Starting a Business

แค่อยากทำกางเกงใส่เองสู่แบรนด์ AnyOne Collection ที่ทำขายแค่ 2 ล็อตก็มียอดขายแตะแสนบาท

 

Text : Yuwadi.s

     จากความคิดที่ว่าอยากมีกางเกงที่ถูกใจเอาไว้ใส่คู่กับเสื้อสีเรียบ จนกลายเป็นแบรนด์กางเกงที่มียอดขายหลักแสนบาทตั้งแต่ 2 ล็อตแรก!

     โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์กางเกงลายน่ารักนี้มาจาก เบลล์-อรุณพร อัศวกาญจน์ ที่เธอมีประสบการณ์ขายออนไลน์มาก่อนจากธุรกิจอุปกรณ์สายเกมมิ่ง แต่กับธุรกิจเสื้อผ้านั้นประสบการณ์เป็นศูนย์ โดยเธอเล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นมาจากการที่เธอชอบใส่กางเกงขายาว อยากได้กางเกงที่ถูกใจมาใส่กับเสื้อสีเรียบๆ

 

 

ขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร คิดว่าทำใส่เอง

     “ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะทำมาเป็นรายได้ เหมือนเราเป็นคนชอบใส่กางเกงขายาวเพราะรู้สึกว่าขาสั้นไม่เรียบร้อย ด้วยความที่เราต้องไปเจอคนเยอะแยะ เลยชอบใส่ขายาวมากกว่าและเราเองมีเสื้อสีเรียบๆ เยอะ เลยอยากได้กางเกงลายๆ มาให้ตัดกับเสื้อเรียบๆ แล้วเวลาที่เราไปซื้อ เคยไหม มันจะมีแบบที่เราชอบลายร้านนี้ กระเป๋าร้านนี้ ขอบร้านนี้ แต่มันไม่ได้รวมในตัวเดียวกัน เราเลยคิดว่าเออ งั้นลองขายดีไหม อาจจะมีคนชอบเหมือนกับเรา”

     หลังจากที่เธออยากได้กางเกงที่ถูกใจ เธอก็เฟ้นหาร้านผ้า ช่างตัดเย็บ เริ่มต้นล็อตแรกด้วยกางเกง 115 ตัว ในใจตอนนั้นเธอบอกว่าถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร คิดว่าทำใส่เอง แต่กลายเป็นว่ามีลูกค้าชื่นชอบกางเกงแบบนี้เช่นเดียวกัน

     “ล็อตแรกเราเริ่มที่ 115 ตัว เริ่มจากไปเลือกลายผ้า เรามี 8 ลาย แล้วก็เอาแพตเทิร์นกางเกงที่เราชอบ ขอบแบบที่เราชอบ กระเป๋าที่เราชอบ ให้ช่างเขามิกซ์กัน เขาก็ทำให้ ตอนแรกไม่รู้เลยว่าจะขายใครดี ตั้ง 100 กว่าตัว แต่คิดว่าช่างมันเหอะ ทำมาแล้วถ้าขายไม่ได้ก็ใส่เองเพราะเราใส่อยู่แล้ว แต่แฟนก็บอกว่า เยอะขนาดนี้ จะบ้าเหรอ ใส่เอง ก็เลยลองเปิดเพจดู แล้วลงขายแล้วก็เริ่มยิงแอด ก็ขายได้”

 

 

อัดโปรโมชั่นกระตุ้นให้ซื้อซ้ำ

     โดยเธอเล่าว่าในช่วงแรก เธอเริ่มจากการยิงโฆษณาเพียงแค่วันละ 150 บาท ขายได้วันละ 1-2 ตัว โดยจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอเริ่มขายได้เยอะขึ้นและเป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้นนั้นมาจากการลงเงินที่การลงโฆษณามากขึ้น ทำให้เธอตัดสินใจเพิ่มสินค้าล็อตที่ 2

     “แรกๆ เราก็ขายได้วันละ 2-3 บ้าน บางวันขายไม่ได้ก็มี เรายิงแอดแค่วันละ 150 บาท ก็เล่าให้แฟนฟัง เขาก็บอกว่ายิงแอดแค่นี้เมื่อไหร่จะรวย เสียเวลาตอบลูกค้า งั้นก็เพิ่มเงินลงโฆษณา แต่ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าเพิ่มโฆษณา ของก็ไม่พอขาย เพราะตอนนั้นมันเริ่มมาประมาณเดือนหนึ่ง ของก็ร่อยหรอไปแล้ว พอดีเริ่มมีลูกค้ามาถามถึงสีพื้น เพราะบางคนก็ไม่ได้ชอบลายๆ เราก็เลยงั้นเพิ่มล็อตใหม่ ให้มีกางเกงสีพื้นด้วย แล้วก็มีชุดเซ็ตเพิ่มขึ้นมาเพราะเราอยากได้เอง บางทีเราขี้เกียจเลือกเสื้อกับกางเกงให้เข้ากัน ก็ทำเสื้อกับกางเกงสีเดียวกัน จบๆ ไป ใส่ง่ายๆ ตอนนั้นเราเจอผ้าที่ถูกใจด้วยเป็น Diamond Silk ที่คนมุสลิมเอาไปทำผ้าฮิญาบหรือชุดใส่ออกงาน เราว่ามันสวยดีก็เลยเอามาตัดชุดเซ็ต เลยเป็นที่มาของล็อต 2 ตอนนั้นประมาณ 330 ตัว จากยิงแอด 150 บาท ก็เพิ่มเป็นวันละ 1,000 บาท ก็มีออเดอร์เยอะขึ้น 10 บ้าน 15 บ้าน มันก็เริ่มโอเคขึ้น”

     นอกจากการลงเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น อีกกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เธอสามารถมียอดขายมากขึ้นและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นคือการจัดโปรโมชั่น จนในที่สุดก็เกิดการซื้อซ้ำของลูกค้าเก่า

     “เราเริ่มจัดโปรโมชั่น ถ้ากางเกงลาย 290 บาท 2 ตัว 550 บาท สีพื้น 219 บาท 2 ตัว 400 บาท ก็มีลูกค้าเริ่มกลับมาซื้อซ้ำ จากที่เคยซื้อกางเกงลายล็อตแรก ก็กลับมาซื้อกางเกงสีพื้นล็อต 2 เราเริ่มมีลูกค้าประจำเข้ามาซื้อซ้ำๆ อีกอย่างคือเราเพิ่งเปิดร้าน ก็ไม่กล้าขายแพง กลัวไม่มีคนซื้อ ชุดเซ็ตเราขายแค่ 299 บาทเอง จนล็อตนี้ขายได้เดือนหนึ่ง กางเกงสีพื้นเริ่มหมด ชุดเซ็ตหมดแล้ว ก็เลยไปสั่งเพิ่ม เป็นล็อตที่ 3 มันค่อยๆ โตขึ้น ทุนล็อตแรกจะแพงหน่อยเพราะขั้นต่ำเขา 100 ตัวขึ้นไป พอล็อตต่อไปก็จะดรอปลงมา ได้กำไรเยอะขึ้นและอัดโฆษณามากขึ้น ตอนนี้ยิงโฆษณาเป็นวันละ 2,000 บาท”

 

 

เพราะตามใจลูกค้าจึงมัดใจลูกค้า

     จากที่เธอมีประสบการณ์การขายออนไลน์มาก่อน ทำให้เธอเข้าใจพื้นฐานของลูกค้าที่ซื้อของบนโลกออนไลน์เป็นทุนเดิม โดยเธอได้แชร์เทคนิคที่จะช่วยปิดการขายและเพิ่มยอดขายให้ฟัง

     “อย่างเรื่องคอนเทนต์ แคปชั่น ต้องดูเป็นภาษากระเทย แคปชั่นหยุดนิ้ว อะไรเป็นเทรนด์ เป็นกระแส เราก็ใช้ประโยคนั้นมาใส่ในแคปชั่น คนจะสนใจอยากอ่าน ถ้าแบบเรียบๆ ผ้าสวย ใส่สบาย มันเฉยๆ มันไม่ได้ ส่วนคอนเทนต์ เราจะพยายามให้เห็นว่างานผ้าเป็นแบบไหน แพตเทิร์นเป็นแบบไหน รูปบางทีก็ไม่ได้ ต้องเป็นวิดีโอ อย่างเราทำวิดีโอ 30 วินาที ยืนพูดไป อธิบายเนื้อผ้าด้วยวิดีโอสั้นๆ เราอยากบอกอะไรก็พยายามอธิบายใน 30 วินาที ให้ลูกค้าเห็นภาพว่างานเรามันดีจริงๆ คุณภาพจริงๆ ส่วนการปิดการขายในแชท เราจะมีโปรโมชั่นแล้ว แต่ถ้าลูกค้าบางคนไม่มั่นใจ ผ้าจะดีไหม จะบางไหม เราจะไม่ยัดเยียด แบบ พี่ลองเอาไปสิ มีโปรโมชั่น 2 ตัวนะ แต่จะเป็นแบบ พี่ลองเอาไปตัวหนึ่งก่อนไหม ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าชอบค่อยกลับมาสั่งซ้ำก็ได้”

     โดยเธอได้เล่าปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเธอค่อยๆ เติบโตไปกับลูกค้าจนล่าสุดจากยอดขายหลักแสนก็ค่อยๆ โตขึ้นจนเกือบสองแสนบาท

     “จุดเด่นเราคือเราตามใจลูกค้า เช่น มีลูกค้ามาถามว่าไม่มีพลัสไซส์เหรอ เขาสะโพก 44 ใส่ไม่ได้ เราก็งั้นล็อตต่อไปทำพลัสไซส์ด้วยเลย ตอนนี้เราเลยมีกางเกงที่ใส่ได้ตั้งแต่เอว 26 – 46 เลย เราตอบโจทย์ลูกค้า ตามใจทุกอย่าง ค่อยๆ โตไปกับลูกค้า เรียนรู้จากเขาเพื่อมาปรับปรุงให้โตไปพร้อมกัน ที่สำคัญคือสินค้าต้องคุณภาพจริงๆ และไม่ได้ขายแพง ลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ ถ้าเขาจ่ายให้เราราคานี้ เขาใช้งานได้จริง สวยจริง คุ้มค่าจริง สุดท้ายเขาจะกลับมาซื้อซ้ำ”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup