Text : Yuwadi.s

     บางทีโอกาสก็มาในรูปแบบของวิกฤติ เหมือนอย่างที่อดีตแอร์โฮสเตสต้องเจอในช่วงโควิดทำให้เธอได้ค้นพบสกิลใหม่ของตัวเองนั่นคือการทำขนม จึงเริ่มต้นทำขายและกลายเป็นอาชีพสุดปัง เปิดรับออเดอร์เดือนแรกก็คว้าเงินแสนได้ เธอจึงต่อยอดเงินนั้นด้วยการนำไปลงเรียนเป็นเชฟขนมหวานแบบจริงจัง นี่คือสตอรี่ของ อีฟ - อรณิชายาฎ์ แก้วอยู่พิทักษ์ โดยเธอเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้อาชีพแอร์โฮสเตสคือความฝันของเธอ เธอเคยคิดว่าคนเรามีความชอบได้แค่อย่างเดียว แต่โควิดกลับเปลี่ยนความคิดของเธอ

     “แต่ก่อนอีฟเคยคิดว่าคนเราจะมีความชอบได้แค่อย่างเดียว ความฝันคือเป็นแอร์ฯ ไม่เคยคิดเลยว่าเราจะชอบอะไรนอกจากการเป็นแอร์ฯ แต่พอถึงเวลาวันหนึ่งที่ชีวิตมันต้องหาทางเลือก ถ้าไม่เกิดโควิด เราก็จะไม่รู้ว่าจริงๆ เราก็มาด้านนี้ได้นี่หว่า สุดท้ายก็ได้ใบประกาศเป็นเชฟ ทุกอย่างเกิดจากความพยายาม คนเราไม่จำเป็นต้องมีความสามารถด้านเดียว”

     จุดเริ่มต้นของร้านขนมชื่อแซ่บซ่าอย่าง กลีบโลกีย์ มาจากการที่อีฟมองหาอาชีพอะไรที่จะทำให้ชีวิตมั่นคงหลังจากการเลิกเป็นแอร์ฯ  เพราะในช่วงโควิดสายการบินใหม่ที่เธอสมัครไปกลับเลื่อนการเรียกตัว ทำให้เธอมองหาอาชีพใหม่ๆ จนในที่สุดก็ค้นพบความสามารถด้านการทำขนมที่ซุกซ่อนอยู่

     “ก่อนหน้านี้อีฟเป็นแอร์ฯ แล้วก็หยุดบิน เลยสมัครสายการบินใหม่ตอนปี 2019 เกิดโควิดแล้วก็เลื่อนการเรียก อีฟก็คิดว่าเราจะได้กลับไปบินตอนไหน ระยะเวลาบินมันสั้นด้วยเพราะอายุเราเริ่มเยอะ ก็คิดว่ายังไงดี จะมีอาชีพไหนที่เราจะทำต่อได้ตอนแก่ อีฟเลยลองเอาจักรเย็บผ้าแล้วลองสั่งเตาทำขนมมา เริ่มทำ 2 อย่างพร้อมกัน อีฟลองนั่งเย็บผ้าดู ก็คิดว่าไม่ใช่ทาง เลยลองเปิดยูทูป ทำขนมดีกว่า ตอนนั้นมีคลิปทำมาการอง เลยลองทำ เอ้ามันทำได้ ออกมาดีเลยก็โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพื่อนๆ ก็ชม งั้นก็นี่แหละ ทางเราแน่นอน เลยเริ่มทำขนม”

     โดยช่วงแรก เธอเริ่มคิดว่าจะทำเป็นขนมไทย จากกลีบลำดวนและอาลัว จึงกลายเป็นที่มาของชื่อร้านกลีบโลกีย์ที่แซ่บซ่าและฮาในสไตล์ของเธอ แต่ทดลองสูตรของขนมทั้งสองอย่างแล้วยังไม่ปัง จนในที่สุดก็ทดลองทำชีสเค้กเยิ้ม ขนมที่สร้างเงินแสนให้เธอได้ตั้งแต่เดือนแรก

     “จากหลังที่เราทำมาการอง ก็คิดว่าจะทำขนมอะไรขายดี เริ่มจากขนมไทยไหม จะได้แตกต่าง อีฟเลยลองทำกลีบลำดวนกับอาลัว แล้วให้เพื่อนลองชิม เขาก็แบบ จริงๆ ก็ทำได้นะ ลองตั้งชื่อร้านไหม อีฟก็งั้นกลีบสวรรค์ไหม เพราะเราจะทำกลีบลำดวน เพื่อนเลยบอก คนจังไรแบบเราต้องกลีบโลกีย์ เราก็คิดว่าจะใช้ชื่อนี้ได้จริงเหรอวะ แล้วมันดันพ้องเสียงภาษาอังกฤษกับ Keep Low key ก็เลยเป็นชื่อนี้ แต่พอทำให้เขาชิม ยังไงก็ยังไม่อร่อย เหมือนโดนสูตรในเน็ตแกง เราก็แบบยังไงดี ตอนนั้นเห็นเชฟก้องเปิดสอนชีสเค้ก เราก็ไปลงเรียนกับเขา เลยเป็นชีสเยิ้มตัวแรก ทำแล้วมันปัง ตอนนั้นเปิดพรีออเดอร์ เดือนนั้นเราได้ยอดขายแสนแปด เราเลยเอาเงินก้อนหนึ่งไปเรียนเบเกอรี่ที่ดุสิตธานี เพราะคิดว่าเราต้องมีความรู้เพิ่มเติม”

     ขนมของร้านกลีบโลกีย์ นอกจากจะมีชีสเยิ้มแล้ว ยังมีไดฟุกุ โรลชาเขียวถั่วแดง คุกกี้ไต้หวันและล่าสุดยังมีแซนวิสโบราณ โดยอีฟเล่าว่าหลังจากที่เธอไปเรียนทำขนม ทำให้เธอสามารถทำขนมได้แทบทุกอย่าง สิ่งสำคัญคือการพัฒนาตัวเองตลอดเวลาอีกทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี สื่อสารกับลูกค้าเหมือนคนในครอบครัวทำให้ร้านของเธอเปิดพรีออเดอร์เมื่อไหร่ก็มีออร์เดอร์ถล่มทลาย