Starting a Business

ถอดความสำเร็จ Eitan Bernath จากเชพสู่อินฟลูเอนเซอร์วัยรุ่นชื่อดัง ที่มีผู้ติดตาม TikTok 2 ล้านคน

 

Text : flymetothemoon

     Eitan Bernath เป็นอินฟลูเอนเซอร์อาหารชื่อดังวัย 20 ปี โดยช่อง Tiktok ของเขามีผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านคน นอกจากการเป็นคนดังในโซเชียลมีเดียแล้ว Eitan ยังเขียนหนังสือ Eitan Eat The World และเป็น CEO ของ Eitan Production อีกด้วย ในบทความนี้จะมาแชร์เทคนิคของ Eitan ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในวงการอาหารกัน

     1. คิดและเริ่มทำในทันทีไม่ต้องกลัวที่จะผิดพลาด

         Eitan เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเข้าร่วมรายการแข่งขันการทำอาหาร Chopped ตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี หลังจากที่เข้าร่วมการแข่งขัน Eitan ได้เริ่มสร้างช่องโซเชียลมีเดียของตัวเอง โดย Eitan ได้ให้คำแนะนำในการเริ่มทำช่องทางโซเชียลมีเดียซึ่งเป็นหนึ่งในการตลาดสำคัญว่าให้เริ่มทำในทันที 

         “ก่อนเริ่มต้นเราจะมีเหตุผลมากมายที่ทำให้เราหยุดความคิดที่จะเริ่มต้นอย่างแสงในบ้านยังไม่ได้ กล้องไม่มีคุณภาพ คอนเทนต์ไม่ดี ในการเริ่มต้นไม่มีใครที่ดีตั้งแต่ตอนแรกให้เราใช้สิ่งที่มีและลงมือทำเลยและเราจะค่อยพัฒนาขึ้นเอง ค่อยเปิดรับสิ่งใหม่ๆ หากเจอความคิดเห็นในแง่ลบที่ไม่เป็นผลดีกับเราอย่างการล้อเลียนทรงผม คุณอาจรู้สึกแย่แต่สิ่งนี้เป็นอีกสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณทำสำเร็จแล้วเพราะพวกเขาใช้เวลาของเขาที่มีอย่างจำกัดในการดูวิดีโอของคุณ”

 

 

     2. เป็นตัวของตัวเอง

         ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับตัวตนของคนที่ดูก่อนดูสิ่งที่คนนั้นทำ ถึงแม้ความตั้งใจแรกของ Eitan คือการพาทุกคนเข้าห้องครัวไปกับเขา แต่ Eitan ก็รู้ว่าผู้คนที่ติดตามเขาไม่ได้มีแต่คนที่สนใจแต่เรื่องอาหาร บางกลุ่มที่ติดตามเขาคือคนที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์อื่นๆ ของเขา ดังนั้นคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดียของเขาจึงไม่ได้มีแต่เกี่ยวกับอาหารแต่เกี่ยวกับไลฟ?สไตล์ของเขาด้วยเช่นการเดินทางไปท่องเที่ยว รวมถึงคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสุนัขและแมวของเขาเพื่อให้ผู้ติดตามได้รู้จักเขามากขึ้น

     3. ขอความช่วยเหลือในสิ่งที่เราต้องการ

         ในการเริ่มทำธุรกิจหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จคือการขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ Eitan เริ่มมีชื่อเสียงจากการออกรายการอาหาร Eitan ในวัย 12 ปีได้เริ่มเขียนบล็อกสูตรอาหารของเขาเอง เขาได้ส่งอีเมลมากกว่า 100 อีเมลเพื่อเชิญให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารมาเป็นสปอนเซอร์ให้เขาโดยมีแม่คอยช่วยเหลือเขาในการเขียนอีเมล ซึ่งในที่สุดบล็อกของเขาก็มีสปอนเซอร์เข้ามาให้การสนับสนุน รวมถึงด้านการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ในบางครั้งที่ Eitan ไปร่วมงานสำคัญคนเดียวอย่างตอนไปร่วมงาน White House ทำให้ยากต่อการเก็บรูปมาทำคอนเทนต์ Eitan ก็จะขอให้คนอยู่แถวนั้นถ่ายรูปให้เขาเพื่อเก็บรูปรวมถึงการขอถ่ายรูปกับคนที่มีชื่อเสียงคนอื่นด้วย

         “วิธีแรกที่จะทำให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการคือการขอความช่วยเหลือ ถ้าคุณไม่ขอ คนอื่นก็จะไม่รู้ความต้องการของคุณและคุณก็ไม่ได้สิ่งที่คุณต้องการ”

 

 

     4. รู้ถึงกลุ่มเป้าหมาย

         Eitan รู้ว่ากลุ่มคนที่ติดตามเขาบนโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นและไม่ค่อยทำอาหารด้วยตัวเอง ดังนั้น Eitan จึงได้ตัดสินใจทำหนังสือสูตรอาหารของเขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นอย่างกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ค่อยเล่นโซเชียลมีเดีย

         “ฉันใช้เวลานานมากในการเขียนและรวบรวมสูตรอาหารที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนชอบหรือไม่ชอบทำอาหารก็สามารถทำได้”

     5. การทำคอนเทนต์คือการลงทุน

         ความชอบของ Eitan ที่ทุกคนรู้กันคือความชอบเกี่ยวกับอาหารแต่ Eitan ยังมีความด้านอื่นที่เข้าอยากจะทำและเขาไม่กลัวที่จะทำมัน นั่นคือการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับแฟชั่น

         “บางคอนเทนต์ที่ทำเกิดจากความชอบส่วนตัว อย่างชอบถ่ายรูปตัวเองใส่ชุดแฟชั่นในประเภทต่างๆ แน่นอนว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้เงินและเสียเงินค่อนข้างมาก แต่มองว่านี่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งในอนาคตอยากร่วมงานถ่ายแฟชั่นกับ Vogue หากเป็นไปได้”


ที่มา :

-https://www.entrepreneur.com/science-technology/eitan-bernath-on-becoming-a-teenage-food-entrepreneur-and/427021
-www.facebook.com/eitanbernath/

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup