Starting a Business

10 ปีไม่สาย ปอย-ตรีชฎา ยอมถอยธุรกิจแรกที่ 2 วันขายได้ 5 หมื่นชิ้น เพื่อกลับมารุกอีกครั้งในวันที่พร้อม

Text : รัชนี พันธ์รุ่งจิตติ  Photo : กิจจา อภิชนรจเรข





     ภายใต้ความสวยของเธอที่มีรางวัลจากเวทีในประเทศและต่างประเทศรองรับแล้ว ยังเป็นที่กล่าวขานถึงในบทบาทของนักแสดงไปสร้างชื่อเสียงได้ร่วมงานกับนักแสดงระดับท็อปลิสต์ของฮ่องกง และในตัวตนอีกด้านที่น้อยคนจะรู้จักคือ การทำธุรกิจที่เธอนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเครื่องสำอาง ตลอดจนการศึกษาเรื่องพันธุกรรมในเชิงลึก เปิดโรงงานรับวิจัยและผลิตอาหารเสริม
           
     SME Statup จึงชวนเธอคุยในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โหยหามาตรฐานการผลิตขั้นสูง และก้าวย่างของการเป็นผู้ประกอบการอย่างจริงจังแม้จะต้องใช้เวลาเนิ่นนานแต่ก็ไม่มีคำว่าสายสำหรับเธอเพื่อให้ทุกอย่างเป็นมาตรฐาน



 

     นักสังเกตคุณสมบัติเบื้องต้นที่ติดตัวแต่เด็ก   


     เพราะความที่่อยากจะเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่เด็กเธอมีความเชื่อว่าการเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบได้จะต้องเป็นผู้หญิงที่ไม่เกินธรรมดาดูพอดี โดยพยายามศึกษาสังเกตจากคนรอบตัวทั้ง บุคลิกภาพ มรรยาท แม้แต่ผิวพรรณ

    "ด้วยความที่ผิวเราไม่ดีเท่าเพื่อนอยู่แล้ว เลยพยายามศึกษาว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้ผิวเราดีแบบผู้หญิง ซึ่งมีหลายปัจจัย ตั้งแต่ แสงแดด การรับประทานอาหาร ฮอร์โมน ปอยเลยลองทุกอย่างด้วยตัวเอง ไ่ม่ว่าจะเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ซึ่งปอยสังเกตว่า ทำไมมดไม่ขึ้นน้ำผึ้ง เลยทำการทดลองจนค้นพบว่า ความเข้มข้นของน้ำตาลมันสูงมากจนแบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ทีนี้สาเหตุที่ทำให้สิวอักเสบคือ แบคทีเรีย ปอยก็เอาน้ำผึ้งมาทาสิวก็หายเร็ว นี่คือการตั้งสมมติฐานแล้วทดลองเอง"


     "จำได้ว่าช่วง ม.6 ผิวปอยเปลี่ยนไปเลย ถึงขนาดคนรอบข้างบอกว่าผิวดีมากไปทำอะไรมา ตอนนั้นถามว่าปอยซื้ออะไรกินหรือเปล่า ก็เริ่มซื้อแต่ว่าไม่ถูกใจเลย เพราะว่าพออ่านส่วนประกอบด้านหลังกล่องก็รู้เลยว่ามีสารที่ทั้งดีและไม่ดี ปอยจึงมีคำถามในใจว่า ทำไมไม่เอาตัวที่มันดีของกล่องนี้กับที่ดีอยู่แล้วของอีกกล่องมารวมกัน ตอนนั้นเราไม่มีโอกาส ก็มีความฝันว่า วันหนึ่งจะเอามารวมกันแบบนี้ แต่ไม่ได้คิดไปไกลถึงเรื่องธุรกิจ คิดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้เราสวยได้”
 




     สุตรในแบบเฉพาะตัว

     นอกจากช่างสังเกต ชอบทดลองด้วยตัวเองแล้ว จนทำให้มีคำถามมากมายที่ค้างคาในใจ จนวันหนึ่งมีโอกาสได้ไปศูนย์ Anti-Aging โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งหมอจะทำวิตามินให้กับผู้ที่ผ่านการตรวจเลือดเท่านั้น หลังจากที่ผล interpret ผ่านแล้วหมอจึงได้นัดเธอไปพบ


     "จริงเรามีสูตรในใจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจหาญในการแสดงความเห็นใดๆ จนกระทั่งเหลือเวลา 5 นาที คุณหมอบอกว่ามีอะไรสงสัยถามหมอได้ สองจิตสองใจว่าจะพูดดีไหม สุดท้ายก็โพล่งออกมา พูดหมดเลยว่าปอยมีสูตรในใจแบบนี้ ตัวนี้กินแล้ว ทำให้เพิ่มไขมันในเลือด ตัวนั้นทำให้เกิดภาวะกรดในเลือดสูง คุณหมอก็ตกใจ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน สุดท้ายคุณหมอก็เมตตาเห็นด้วยให้โอกาสทำวิตามินในแบบที่ปอยต้องการ และแนะนำเราว่า รับประทานวิตามินเยอะไม่ได้เป็นสิ่งที่เหมาะสมเลย นั้นคือการเบิกเนตรอีกครั้งของปอย ต้องขอบพระคุณคุณหมอมากๆ  หลังจากได้รับประทานวิตามินในสูตรที่เราใฝ่ฝัน ช่วงนั้นทุกคนบอกว่าปอยผิวผ่องมาก ตามที่เราสมมติฐานไว้เป๊ะๆ มีเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการมาถามเยอะมาก เราก็บอกไปว่าไปหาแผนกของโรงพยาบาลนี้มา แต่คุณหมอไม่ทำแบบของปอยให้เพื่อนๆ ปอยเลยแบ่งของปอยให้ทุกคน ซึ่งหลังจากนั้น ผลลัพธ์คือเพื่อนๆ กลับมาหาแล้วบอกว่าผิวดีที่สุดตั้งแต่เคยกินวิตามินมา"






    ธุรกิจแรกที่เกินฝัน 2 วัน 5 หมื่นชิ้น


    คำพูดของเพื่อนเหมือนจุดประกายให้ปอยคิดเรื่องการทำธุรกิจ จึงได้ไปปรึกษาคุณหมอ  ติดต่อหาซัพพลายเออร์พร้อมกับบอกสูตรตัวเองให้ฟัง หลังจากนั้นก็ได้รับใบเสนอราคาที่ทำให้แทบหงายหลังเพราะราคาสูงมาก ด้วยเหตุผลที่ต้องนำเข้าส่วนประกอบต่างๆ จากต่างประเทศ เธอจึงต้องพับโครงการไปชั่วคราว ระหว่างนั้นก็เริ่มคิดชื่อแบรนด์ ปรากฏได้คำว่า Furefoo เป็นคำที่ไม่มีความหมาย แต่เป็นความตั้งใจจะบัญญัติคำขึ้นมาใหม่ สุดท้ายพอมีเงินทุนมากพอ เมื่อมีเงินทุนมาพอ ไปจ้าง OEM ก็ได้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Furefoo 50,000 กล่อง


     “ตอนนั้นปอยคาดว่า 5 หมื่นกล่องจะขายหมดใน 1 ปี แต่ปรากฏว่าหมดภายใน 2 วัน ถามว่าทำมาร์เก็ตติ้งหรือเปล่า แทบจะไม่ได้ทำเลย ช่วงนั้น (ปี 2554 ) มีคนติดตามอินสตาแกรมไม่เยอะมาก แต่สิ่งที่ทำมาตลอดคือ เราลงภาพทุกขั้นตอนมาตลอดเป็นปี เช่น กำลังตอกเม็ด กำลังทดลอง ตอนใกล้ๆ ก็ประกาศว่า launch วันนี้นะ แล้วจำได้วิธีการขายของปอยคือเตรียมโทรศัพท์ 10 คู่สาย แต่คิดว่าคนน่าจะโทร.มา 3 คู่สาย เลยมีคนนั่งแค่ 3 คน สุดท้ายทั้งปอย แม่บ้านทุกคนต้องมาช่วยกันรับโทรศัพท์ แล้วในทุกสายจะโชว์ว่ามีอีกกี่สายที่รอ ทุกเครื่องมีสายรอ 400-500 สาย ภายใน 2 วันขายหมด แล้วยังมีลูกค้าที่ค้างอีกเยอะมาก”
 




     ยอมถอยเพื่อกลับมารุกอีกครั้ง


     ในขณะที่ธุรกิจกำลังบูม ปอยอีกหนึ่งบทบาทก็ทำหน้าที่การตลาดออกสื่อ จนวันหนึ่งเริ่มทบทวนว่าคววรจะถอยตัวเองออกมาก่อน เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าอาศัยการการเป็นนักแสดงมาทำธุรกิจโดยที่ไม่รู้อะไรเลย


     "ต้องยอมรับว่าคนที่ซื้อ ซื้อเพราะปอย ซึ่งจริงๆ แล้วปอยต้องการให้คนซื้อด้วยตัวแบรนด์เอง อย่างไรก็ตามพอปอยออกมาปุ๊บยอดขายตก พอยอดขายตกปอยยอมรับแต่ลูกน้องไม่เข้าใจ ปอยต้องทำความเข้าใจกับลูกน้องเยอะมาก กว่าเราจะทำให้พวกเขาเชื่อเหมือนที่เราเชื่อไม่ง่ายเลย"


    ในที่สุดเธอตัดสินใจเลือกเรียนปริญญาโท สาขาวิชาพันธุศาสตร์ระดับโมเลกุลและพันธุวิศวกรรมศาสตร์ ที่เรียนเกี่ยวกับพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ที่ลงลึกลงไปถึงขั้นว่าหนึ่งอวัยวะเกิดจากการร่วมมือกันของเนื้อเยื่อ และท้ายที่สุดแล้วเนื้อเยื่อเหล่านั้นเกิดจากเซลล์หลายๆ เซลล์รวมกัน แต่ละเซลล์เป็นเสมือนบ้านที่เก็บสิ่งที่สำคัญที่สุดของสิ่งมีชีวิต นั่นคือรหัสพันธุกรรม และต้องเป็นแบบเฉพาะเหมือนเป็นบาร์โค้ดประจำตัว บ้านแต่ละหลังจะปกป้องสิ่งนี้ให้ดีที่สุด


     "เหมือนเราเป็นสถาปนิกของสิ่งมีชีวิต ปอยเลือกเรียนเพราะอยากเรียนสิ่งที่ใช้ได้จริง ต่อยอดธุรกิจของปอยได้ คือต่อไปแทนที่มนุษย์จะบริโภควิตามินเป็นเม็ด อาจจะเป็นแค่ป้ายนิดเดียว หรือกินยาเม็ดเล็กลงแล้วไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายเลย”





      BIOMT ห้องแลบวิจัยและสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาตราฐาน GMP ใจกลางเมือง การลงทุนที่คุ้มค่า


     ด้วยความที่ได้มีโอกาสไปดูงานต่างประเทศหลายครั้ง ทำให้ได้เปิดโลกทัศน์ โดยเฉพาะการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แล้วได้เห็นโรงงานเป็นตึกเล็กๆ อยู่ใจกลางเมือง แต่เรียบร้อย สะอาดมาก จนทำให้ปอยเก็บเอามคิดว่าถ้าจะทำโรงงานต้องทำให้ได้แบบนี้ จนเมื่อเธอได้มาเจอพาร์ตเนอร์ คุณโอ๋-ชลธิชา ชวาลเวชกุล คุณโอ๋จบ วิศวกรรมอุตสาหการ(IE)  โรงงานที่อยู่ใจกลางเมือง สุขุมวิท 23 จึงเกิดขึ้น


    “ถ้าพูดถึงไอเดียการทำมาตรฐาน ปอยมั่นใจว่า BIOMT ของเราเจ๋ง เวลาทำอะไรปอยมักจะคำนวณ 3 ซ้ำเสมอ การเปิดสถานที่ผลิตก็เช่นกัน คำนวณไปถึง Worst Case Scenario การคำนวณเราแยกส่วนระหว่าง OEM กับโปรดักต์ของเราเอง สมมติถ้าฝั่งนี้เป็นศูนย์จะเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝั่ง แล้วโชคดีตอนเราเริ่มทำเกิดวิกฤตโควิด-19 พอดี ทำให้เราเห็นภาพเลยว่าเวลาที่เกิดวิกฤตเป็นอย่างไร อีกอย่างเราทำแบรนด์มา 10 ปี มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว เราคำนวณแล้วว่าถ้าผลิตเองยังไงทุนมันก็อาจจะเท่ากันหรือถูกกว่าขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ซึ่งพอมาผลิตเองสิ่งที่ทำได้คือ เราทำทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้นกว่าเดิม ควบคุมความสะอาดของทุกอย่างให้สะอาดที่สุด"
               

     “10 ปีที่ผ่านมาในการบริหารธุรกิจของปอย เป็นการเรียนธุรกิจจากของจริง ผิดพลาดมาก็เยอะ แต่สุดท้ายเราได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยทำ ทุกวันนี้ปอยไม่ปฏิเสธการเรียนทฤษฎีเลย แต่แม้เราจะเรียนการทำการจัดการ บัญชี รีเสิร์ช ดาต้า แต่สุดท้ายการทำธุรกิจก็ขึ้นอยู่กับการปรับตัว ทฤษฎีมันเป็นหลักการ แต่สิ่งสำคัญมันคือประสบการณ์กับชั่วโมงบิน"


    ทุกวันนี้อาจเห็นเธอผ่านหน้าจอโทรทัศน์น้อยลง เพราะเธอเลือกที่จะอยู่กับธุรกิจความงาม 


     "ตอนที่ทำสถานที่ผลิตใหม่ๆ หยิกตัวเองทุกวันว่าฝันไปหรือเปล่า เพราะรู้สึกทุกวันว่าเหมือนจะไม่พร้อม เพราะรู้ว่ามันมาพร้อมกับภาระที่ยิ่งใหญ่มาก แต่สุดท้ายด้วยวันเวลาที่ผ่านไป เราเห็นลูกค้าที่เชื่อมั่นในเรา ลูกค้าที่เหมือนกับตั้งหน้าตั้งตารอเรา มันทำให้เรามีแรงบวกกับพาร์ตเนอร์ที่บอกว่าเราทำได้ ไม่มีอะไรในโลกที่ทำไม่ได้ พาร์ตเนอร์ของเรา นอกจากคุณโอ๋ ยังมีที่ปรึกษาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ หลายท่าน รวมถึงนายแพทย์ Erik H.Fleischman คนที่มาทำงานกับเราเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลมากๆ แล้วเวลาเราทำงานแบบนี้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ รู้สึกท้าทายแล้วสนุกมาก คือปอยจะพูดว่า ปอยเน้นโปรดักต์เป็นหลัก เน้นคุณภาพ นวัตกรรม เทคโนโลยี ว้าว ใหม่ เจ๋ง ไม่เหมือนใคร ชนะ นั่นคือสิ่งที่มันอยู่ในสายเลือด ในดีเอ็นเอ แล้วปอยจะชอบมากในการทำสิ่งนี้”


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup