจะไปเริ่มต้นธุรกิจอื่น ในช่วงวิกฤตแบบนี้ 
 
  • แม้จะทุ่มเทงานใหม่ให้ดีขึ้นเพื่อให้เป็นอาชีพจริงจังแต่มักจบลงด้วยความพ่ายแพ้ หลายครั้งอยากถอดใจไปทำอย่างอื่น แล้วก็มีเสียงตอบรับจากลูกค้าที่ทำให้ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง






                แป้งโดขนมปังที่พักไว้ขึ้นจนเกือบพร้อมอบแล้ว ฉันจุดไฟวอร์มเตา และเริ่มเอาขนมปังถาดแรกเข้าเตาอบตอนสามทุ่ม บอกกับตัวเองว่าวันนี้จัดการกับงานอบขนมได้ดีขึ้น คืนนี้น่าจะเสร็จและเข้านอนได้ก่อนเที่ยงคืน แต่ฉันลืมไปว่าวันนี้ทำขนมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากทำไปขายปกติ ยังมีออเดอร์สำหรับเบรกงานฝึกอบรมที่เพิ่งกลับมาจัดหลังจากถูกเลื่อนเพราะโควิด




                ตีสาม ฉันเพิ่งเอาขนมปังถาดสุดท้ายเข้าเตาอบและเตรียมแป้งสำหรับทำเค้กกล้วยหอมต่อ กว่าจะอบทั้งหมดเสร็จ รอให้ขนมหายร้อน บรรจุใส่ถุงหมดก็ได้ยินเสียงไก่ขันพอดี ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ฉันรู้สึกล้าเป็นที่สุด มองดูนาฬิกา ฉันเริ่มงานตอนหกโมงเช้าของเมื่อวานนับถึงตอนนี้ก็เกือบครบ 24 ชั่วโมงพอดี ปวดขาร้าวมาถึงหลังจนแทบขยับไม่ได้ บอกตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว พอกันที ฉันไม่อยากทำแบบนี้อีกต่อไปแล้ว นี่ไม่ใช่ “ทาง” ของฉันแน่ๆ ฉันไม่ใช่คนที่มีความสุขกับการทำขนม ไม่เคยมีความฝันอยากเปิดร้านเบเกอรี่ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำขนมเบเกอรี่เอง และยิ่งไม่คิดว่าจะทำขาย แค่เข้าครัวทำอาหารเมนูง่ายๆ กินเองก็ยังรู้สึกว่ายุ่งยาก จัดการไม่ได้ ครัวเละเทะไปหมด




                สำหรับคนทำหนังสือในยุคที่สิ่งพิมพ์ล่มสลาย ด้วยวัยย่างเข้าห้าสิบ เรี่ยวแรงถดถอย ไม่ได้มีไฟแบบคนหนุ่มสาว แถมยังไร้ทั้งทุนและประสบการณ์หากจะไปเริ่มอย่างอื่น ในช่วงวิกฤตแบบนี้ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงได้ สำหรับฉันในตอนนี้ลืมเรื่องอื่นไปได้เลย ก็เหลือแต่ทำขนมขายนี่แหละที่ยังขายได้ทำให้มีรายได้อยู่บ้าง เป็นงานที่เริ่มต้นด้วยการอยากจัดการให้ดีขึ้นเพื่อให้เป็นอาชีพจริงจังและจบลงด้วยความพ่ายแพ้ อยากถอดใจไปทำอย่างอื่น แล้วก็มีเสียงตอบรับจากลูกค้าที่ทำให้ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง ขึ้นๆ ลงๆ อยู่อย่างนี้


                ฉันมาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร ย้อนกลับไปปีที่แล้วในช่วงที่ว่างงาน ญาติที่ขายขนมอยู่แล้วอยากทำขนมปังขายเองแทนการรับมาขาย ฉันแค่ไปเป็นเพื่อนญาติสมัครเรียนคอร์สเบเกอรีและขนมอบที่ศูนย์ฝึกอาชีพในสังกัดกรุงเทพมหานคร พอไปเรียนด้วยได้ไม่กี่ครั้งก็มีเหตุให้ต้องหยุดเรียนเพราะแม่เริ่มป่วย ตอนที่เริ่มต้นและหยุดเรียนฉันก็ยังคงไม่รู้อะไรเลย แยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าแป้งอะไรใช้ทำอะไร สูตรขนมที่จดไว้ก็หายไป เหลือแค่สองสูตรคือขนมปังไส้กรอกกับเค้กกล้วยหอม พอคิดหางานที่ทำอยู่บ้านได้โดยไม่ต้องเดินทางไปไหน ใช้ทุนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ฉันเริ่มต้นจากตรงนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้ผ่านไปหนึ่งปีก็ยังยืนพื้นจากสองสูตรนั้น   



      
                ใครบางคนเคยบอกว่า “ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ” ถ้าย้อนไปสักสิบปีก่อน ฉันคงเห็นด้วยกับคำพูดนี้และเชื่อว่าเมื่อเราทำใจให้รักในสิ่งที่ทำ อะไรๆ ก็จะดีเอง แต่ตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าจะรักในสิ่งที่ทำอยู่ได้จริงหรือ  


                เรียงขนมใส่ลังเสร็จ ฉันทิ้งอุปกรณ์ขนมไว้ รีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปส่งขนมให้ลูกค้า แล้วก็เอาอีกส่วนไปวางขายหน้าโรงอาหารที่มีร้านค้าเปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ผ่านไปสองชั่วโมงก็ขายหมด พอกลับถึงบ้านฉันก็หมดแรงเกินกว่าจะไปเก็บล้าง วันรุ่งขึ้นฉันตื่นมาพร้อมกับอาการอ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ นอนพักไปทั้งวัน วันถัดมาถึงไปเก็บล้างอุปกรณ์ ที่คิดวางแผนไว้ว่าจะทำขนมทุกวันให้เป็นรายได้จริงจังเป็นอันว่าพับไป ทำหนึ่งวัน พักหนึ่งวัน เก็บล้างอีกหนึ่งวัน ไม่ได้พังแค่ร่างกาย ตอนนี้ใจก็ไม่อยากสู้แล้ว พอนั่งนับเงินทั้งหมดหักต้นทุน ก็จะเหลือเกือบพันเป็นรายได้ที่มากที่สุดตั้งแต่เริ่มทำขนมขายมา ฉันแบ่งส่วนหนึ่งจ่ายหนี้ ซื้อวัตถุดิบที่หมด และกันอีกส่วนหนึ่งไว้ซื้ออุปกรณ์สำหรับสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ฉันนึกถึงร้านกาแฟเล็กๆ ร้านนั้น Small Happy Entrepreneur อยากมีธุรกิจเล็กๆ ที่ทำอย่างมีความสุขให้ได้  

โปรดติดตามตอนต่อไป


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup