Text : flymetothemoon

     The Pie In The Sky เป็นสำนวนที่หมายถึงการหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือถ้าสำนวนไทยก็คือสำนวนวาดวิมานกลางอากาศ แต่ไม่ใช่สำหรับ แอล-ดาลัด เตชะไตรศร ที่สร้างแบรนด์คาแรคเตอร์มีแฟนคลับทั้งในและต่างประเทศ 

     โดยแอลได้เริ่มต้นจากการรับจ้างวาดรูปตั้งแต่อายุ 17 ปี พอเก็บเงินจากการรับจ้างวาดรูปได้จำนวนหนึ่ง แอลในตอนอายุ 20 ซึ่งกำลังเรียนปี 2 ที่จีน ได้ตัดสินใจสร้างแบรนด์คาแรคเตอร์ The Pie In The Sky และวางสินค้าของแบรนด์ขายในร้านต่างๆ จากนั้นค่อยๆ พัฒนาแบรนด์ โดยช่วงไหนที่ต้องเรียนหนักก็ทำงานแบรนด์น้อยลง ไม่กดดันตัวเองด้วยไม่อยากส่งต่อความกังวล ความเครียด ปัจจุบันแอลในอายุ 23 ปีเรียนจบและหันมาโฟกัสกับแบรนด์มากขึ้นจนได้ไปออกบูธที่ต่างประเทศ

แบรนด์ที่มีความตั้งใจส่งความสุขให้กับทุกคน

     ในตอนแรกแอลได้เริ่มต้นจากความต้องการที่อยากจะมีเงินซื้อของที่อยากได้เอง จึงนำสิ่งที่ชอบคือการวาดรูปมาสร้างรายได้โดยแอลเปิดเพจรับจ้างวาดรูป แต่พอวาดได้สักพักมองว่าคาแรคเตอร์ที่วาดอยู่มีความน่ารัก น่าสนใจ เลยตัดสินใจสร้างแบรนด์คาแรคเตอร์ของตัวเอง

     “The Pie In The Sky เป็นแบรนด์ที่มาจากความชอบของเราล้วนๆ เลย ไม่มีอะไรผสม สีของคาแรคเตอร์ก็มาจากการที่เราชอบสีสดใส ตัวคาแรคเตอร์ก็มาจากความต้องการของเราที่อยากวาดคาแรคเตอร์จากสิ่งรอบตัวที่เราเห็น อย่างสุนัข แมว กระต่าย เมฆและพระอาทิตย์ โดยเราอยากให้แบรนด์ของเราเป็นพลังบวกให้กับทุกคน สังเกตได้จากคาแรคเตอร์เกือบทุกตัวในแบรนด์จะมีรอยยิ้มทุกตัว”

เรียนอยู่ที่จีน แต่ฝากวางขายในร้านค้าที่ไทย

     การอยู่ต่างประเทศไม่ใช่ปัญหาสำหรับแอลที่อยากผลิตสินค้าออกมาขาย แอลได้ศึกษาร้านที่อยากวางขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยมีแม่และพี่สาวเจ้าของ Givememuseums ค่อยสนับสนุน

     “เราอยู่ที่จีน การขายออนไลน์จึงเป็นเรื่องยากเพราะเราไม่สะดวกที่จะส่งของ แต่เราอยากขายสินค้าเลยเลือกที่จะฝากขาย แม่กับพี่สาวค่อยช่วยในด้านการประสานงาน พี่สาวช่วยเราตั้งแต่การเซ็นสัญญากับร้านฝากขาย รวมถึงการวางสินค้าขายในร้านในช่วงที่เราอยู่ที่จีน แต่ในช่วงโควิด 19 รายได้จากร้านฝากขายน้อยลงทำให้ได้หันมาผลิตสินค้าดิจิทัล เช่นสติ๊กเกอร์ไลน์ ธีมไลน์ รวมถึงขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มขายของออนไลน์อย่าง Shopee เพราะเราได้กลับมาเรียนต่อที่ไทยทำให้สามารถส่งของได้” 

จากหารายได้เสริมขณะเรียนสู่การออกบูธที่ประเทศเกาหลี

     จากความคิดที่อยากมีรายได้เสริมเพื่อซื้อของที่อยากได้สู่การทำเป็นอาชีพหลัก จึงตัดสินใจออกบูธมากขึ้นเพื่อให้คนที่ยังไม่ติดตามได้รู้จักทั้งในและต่างประเทศ

     “เราได้ออกบูธทั้งในและต่างประเทศ โดยที่เกาหลีเราได้ไปออกงาน Seoul Illustration Fair 2022 (SIF) ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ของเกาหลี มีเหล่านักวาดมาจัดแสดงผลงาน แลกเปลี่ยนความรู้ แอลได้ส่งพอร์ตฟอลิโอเพื่อให้ทางเกาหลีพิจารณาคัดเลือก ในการเปิดบูธที่เกาหลีจะยากกว่าที่ไทยด้วยเราต้องบินข้ามประเทศทำให้เวลาเตรียมตัวในเรื่องของสินค้าที่ขายและของตกแต่งบูธเตรียมได้น้อยกว่าที่ไทย รวมถึงกำแพงในเรื่องของภาษา เพราะที่ประเทศเกาหลีจะพูดภาษาเกาหลีเป็นส่วนใหญ่ แต่คนที่มาเดินงานน่ารักมาก เขาพยายามสื่อสารกับเราเพื่อซื้อสินค้า เปิด google translate เป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้เราเข้าใจ”

 

ถูกก็อปลายคาแรคเตอร์ทำให้อยากแสดงตัวตนมากขึ้น

     ด้วยคาแรคเตอร์ที่น่ารักและสดใสของแบรนด์ทำให้มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้มีร้านทั้งในและต่างประเทศนำคาแรคเตอร์ The Pie In The Sky ไปใช้เป็นลวดลายตกแต่งสินค้าของร้านตัวเองโดยไม่ได้รับอนุญาต

     “ในไทยทั้งในร้านค้าออนไลน์และเวลาเราเดินห้างสรรพสินค้าเราจะได้เห็นสินค้า ที่ก็อปคาแรคเตอร์ของเราไปใช้รวมถึงร้านค้าออนไลน์ในต่างประเทศอย่างจีน เกาหลี  เสียความรู้สึกมาก เราได้พยายามทำเท่าที่ทำได้ พยายามติดต่อกับร้านที่เราไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติ มีทั้งร้านที่เข้าใจและเอาออก เลิกขายและร้านที่ไม่ได้ให้ความสนใจ สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราอยากแสดงตัวตนมากขึ้นเพื่อให้คนรู้ว่าเจ้าของแบรนด์จริงๆ แล้วเป็นใคร เราได้พยายามทำคอนเทนต์ให้เห็นว่าร้านที่ขายอยู่ไม่ใช่ของเรา รวมถึงคอนเทนต์ที่ให้เห็นถึงความสำคัญของการซื้อของจากเจ้าของลายตัวจริง นอกจากนี้เรายังได้ปรับสเกลภาพให้ความชัดน้อยลงเพื่อคนที่ต้องการนำงานไปใช้ไม่สามารถนำไปใช้ได้ รวมถึงการติดชื่อในรูปที่ทำแจกและการพัฒนาคุณภาพของงานทำให้ไม่ว่าจะเอาลายของเราไปใช้ยังไงก็จะไม่เหมือนของเรา” 

ความสม่ำเสมอและมองเห็นถึงความสนใจของผู้คนคือสิ่งที่ทำให้คนติดตาม

     The Pie In The Sky มีบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งของ Instagram Facebook Tiktok และ Twitter หรือชื่อปัจจุบัน X ทำให้ไม่ว่าใครที่ชื่นชอบเล่นแพลตฟอร์มไหนก็สามารถเข้าถึง The Pie In The Sky ได้ รวมถึงการโพสต์คอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะทำให้คนติดตามไม่ลืมแบรนด์ นอกจากนี้การคอลแลปส์ก็เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้คนรู้จักแบรนด์ The Pie In The Sky มากขึ้น

     “ในช่วงแรกเราโพสต์แทบทุกวัน เราเชื่อว่าความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราทำอะไรบ่อยๆ คนก็จะหันมามองเห็นเรา รวมถึงการเน้นคุณภาพของงานที่ลงก็เป็นสิ่งสำคัญ ในส่วนคอนเทนต์เราเน้นเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ประจำวัน คอนเทนต์ที่แสดงความเป็นตัวของตัวเองแต่ก็ยังเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจอยู่ด้วย รวมถึงสิ่งใหม่ๆ ที่แบรนด์อื่นไม่ค่อยทำและการคอลแลปส์กับแบรนด์อื่นเพื่อเพิ่มมุมมองใหม่ ๆ เช่นการคอลแลปส์วาดวอลเปเปอร์สายมู”   

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup