Text : Vim Viva

      ด้วยเข้าใจดีถึงธรรมชาติของนักเขียน นักประพันธ์ว่าหลายคนประสบปัญหากับอาการผัดวันประกันพรุ่งจนทำให้ทำงานไม่ทันกำหนดเส้นตาย จึงมีนักเขียนกลุ่มหนึ่งนำโดยทาคูยะ คาวาอิได้ลงขันกันเปิดคาเฟ่แห่งหนึ่งในย่านโคเอนจิ คาเฟ่ดังกล่าวมีชื่อว่า Manuscript Writing Cafe หรือ คาเฟ่ปิดต้นฉบับ นั่นเอง

     คาเฟ่ที่ว่าตั้งอยู่ในย่านโคเอนจิและเป็นคาเฟ่ขนาดเล็กมีเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น เปิดขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มนักเขียนหรือคนที่ทำงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ที่ต้องทำงานให้เสร็จทันเวลา โดยบริการจะแตกต่างจากคาเฟ่อื่นตรงที่พนักงานจะคอยบริการกระตุ้นหรือกดดันให้ลูกค้าพิมพ์งานจนกว่าจะเสร็จ ระหว่างทำงาน ทางร้านมีบริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟแบบริการตนเอง รวมถึงปลั๊กไฟ สัญญาณอินเทอร์เน็ต และอื่นๆ ทุกโต๊ะเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการทำงาน

     ทางร้านได้กำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ในการใช้บริการ เมื่อลูกค้าเดินเข้าร้านจะได้รับการ์ดใบเล็กๆ ให้เขียนชื่อและเป้าหมายที่ต้องการ เช่น ต้องการเขียนงานจำนวนกี่คำ ภายในกี่ชั่วโมง โดยมีการระบุเวลาจากกี่โมงถึงกี่โมง จากนั้น พนักงานจะเดินมาตรวจสอบทุกชั่วโมงพร้อมกับคำเตือน ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกการเตือนได้ 3 ระดับ ได้แก่ เตือนเบาๆ เตือนแบบธรรมดา และเตือนแบบดุดัน

     การเตือนทั้ง 3 แบบจะใช้น้ำเสียงและถ้อยตำแตกต่างกัน ยกตัวอย่าง “เป็นไงบ้าง” สำหรับการเตือนเบา ๆ  “ใกล้เสร็จยัง คุณเหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง” คือการเตือนธรรมดา และหากเป็นการเตือนดุดันจะใช้ถ้อยคำที่ไม้ไว้หน้าและทำให้อับอายนิดๆ สนนราคาค่าบริการคิดตามเวลา เริ่มต้นที่ 150 เยน (เกือบ 40 บาท) ในช่วง 30 นาทีแรก และชั่วโมงต่อไปคิดค่าบริการชั่วโมงละ 300 เยนหรือราว 75 บาท

     อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขอย่างหนึ่งที่กำหนดไว้คือหากงานไม่เสร็จ ลูกค้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากร้านหรือไม่ก็ต้องอยู่จนกว่าร้านจะปิดตอน 1 ทุ่ม นอกจากนั้น สำหรับลูกค้าที่ทำงานไม่เสร็จ ทางร้านยังเขียนรายชื่อไว้บนกระดานเพื่อเป็นการกระตุ้นอีกด้วย  

     ลูกค้าที่ร้านประกอบด้วยกลุ่มนักเขียนการ์ตูน นักเขียนนวนิยาย นักเขียนด้านต่างๆ และบรรดาบรรณาธิการ นักเขียนนวนิยายโรแมนติกรายหนึ่งเล่าว่าในการเขียนงานแต่ละตอนประมาณ 3,500 ตัวอักษร หากทำงานที่บ้าน เธอจะใช้เวลาเป็นวัน แต่พอมาใช้บริการคาเฟ่ปิดต้นฉบับ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็เขียนเสร็จ

     นักเขียนรายนี้ยังเล่าอีกว่าหากใช้บริการที่คาเฟ่ทั่วไป เธอจะขาดสมาธิเพราะเสียงต่างๆ และผู้คนรอบตัว อิโนะคาว่า พนักงานของร้านกล่าวว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้งานเสร็จทันเวลาเพราะลูกค้าแต่ละคนจะใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าโดยไม่พูดคุยหรือวอกแวก ทำให้คนที่อยู่ข้างๆ พลอยมีสมาธิไปด้วย  

     ทาคูยะ คาวาอิ เจ้าของคาเฟ่กล่าวว่าสิ่งสำคัญคือการสนับสนุนและให้กำลังใจลูกค้า ไม่ใช่การจับผิด คาเฟ่ปิดต้นฉบับกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียขึ้นมา แต่ก็มีเสียงสะท้อนว่ากฎระเบียบต่างๆ ช่างดูน่าอึดอัด หรือน่าจะให้ความรู้สึกเหมือนมีใครมายืนกดดันข้างหลัง แต่ถ้ามาลองใช้บริการจะพบว่ามันเห็นผล ทำให้ย่นระยะเวลาในการผลิตงานลงได้จริง บางคนเคยใช้เวลาเป็นวัน พอหอบคอมพิวเตอร์มาทำที่คาเฟ่นี้ ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงงานก็เสร็จ ช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา คาเฟ่ปิดต้นฉบับได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว คาวาอิคาดหวังว่าการบอกกันปากต่อปากของลูกค้าจะช่วยได้

ที่มา :
-https://www.insider.com/japanese-cafe-for-writers-doesnt-let-you-leave-finish-manuscript-2022-4
-https://www.vice.com/en/article/qjb9m3/manuscript-cafe-japan-remote-work-writing-productivity
-https://www.spoon-tamago.com/2022/04/13/koenji-writing-cafe/?fbclid=IwAR2oaz5m5k-br4j-Uy5x2YLldQuOtCDBIUPJ3sXWwt_2RCnO9HLwvd82aGY&mibextid=Zxz2cZ


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup