Text : Yuwadi.s

     บางคนเจอวิกฤติก็อาจจะทำให้ท้อกับชีวิตจนเลิกทำธุรกิจ แต่บางคนก็พลิกวิกฤติให้ธุรกิจกลับมาปังกว่าเดิม หนึ่งในนั้นคือ ฟีฟ่า-เบญจมินทร์ กลิ่นกลัด และมิกกี้-ณัฐพงษ์ หงส์เวียงจันทร์ ที่พวกเขาได้เจอวิกฤติกับร้านทำเล็บเจ๊งจนต้องมองหาลู่ทางใหม่ๆ เขาจึงได้หยิบเอาสกิลการทำเล็บที่มีมาทำเล็บปลอมขายในห้อง แถมยังใช้วิธีการเรียกลูกค้าด้วยการไลฟ์สด จนตอนนี้กลายเป็น Uneek Nails ธุรกิจสุดปังที่สามารถสร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน

จากร้านทำเล็บเจ๊งสู่แบรนด์เล็บปลอมออนไลน์

     โดยพวกเขาได้เล่าย้อนไปถึงช่วงเริ่มต้นของร้านทำเล็บว่าเกิดจากที่มิกกี้ เป็นคนที่จบด้านศิลปะและมองหาธุรกิจเล็กๆ ทำให้เขาลังเลระหว่างการเปิดร้านสักกับร้านทำเล็บ จนในที่สุดก็เลือกเปิดร้านทำเล็บอยู่ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยในจังหวัดลพบุรี มิกกี้ได้เรียนรู้การทำเล็บด้วยตัวเองจากโลกออนไลน์

     “ผมเป็นคนชอบงานศิลปะอยู่แล้วเพราะจบด้านกราฟิกมา เคยเรียนวาดภาพ จับพู่กันมาบ้าง ตอนนั้นผมว่างงานเลยลองโทรไปปรึกษากับคุณแม่ เขาก็ทักมาว่า มิกลองเปิดร้านทำเล็บไหม เพราะมิกเป็นคนวาดรูปได้ ลองไปศิลปะแนวนี้ดูไหม ตอนนั้นผมลังเลระหว่างร้านสักกับร้านทำเล็บ จนเลือกร้านทำเล็บเพราะใช้อุปกรณ์น้อยกว่า ลงทุนไม่เยอะ เลยลองทำดู ผมก็ฝึกตามยูทูป แต่ด้วยขนาดเล็บมันเล็กกว่าปกติ แรกๆ ก็จะยากหน่อย” มิกกี้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของเส้นทางการทำเล็บให้ฟัง

     หลังจากนั้นมิกกี้และฟีฟ่าก็เปิดร้านทำเล็บ โดยที่มิกกี้จะเป็นช่างทำเล็บ ส่วนฟีฟ่าจะคอยช่วยซัพพอร์ต หลังจากเปิดร้านได้ประมาณ 1 ปี พวกเขาเจอกับวิกฤติที่ทำให้ร้านไปต่อไม่ได้ จนต้องปิดตัวลง ในระหว่างนั้นเองพวกเขาจึงได้เริ่มต้นทำแบรนด์เล็บปลอมขายออนไลน์

     “ตอนนั้นที่เปิดร้านทำเล็บ เราเรียนอยู่ปี 3 มิกกี้เป็นคนทำเล็บ ส่วนฟีฟ่าจะช่วยหลังบ้าน พอเปิดมาปีหนึ่ง แล้วรู้สึกว่าลูกค้าเริ่มไม่เยอะ ในซอยหลังมหาวิทยาลัยมีร้านทำเล็บเยอะมาก ร้านเราเป็นร้านใหม่ มันเริ่มอยู่ไม่ไหวเลยเจ๊ง เราก็คิดว่าต้องหาอะไรทำแล้ว เรามีอุปกรณ์ทำเล็บ เราทำเล็บได้ งั้นลองทำเล็บปลอมขายใน TikTok ดูสิว่าจะเวิร์กหรือเปล่า ตอนแรกเราก็ทาสีธรรมดา สิบนิ้วซ้ายขวาติดลงแผง เป็นสีพาสเทล ไม่ได้มีลวดลายอะไรมากมาย ถามว่าตอนนั้นขายได้ไหม ก็ยังขายไม่ได้ เพราะลายเล็บร้านเรามันยังไม่น่าสนใจเท่าไหร่” ฟีฟ่าเล่า

     จุดพลิกของแบรนด์เล็บปลอมคือการหยิบเอากระแสมาเล่น ช่วงนั้นกระแส Y2K กำลังมา ทำให้เขาใช้ลายเส้นของมิกกี้มาเพิ่มความสนุกลงบนเล็บปลอมให้เข้ากับกระแสดังกล่าว พร้อมกับใช้วิธีการไลฟ์สด ในที่สุดก็เริ่มมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

     “พอขายไม่ได้ เราก็คุยกับมิกกี้ว่าลองเปลี่ยนลายกันไหม ตอนนั้นต้นปี 2566 มีกระแสอีกี้มันเป็นสก๊อย Y2K วัยรุ่นกลับไปฮิต มิกกี้เลยลองทำเล็บ Y2K สายฝอ ทีนี้เริ่มมีออเดอร์เข้ามา เราเริ่มไลฟ์สดก็มีออเดอร์เลย เราเลยทำมาเรื่อยๆ หลังจากตรงนั้น เราจะเปลี่ยนลายทุกเดือน เดือนหนึ่งเปลี่ยนแผง 2 รอบ ตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะขายเล็บปลอมมาได้ยาวขนาดนี้ คิดแค่ว่าจะทำแค่ช่วงหนึ่งแล้วไปหาอะไรใหม่ทำ แต่พอเริ่มขายมันหยุดไม่ได้ มีออเดอร์ทุกวัน”

ใช้ห้องเล็กๆ สร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน

     โดยฟีฟ่าได้เล่าถึงข้อดีของการทำเล็บปลอมในห้องให้ฟังว่าต่างจากการเปิดหน้าร้านตรงที่พวกเขาไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน สามารถทำงานได้ตลอดเวลา เพียงแต่มีโต๊ะกับมุมห้องเล็กๆ ก็สามารถไลฟ์สดขายของให้ลูกค้าได้แล้ว นอกจากนี้พอพวกเขาเปลี่ยนมาทำเล็บขายออนไลน์ ฟีฟ่าก็ได้เรียนรู้การทำเล็บจากมิกกี้ ทำให้ตอนนี้พวกเขาสามารถรับออเดอร์ได้เพิ่มมากขึ้น

     “การทำเล็บปลอมขายในห้อง เราอยากตื่นมาทำงานตอนไหนก็ได้ เมื่อก่อนทำเล็บที่หน้าร้าน ไม่ใช่ที่ห้องตอนนี้ มันจะไกลออกไป เราต้องตื่น อาบน้ำแต่งตัวออกไปทุกวัน มันเหนื่อยกว่าปกติ ที่สำคัญเราประหยัดค่าเช่าร้าน พอมาทำในห้อง มันเหลือเวลาเยอะขึ้น สมมติเราทำงานดึก นอนเช้า พอตื่นมาเราก็ลุกมาทำต่อได้เลย อีกอย่างอุปกรณ์มันไม่ต้องเยอะมาก มีแค่โต๊ะตัวเดียว มีมุมเล็กๆ ในห้อง เราก็มีมุมไลฟ์สด เราทำงานได้แล้ว แค่รับออเดอร์มา ทำส่งลูกค้า จบ”

     วิธีการทำการตลาดให้คนติดใจร้านเล็บปลอม จนคนติดตาม 3 หมื่นคนแถมยังมีคนถูกใจคลิปแตะหลักล้าน นั่นเป็นเพราะพวกเขาใช้การไลฟ์สดสม่ำเสมอ ไลฟ์ทุกวัน คุยกับลูกค้าเหมือนเพื่อน ที่สำคัญยังเน้นการทำคลิปให้ประโยชน์กับคนดูด้วย

     “เวลาไลฟ์ เราจะพูดขายของให้เหมือนไม่ขาย เหมือนเราคุยกับเพื่อน เห้ย แกลองติดลายนี้ เท่มาก แต่งตัวอะไรก็ได้ เชื่อเรา เราจะขายประมาณนี้ อยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าเข้ามาแล้วสบายใจที่จะดูไลฟ์เราต่อ ส่วนจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ ค่อยว่ากัน ให้เข้ามาแล้วหยุดดูเราได้ก่อน อีกอย่างคือเราจะไลฟ์ทุกวัน เพราะอยากให้ลูกค้าเห็นเราประจำว่าเราขายเล็บนะ อยากสร้างภาพจำ เพราะว่าร้านทำเล็บเยอะมากใน TikTok นอกจากนี้ยังมีคลิปที่ทำเล็บแล้วเราก็พากย์เสียง พูดอะไรเรื่อยๆ คนน่าจะชอบฟังแบบนั้นหรือคนมีปัญหาเกี่ยวกับเล็บ คนที่เป็นแม่ค้าเหมือนกัน บางทีเขามาถาม เราก็จะตอบ เขาก็จะสนใจคลิปที่เราอธิบายไป คนก็จะหยุดฟัง”

     โดยพวกเขาได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญ ทางมิกกี้ได้เน้นในเรื่องของความสม่ำเสมอและความรับผิดชอบเป็นหลัก ส่วนทางฟีฟ่าจะเน้นไปที่ความซื่อสัตย์กับลูกค้าและเรื่องของวินัยในการทำงาน

     “สม่ำเสมอและความรับผิดชอบ เพราะมันเป็นงานของตัวเอง ถ้าเราขี้เกียจตื่นหรือคิดว่าจะทำตอนไหนก็ได้ มันไม่ได้ นอกจากนี้ต้องมีความสม่ำเสมอในการไลฟ์ อย่างที่ฟีฟ่าไลฟ์ทุกวัน ถ้าไม่ไลฟ์เราก็ไม่มีออเดอร์” มิกกี้ปิดท้าย

     “การจะทำงานนี้ต้องมีความซื่อสัตย์กับลูกค้า อันไหนเราทำไม่ได้ต้องบอกเขาเลยว่าอันนี้เราทำไม่ได้นะ ไม่ถนัดนะ กลัวเขาได้งานไม่ตรงใจ เราจะเน้นทำงานสไตล์ที่เราถนัด งานที่เราถนัดมันต้องมีกลุ่มลูกค้าที่ชอบงานของเราอยู่แล้ว ให้เล็บเป็นตัวคัดลูกค้า อีกอย่างคือวินัย สำคัญมากๆ ในการทำงานทุกอย่าง ถ้าเราทำเล็บแล้วทำบ้าง ไม่ทำบ้าง เราก็อาจจะได้เงินมาแล้วหายไป” ฟีฟ่าปิดท้าย

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup