Starting a Business

ส่องโอกาสธุรกิจ จะเปลี่ยน Ingredients ให้เป็นเงินได้อย่างไร คุยกับ รุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ แห่งอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์

 

     คุณรู้หรือไม่...เปลือกมังคุดที่กินแล้วทิ้ง มีราคา 10 บาทเมื่อนำไปทำเป็นปุ๋ยหมัก แต่หากนำไปสกัดสารแซนโทน (Xanthones) ซึ่งมีสรรพคุณต่อต้านการอักเสบ จะมีมูลค่า 2 ล้านบาทต่อกิโลกรัม และหากทำ Pure Refined ให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นจะมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านบาท

     Ingredients หรือ วัตถุดิบ อาจจะฟังดูเหมือนเป็นเพียงส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่ม แต่ในความจริงแล้ว Ingredients มีศักยภาพมากกว่านั้น เพราะ Ingredients เป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างความต่าง และมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์ Nutraceuticals โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่การแข่งขันทางธุรกิจค่อนข้างสูง ใครมีไม้เด็ดก็คว้าชัยไปก่อน

     และสำหรับประเทศไทยความหลากหลายของ Ingredients ในบ้านเราเป็นอย่างไร และ SME หรือ Startup จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างหรือต่อยอดธุรกิจได้อย่างไร SME STARTUP จะพาไปคุยกับ รุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food Ingredients Asia 2023 (Fi Asia 2023) งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมส่วนผสมอาหาร สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และงาน Vitafoods Asia 2023 งานแสดงสินค้าด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และสารสกัดเพื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในเอเชีย จะมาบอกเล่าถึงความมหัศจรรย์ของ Ingredients ในประเทศไทย และโอกาสธุรกิจที่จะเกิดขึ้น  

Ingredients มีความสำคัญอย่างไร และประเทศไทยมีศักยภาพในเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน 

     หากมองประเทศไทยผ่าน 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีผลิตผลทางการเกษตรที่นำมาใช้ผลิตอาหารจำนวนมาก ซึ่งทำให้มี By-product หรือสิ่งที่ได้จากกระบวนการผลิตนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นของเหลือ (ทิ้ง) จำนวนมาก ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ต้องการพัฒนา 3 ด้าน และหนึ่งในนั้นคือเศรษฐกิจหมุนเวียนคือ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเน้นการลดปริมาณของเสียให้เท่ากับศูนย์ (Zero Waste)

     2.ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารแปรรูป ฉะนั้นในกระบวนการการผลิตจะต้องมี By-product จำนวนมาก

     และ 3.ไทยเป็นประเทศในเขตร้อนชื้นจึงมีพืชสมุนไพรค่อนข้างเยอะ หน่วยงานภาครัฐมีการทำงานวิจัยส่งเสริม การพัฒนานวัตกรรม เพื่อต่อยอด จำนวนมากในที่นี้ขอยกตัวอย่างสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานร่วมเสริมกิจกรรมกับทางอินฟอร์มาฯ ถือว่าเป็นคลังโพรไบโอติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยโพรไบโอติกส์นี้สามารถนำไปสกัดทำผลิตภัณฑ์ ส่วนผสมอาหาร และต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ Nutraceuticals ได้อีกมากมาย

     ทั้ง 4 ปัจจัยนี้ ทำให้เรามีวัตถุดิบที่สามารถนำไปแปรรูปหรือทำอะไรต่อเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้มหาศาล หรือจะทำสารสกัด Ingredients ได้อีกมากมาย แต่ทุกวันนี้เรากลับนำเข้า Ingredients จากต่างประเทศถึง 85 เปอร์เซ็นต์ โดยเราส่งออกวัตถุดิบไปต่างประเทศมากมาย แล้วประเทศเหล่านั้นก็เอาวัตถุดิบไปสกัดเป็น Ingredients กลับมาขายเราอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะการที่จะสกัด Ingredients ได้จำเป็นต้องใช้งานวิจัยนวัตกรรมเข้ามาช่วย

     ยกตัวอย่าง ขมิ้น ปัจจุบันเราส่งออกขมิ้นเป็นวัตถุดิบ แต่ขมิ้นมีสารสกัดที่มีคุณประโยชน์หลายตัว ต่างประเทศซื้อขมิ้นไปสกัดสารต่อแล้วก็ขายแยกสารแต่ละตัว ซึ่งจะได้มูลค่าที่สูงกว่า หรืออีกตัวอย่างเราส่งออกไก่เป็นอันดับ 3 ของโลก ในกระบวนการเลี้ยงไก่นั้น เราสามารถเอาขนไก่เอาไปทำเอนไซม์ได้ น้ำทิ้งจากโรงเลี้ยงไก่ซึ่งจะมีไขมันก็สามารถไปกรองแล้วสกัดเป็นไขมันเพื่อนำไปใช้ต่อได้อีก คือทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตจะต้องถูกนำไปสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยงานวิจัย และเทคโนโลยี

Ingredients ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม หนึ่งในนั้นคือผลิตภัณฑ์ Nutraceuticals ตลาดนี้เติบโตมากแค่ไหน

     Nutraceuticals เป็นศัพท์บัญญัติใหม่ ซึ่ง HMT ธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิต ให้นิยามว่า ภายใต้ Nutraceuticals แบ่งเป็น 3 ผลิตภัณฑ์สำคัญคือ 1.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 2.Functional Food อาหารที่ทำหน้าที่ เช่น อาหารที่กินแล้วบำรุงสายตา และ 3.Functional Drink ซึ่งทั้ง 3 ตัวนี้ ปี 2565 มีมูลค่าตลาด 190,000 ล้านบาท และจากการศึกษาพบว่าด้วยแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุจากการที่เรามีประชากรผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น และมีความเป็นอยู่วิถีการกินอยู่ รวมถึงสถานการณ์โควิดที่ส่งผลให้คนห่วงใยดูแลสุขภาพกันมากขึ้น และการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ล้วนเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาดผลิตภัณฑ์ Nutraceuticals เติบโตมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะเติบโต 7 เปอร์เซ็นต์ หรือมีมูลค่า 260,000 ล้านบาท

     สำหรับประเทศไทยมีข้อมูลที่น่าสนใจจากการสนับสนุนบริการสุขภาพได้ชี้ให้เห็นว่าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินในไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 149.3 เปอร์เซ็นต์ และผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน โดยที่ผู้บริโภคให้ความเห็นว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเป็นสิ่งจำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำ

เทรนด์ Ingredients ที่จะได้รับความสนใจและมาแรงในปีหน้า

     แน่นอนว่าเทรนด์เรื่องสุขภาพยังคงมาแรงและยังคงอยู่ต่อไป แต่ถ้ามองภาพรวมของตลาดไทยในตอนนี้จะเห็นกระแสความสวยความงามมาแรงมาก ด้วยว่ามีเซเลบฯ คนดังมาทำธุรกิจ และมีการโปรโมตสินค้านี้มากๆ แต่ในความจริงแล้วยังมีกลุ่มสุขภาพอีกกลุ่มหนึ่งที่ใหญ่มาก นั่นคือ กลุ่มคนอายุ 55 ปีขึ้นไป ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ Nutraceuticals เพื่อมาช่วยในเรื่องต่างๆ เช่น กระดูก ชะลอวัย ลดคอเลสเตอรอล ฯลฯ แล้วที่สำคัญคือ คนกลุ่มนี้มีความเชื่อว่าอาหารเป็นยา มีผลการศึกษาบอกว่าผู้สูงอายุปีที่ 50 ชอบที่จะกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากกว่ากินยา เพราะกลัวว่ายาจะส่งผลเอฟเฟ็กต์อื่นๆ ต่อร่างกาย ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เลยโต มากไปกว่านั้นด้วยวิธีการทำตลาดทำให้สินค้าเหล่านี้หาซื้อได้ง่ายๆ เหมือนซื้อขนม จึงยิ่งทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

Pain Point ของ SME ในธุรกิจนี้คืออะไร

     โอกาสของ SME ในธุรกิจนี้ คือเรามีพื้นฐานเกษตรกรรม และการผลิตอาหารเพื่อขายอยู่แล้ว เพียงแต่ SME จะต้องมองให้ออกทั้งกระบวนการผลิตสินค้าของตัวเองว่าจะสามารถเอา By-product ที่ได้นั้นไปสร้างมูลค่าเพิ่มอะไรได้บ้าง เช่น คนทำฟาร์มไข่เพื่อขายไข่ อาจจะเอาไข่ไปแปรรูปทำไข่ผง หรืออย่างเปลือกไข่สามารถนำไปทำเป็นผงแคลเซียมขายเป็น Ingredients ได้อีก เป็นต้น แต่ต้องยอมรับว่า SME ขาดเทคโนโลยี และไม่มี Know-how ในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น SME จึงจำเป็นจะต้องเข้าไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานวิจัยต่างๆ ของรัฐ ซึ่งมีงานวิจัยอยู่จำนวนมาก ว่าธุรกิจที่ทำสิ่งที่มีสามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มอะไรต่อได้บ้าง ก็ใครจะไปคิดว่าเปลือกไข่จะสามารถนำมาทำเป็นแคลเซียมได้ เมล็ดเงาะสามารถมาทำเป็นไฟเบอร์เพื่อใช้ผสมอาหารแทนแป้งข้าวสาลี แป้งจากข้าวโพดได้ ดังนั้น ถามว่า SME จะมีโอกาสไหม เติบโตไหม ตอบได้เลยว่ามี เพียงแต่ต้องคิดให้จบกระบวนการทั้งหมดแบบนี้

     สมมติ SME อยากทำธุรกิจกาแฟ ถ้าขายเป็นกาแฟธรรมดาๆ ก็จะได้ราคาหนึ่ง แต่ถ้าเอาเมล็ดกาแฟนั้นไปสกัดเป็นน้ำมันกาแฟ ที่สามารถนำไปผสมเพื่อให้เกิดรสชาติกาแฟ แต่สีไม่เอฟเฟ็กต์ที่จะทำให้อาหารหรือเครื่องดื่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ก็จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเมล็ดกาแฟได้

     นอกจากนี้ สิ่งที่ SME ไทยยังขาดคือ เรื่องของมาตรฐานและความสม่ำเสมอของสินค้า ซึ่งหมายความว่าสินค้าทุกชิ้นจะต้องเหมือนกันหมดทั้งรสชาติ สี กลิ่น ปริมาณ ฯลฯ ไม่ว่าจะผลิตจำนวนมากเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งตรงนี้เทคโนโลยี และ Ingredients สามารถช่วยได้ เช่น การปั้นซาลาเปาให้เท่ากันทุกลูก และอยู่ในสภาพที่หยิบลูกนี้ก็ต้องเหมือนกับลูกนั้น ซึ่งเทคโนโลยีสามารถช่วยได้ หรือในบางครั้ง SME ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ แต่สินค้ากลับไปติดอยู่ที่ในตู้คอนเทนเนอร์เป็นเวลานานหลายวันกว่าจะเอาสินค้าออกมาได้ จนทำให้สินค้าเกิดความเสียหาย ซึ่งเคยมี SME ที่เจ๊งหลายรายเพราะสินค้าตีกลับมาแล้ว ดังนั้น SME จึงควรมีความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยว่าจะอยู่ได้นานเท่าไหร่กว่าจะส่งถึงมือลูกค้า แล้วพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีอายุยาวนาน ซึ่งตรงนี้เทคโนโลยี และ Ingredients ก็สามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน และที่น่าสนใจคือ Ingredients ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลกันต่อไปเหมือนสมัยก่อน ที่จะคุยกันว่าเพิ่มสารปรุงแต่งก็เหมือนการใส่สารเคมีไปในอาหาร แต่ในปัจจุบันการพัฒนา การวิจัย และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นนั้นส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา Ingredients จากผลิตภัณฑ์การเกษตร การสกัดจากผลิตผลจากธรรมชาติ

SME จะได้อะไรจากการไปเดินงาน Fi Asia 2023 และ Vitafoods Asia 2023 บ้าง

     สำหรับงาน Vitafoods Asia 2023 เราจัดเป็นปีที่ 2 ซึ่งปีนี้จัดใหญ่ขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว จะมี Exhibitors จากทั่วโลกมาออกบู๊ธ 480 ราย และจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 8,000 ราย ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ Nutraceuticals ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารและเครื่องดื่มฟังก์ชัน ครอบคลุมทั้งวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรม ดังนั้น ถ้า SME ที่ยังไม่มีไอเดีย ไม่มีสินค้า หากมาเดินงานนี้ เชื่อว่าจะสามารถหาสินค้าไปขายเพื่อเริ่มต้นธุรกิจได้ ส่วน SME ที่แม้จะมีธุรกิจมีสินค้าอยู่แล้ว เมื่อมาร่วมงานนี้ก็จะได้เห็นเทรนด์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งปกติเรื่องของเทรนด์ต้องยอมรับต่างประเทศไปไวกว่าเรา หรือ SME อาจจะมามองหา Ingredients ใหม่ๆ ที่จะเป็น Solution ช่วยให้สินค้ามีมาตรฐานความสม่ำเสมอได้

     ส่วนงาน Fi Asia 2023 เราจัดมานานกว่า 25 ปีแล้ว เป็นงานที่มีผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายจากทั่วโลก กว่า 600 รายมาร่วมออกบู๊ธ งานนี้จะมีการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ในการต่อยอดไอเดียทางด้านอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มมากมาย เช่น ผู้ผลิตส่วนผสมเพื่อใช้ในเครื่องดื่ม ผู้ผลิตส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผู้ผลิตส่วนผสมอาหารไร้สารเจือปน เป็นต้น ดังนั้น SME ก็จะได้เห็นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมส่วนผสม อาหารและเครื่องดื่ม และถ้า SME ที่มีสินค้าอยู่แล้วก็สามารถมาเดินเลือกซื้อ Ingredients ใหม่ๆ เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจได้

     การทำธุรกิจให้เติบโตยั่งยืน SME จำเป็นต้องหาความแตกต่างให้กับสินค้าของตัวเอง มี DNA ของผลิตภัณฑ์ตัวเองต้องรู้ว่าสิ่งที่อยากขายความเป็นผลิตภัณฑ์ในมุมไหน ซึ่งมีหลากหลายมาก บางทีถ้าไม่ได้ออกไปเจอโลกข้างนอก ก็อาจจะไม่เห็นอะไร คิดอะไรไม่ออก แต่ทั้ง 2 งานของเรา มี Ingredients ที่เขาพร้อมนำไปใช้ได้ ดังนั้น ถ้าได้ไปเห็นอาจจะทำให้เกิดไอเดียธุรกิจได้ และสำหรับ SME ที่ยังไม่มีธุรกิจ การได้ไปดูงานและเห็นกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในงาน ก็น่าจะช่วยสร้าง Inspiration ในการเริ่มต้นธุรกิจได้ 

 

ทั้ง 2 งานนี้ จะมีไฮไลต์เด็ดๆ อะไรที่ SME ไม่ควรพลาดบ้าง

     นอกจากจะมีการแสดงสินค้าแล้ว ทั้ง 2 งานเรายังมีกิจกรรมและเวทีสัมมนาให้ความรู้ตลอดทั้ง 3 วัน อย่างเช่น กิจกรรม Future Food Workshop ส่วนผสมใหม่และนวัตกรรมอาหารซึ่งจะจัดในลักษณะ Networking สตาร์ทอัพที่มางานนี้ก็จะมีโอกาสได้มาเจอกับ Incubator ที่เราเชิญมา เพื่อทำ Business Matching ได้ 

     ไม่พียงเท่านั้น เราคิดว่าปีนี้ SME ต้องการความรู้เรื่อง Sensory เราเลยจัดกิจกรรม Sensory Workshop แบบจัดเต็มทั้ง 3 วัน เหมือนเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารเลย สมมติจะทำผลิตภัณฑ์ที่มีโปรตีนจากนมมาเกี่ยวข้อง ก็จะต้องมีตั้งแต่ว่าควรทำอย่างไร ควรผสมกับตัวไหน มีการทำ Test ให้เห็นด้วยว่าตัวไหนทำให้เก็บได้นานมากกว่ากัน   

     ในงานจะมี Know-how มากมายที่จะโชว์ให้ผู้ที่มาเดินในงานได้เห็น เช่น เขาทำชีสข้าวกันอย่างไร หรือน้ำมันพริกเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นการสกัดพริกให้เป็นสาร Ingredients สีขาวใสที่สามารถนำไปใส่ในอาหารที่เราไม่ต้องการให้มันเปลี่ยนสี แต่ยังคงรสชาติเผ็ดเหมือนพริกได้ นี่คือ Ingredients ซึ่ง Ingredients พอสกัดแล้วสามารถนำไปใส่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมายเพื่อสร้างฟังก์ชัน เช่น อาจจะนำไปใส่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ Nutraceuticals ที่ไม่ใช่แค่สร้างรส กลิ่น รูป แต่เป็น Ingredients ที่ทำหน้าที่ เช่น กินแล้วหน้าใส กินแล้วลดน้ำหนัก ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง เป็นต้น

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup