Tech Startup

จับตาตลาดความงาม GoWabi แอปฯ จองบริการความงาม ที่ตั้งเป้าระดมทุน Series A 100 ล้านบาทในปีนี้




     สำหรับผู้หญิงแล้วเรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องใหญ่ หลายคนหากแม้มีเวลาเพียงเล็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งหาร้านเพื่อดูแลตัวเอง วิภาวี วงศ์สิริศักดิ์ CCO และผู้ร่วมก่อตั้ง GoWabi ก็ดูเหมือนจะเข้าข่ายนั้น เมื่อเข้าใจปัญหาที่เจอกับตัวเองจึงทำให้มองเห็นช่องว่างในตลาดและเข้าไปเติมเต็ม ด้วยการพัฒนาแอปฯ GoWabi ที่รวบรวมบริการเพื่อสุขภาพและความงามไว้ครบวงจร เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าที่ได้ใช้บริการมีความสะดวกและเลือกใช้บริการได้ตามเวลาที่ต้องการ


     “เราเริ่มมาจากสิ่งที่คิดว่าทำไมหาร้านทำผมไม่ได้ ทำไมไม่มีแอปฯ ที่รวบรวมร้านความสวยความงาม เราต้องเซิร์ชหาที่ไหนถึงจะดี บางทีเราไปธุระที่หนึ่งอยากหาร้านแถวหน้าก็ไม่รู้ร้านไหนถึงจะดี แล้วทำไมไม่มีอะไรที่เป็นแพลตฟอร์มที่เราสามารถจองแล้วไปร้านได้เลยโดยไม่ต้องโทร.ไปจอง”





     วิภาวีเล่าถึง Pain Point ที่นำไปสู่การพัฒนา GoWabi ก่อนที่จะเล่าต่อไปว่าหลังจากเปิดให้บริการแอปฯ GoWabi มา ในปัจจุบันมีคนเข้ามาใช้บริการผ่านแอปฯ 2 แสนถึง 3 แสนคนต่อเดือน โดยบริการจะมี 9 กลุ่มหลัก ได้แก่ สปาและนวด ผิวหน้า ขนตาและคิ้ว เล็บ แวกซ์ คลินิกความงาม ซาลอน ทันตกรรม และฟิตเนส


      “ตอนนี้เราพยายามที่ให้ร้านดีล Exclusive กับเรา แปลว่าโปรโมชันนี้หาได้เฉพาะที่ GoWabi เท่านั้น หลายร้านที่เป็นพาร์ตเนอร์กับเราเหมือนเราโตมาจากศูนย์ด้วยกัน เพราะฉะนั้นเรามองตัวเองเป็นที่ปรึกษาของร้านค้า เช่น บางทีเขาไม่รู้ว่าเขาต้องออกโปรโมชันอะไร ราคาควรประมาณเท่าไหร่ รูปที่ถ่ายควรเป็นมุมไหน เราก็จะเข้าไปช่วยสนับสนุนในเรื่องพวกนี้ด้วย”





     นอกจากนี้ ข้อดีสำคัญประการหนึ่งในมุมของพาร์ตเนอร์ที่ร่วมให้บริการในแอปฯ GoWabi วิภาวีบอกว่า “เราเปิดรับผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือใหญ่ นอกเหนือจากการสนับสนุนการทำการตลาดแล้ว ด้วยระบบการจ่ายเงินของลูกค้าที่จ่ายผ่าน GoWabi ถ้าจองปุ๊บก็ต้องโอนเงินทันที แล้วทาง GoWabi ก็จะโอนเงินให้ร้าน ดังนั้น หากมีการยกเลิกนัดร้านค้าก็ยังได้เงินอยู่ดี ในช่วงโควิด-19 สถานเสริมความงามต้องหยุดให้บริการ ทำให้ไม่มีรายได้ สิ่งที่เราทำก็คือทำโปรโมชันขาย Voucher ให้ลูกค้าล่วงหน้า เราก็ขายปุ๊บแล้วก็โอนเงินให้พาร์ตเนอร์ ก็จะช่วยพยุงธุรกิจให้เขาไปได้ระยะหนึ่ง แต่คนที่ซื้อ Voucher ก็กลัวว่าไม่รู้ร้านจะยังเปิดอยู่ไหม ซึ่งแทบไม่มีปัญหานี้เลยเพราะเรามีหลักเกณฑ์ในการเลือกร้าน” 





     สำหรับเป้าหมายภายในปีนี้ วิภาวีบอกว่า จะพยายามกระจายร้านค้าพาร์ตเนอร์ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ให้ได้มากที่สุด และหาร้านค้าในต่างจังหวัดเพื่อให้บริการได้ครอบคลุมให้ได้มากที่สุด โดยตั้งใจที่จะระดมทุนใน Series A ประมาณ 100 ล้าน ภายในปีนี้ด้วย   


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup