Starting a Business

​BKKFIT Sportswear for Everyone





Text : รัชนี พันธ์รุ่งจิตติ 
Photo : กฤษฎา ศิลปไชย


    If you do what you love, you'll never work a day in your life ...

    เพราะเข้าใจในประโยคนี้  โปร-พิรุฬห์ เตชะพงศ์ธาดา และ เบว-นัยนา ฐานะศิริพงศ์  จึงเลือกที่จะเบนเข็มสู่เส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ ทันทีที่ทั้งคู่เรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัย 

     ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมช้อปปิ้งออนไลน์ บวกกับการชอบออกกำลังกาย ทำให้ทั้งคู่มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ จึงตัดสินใจควักกระเป๋าร่วมลงทุนทำเสื้อกีฬาแบรนด์ BKKFIT ขายผ่านเฟซบุ๊คและอินสตาแกรม 
 



    “โชคดีที่ตอนเรียนได้มีโอกาสไปฝึกงาน  ทำให้รู้สึกแต่เนิ่นๆ ว่าชีวิตหนุ่มสาวออฟฟิศไม่เหมาะกับเราเลย จึงคิดกันว่าเอาความตั้งใจที่จะอยู่ตรงนั้นมาทำอะไรของตนเองดีกว่า และเห็นว่าเบวเป็นผู้หญิงที่รักสุขภาพเป็นบล็อกเกอร์เขียนความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพทั้งในแง่อาหารการกินและการออกกำลังกาย มีฐานจำนวนคนที่ติดตามอยู่มาก ประมาณหมื่นคน แล้วเบวเองก็จะมีปัญหาคือไม่อยากซื้อชุดออกกำลังกาย เพราะถ้าเป็นแบรนด์ดังๆ นี่จะแพงมาก จนคุยกันว่าที่ต่างประเทศเขาทำพวกเสื้อใส่เล่นกีฬาที่มีคำพูดหรือโค้ดดีๆ ที่เป็นแรงนับดาลใจหรือแรงจูงใจให้เล่นกีฬา ก็เลยเป็นที่มาในการสร้าง BKKFIT กันขึ้นมา” โปร เล่าที่มาของ BKKFIT ที่เกิดขึ้นเมื่อมีทั้งไอเดียและจำนวนคนติดตามในฐานะบล็อกเกอร์เป็นทุนตั้งต้น
 




    Bangkokcitybeas, stayfit‬,  I don’t sweat, i sparkle …

    เหล่านี้ คือคำพูดที่ถูกสกรีนบนเสื้อกีฬาของ BKKFIT โดยโปรขยายความว่า เขาต้องการให้ BKKFIT เป็นเสื้อออกกำลังที่ไม่น่าเบื่อ ขายดีไซน์ การมีโค้ดคำพูดสกรีนบนเสื้อซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับคนออกกำลังกายในบ้านเรา  ขณะที่เบล ย้ำจุดแข็งของแบรนด์ถึงเนื้อผ้าว่า บางแบรนด์จะใช้ผ้าคอตตอน 100% ซึ่งถ้าใส่ออกกำลังกายแล้วจะร้อน แต่ BKKFIT จะเลือกผ้าผสมสแปนเด็กซ์ โพลีเอสเตอร์  

    “การออกกำลังกายในปัจจุบันจะมีเรื่องของแฟชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง สาวๆ ที่จะไปออกกำลังกายมักจะต้องแต่งตัวสวยๆ เพราะการได้แต่งตัวก็เป็นการกระตุ้นให้อยากไปยิม แล้วสาวๆ ที่ไปยิมทุกวันจะให้ไปซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ ราคาเป็นพันก็คงไม่ไหว แต่ BKKFIT เรามีคอนเซ็ปต์คือ sportswear for everyone   คือใครก็ใส่ได้ จะใส่ไปเที่ยวก็ยังได้ ซื้อไปเพื่อให้ตัวเองมีแรงกระตุ้นในการออกกำลังกาย นอกจากการสกรีนพวกโค้ดคำพูดดีๆ แล้ว ผ้าเราก็ต้องเลือกที่เหมาะด้วย โดยเราจะเอาไปให้เทรนเนอร์ทดลองใส่ก่อน ถ้าเขาบอกว่าผ้านี้โอเค เราถึงจะสั่งตัด โดยหลักๆ เราจะเลือกผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี ไม่บาดเนื้อ ตอนนี้มีบางคนใส่เป็นทีมเลย บางคนซื้อไปฝากเพื่อนต่างชาติก็มี”

 



    แน่นอนว่า ในวัย 23 ปีของทั้งคู่แม้จะไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อน แต่ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตบนออนไลน์ จึงเข้าใจพฤติกรรมของคนในโลกออนไลน์ได้ดี ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าด้วย ด้วยเหตุนี้แม้จะเปิดร้านค้าบนอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ค แต่เบวบอกว่า หากได้เข้าไปในเพจของ BKKFit apparel ก็จะเห็นว่าเป็นเพจที่ให้ทั้งความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับบรรดานักออกกำลังกายด้วย 

    “เราไม่ได้ทำเพจเพื่อขายของอย่างเดียว เราพยายามสร้างเป็นคอมมูนิตี้มากกว่าการหวังที่จะขายของด้วยซ้ำ เราอยากให้เป็นที่ที่คนชอบการออกกำลังกายได้มารวมกลุ่มกัน แลกเปลี่ยนความคิดกัน เพราะถ้าขายของไปด้วยมีคอมมูนิตี้ด้วย คนก็อยากจะติดตามเรา เขาไม่น่าจะใจร้ายถึงกับเลิกติดตามเรา สมมติว่าวันๆ ลงแต่รูปสินค้า ใครจะอยากมาติดตามเพจเรา ดังนั้น เราจะทั้งมีวิดีโอออกกำลังกาย  ให้คำแนะนำ ความรู้ สร้างความสัมพันธ์กับผู้คน ให้เขารู้สึกว่าเพจนี้มันสนุก มีความรู้ แล้วถ้าสนใจค่อยซื้อสินค้าเราก็ได้ คือเรามองว่าขายของใครๆ ก็ขายได้ แต่ทำอย่างไรให้ขายได้ในระยะยาว เราก็ต้องสร้างแบรนด์ให้คนเชื่อในสินค้าเราและเพจเรา บางทีลูกค้าก็มาถามเรื่องการออกกำลังกาย เราก็ให้คำแนะนำไปเพราะเราเล่นประจำอยู่แล้ว และเราจะแนะนำเสื้อที่เหมาะสมให้กับเขา”

 


    แม้ทั้งคู่จะเป็นมือใหม่ในการทำธุรกิจ แต่ถ้าดูจากความคิดและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ รวมถึงเป้าหมายที่จะขยายสู่การทำเป็นธุรกิจขายส่งในปีนี้ เชื่อว่าอนาคตของ BKKFIT จะเติบโตได้อย่างสวยงามสมความตั้งใจของพวกเขา

    FB : BKKFit apparel
    IG : BKKFit_apparel