Digital Marketing

รู้หรือยัง! ปี 2023 โซเชียลมีเดียจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

 

Text : flymetothemoon 

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องมือการตลาดที่สำคัญในยุคปัจจุบันคือโซเชียลมีเดียเพราะเป็นสิ่งที่มีคนเข้าถึงมากที่สุด โดยเฉพาะในประเทศไทยจากผลสำรวจของ DATAREPORTAL แสดงให้เห็นว่าในช่วงต้นปี 2022 จำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียในประเทศไทยสูงถึง 81.2 ของประชากรทั้งหมด แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานและนักการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด และนี่คือเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 บนโซเชียลมีเดียในแต่ละแพลตฟอร์ม

 

 

- Facebook

     1. เพิ่มการมองเห็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้มาจากผู้ติดตามมากขึ้น

         ในปี 2023 Facebook มีแผนเอาใจผู้ใช้ที่มีอายุน้อยมากขึ้นโดยเพิ่มการมองเห็นสิ่งที่น่าสนใจให้กับผู้ใช้งานมากขึ้นคล้ายในแอป Tiktok โดยหมวด Home จะเป็นหมวดที่ส่วนใหญ่ผู้ใช้เห็นเนื้อหาที่น่าสนใจจากครีเอเตอร์ที่ผู้ใช้ไม่ได้ติดตาม แต่ถ้าผู้ใช้อยากเห็นเนื้อหาจากคนหรือเพจที่ผู้ใช้ติดตามมากขึ้นก็สามารถเลือกดูที่หมวด Feeds ได้ โดยจุดเด่นของ Facebook ที่ต่างจาก Tiktok คือการไม่จำกัดอยู่เพียงวิดีโอที่มีขนาดสั้น ผู้ใช้สามารถเห็นบทความ รูปภาพ อัปเดตข่าวสาร กลุ่ม วิดีโอยาวจากทั้งคนที่ผู้ใช้ติดตามและไม่ได้ติดตาม

     2. การสนับสนุนให้ใช้อวาตาร์ในการแสดงตัวตนรวมถึงการสร้างวัตถุ 3 มิติ

         Facebook มีแผนจะสนับสนุนให้ผู้ใช้อวาตาร์ในการแสดงตัวตนบนโลกดิจิทัลมากขึ้นเช่น การตั้งรูปโปรไฟล์ การแสดงตัวอวาตาร์ขณะวิดีโอคอลไปจนถึงการโพสต์อัปเดตสถานะ การสร้าง Reels จากโลก VR รวมถึงการสนับสนุนให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ สร้างวัตถุ 3 มิติ เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภ8

     3. การพัฒนา Message Ads

         Message Ads เป็นอีกเครื่องมือที่จะช่วยให้แบรนด์ใน Facebook สามารถเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เป็นการตอบสนองต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ผ่าน Direct Message

     4. เลิกสนับสนุนโพสต์ที่มีการแปะลิงก์จากภายนอก

         Facebook ยังมีแนวโน้มที่จะเลิกสนับสนุนโพสต์ที่มีการแปะลิงก์จากภายนอก เพราะต้องการให้คนใช้งานบน Facebook นานขึ้น โพสต์ที่ Facebook จะสนับสนุนการมองเห็นคือโพสต์มีมและโพสต์สร้างคำถามที่จะทำให้ผู้ใช้หลายอื่นสนใจและทำให้มีคนติดตามมากขึ้น

 

 

- Tiktok

     1. การพัฒนาระบบไลฟ์สด

         ในแอปเวอร์ชั่นจีน ( Douyin ) การไลฟ์สดเป็นรายได้หลักของแอป สำหรับเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ( Tiktok ) ผู้สร้างได้พยายามพัฒนาเพื่อให้การไลฟ์สดใน Tiktok ประสบความสำเร็จเหมือนใน Douyin โดยหาช่องทางให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากการไลฟ์สดให้มากขึ้น

     2. ระบบการจ่ายเงินใหม่สำหรับครีเอเตอร์

         ระบบการจ่ายเงินแบบ Creator Found บน Tiktok ไม่สามารถสร้างแรงกระตุ้นให้กับครีเอเตอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามจำนวนมากได้อีกต่อไป เพื่อดึงครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก มีการคาดการณ์ว่า Tiktok มีแผนที่จะสร้างระบบการจ่ายเงินใหม่ให้กับครีเอเตอร์ที่คล้ายกับ Youtube ที่จะจ่ายเงินตามเปอร์เซ็นต์ยอดคนดูโฆษณาในแต่ละวิดีโอ

 

 

- Instagram

     1. การพัฒนาการมองเห็นของ AI และปรับปรุง เพิ่มการมองเห็น Reels

         จากการร้องเรียนจำนวนมาก Instagram ได้ประกาศลดจำนวนโพสต์ที่แนะนำโดย AI จนกว่าจะพัฒนาให้ผู้ใช้พอใจและรับประกันได้ว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดี โดย Instagram จะเน้นแสดงโพสต์ครีเอเตอร์ที่มีการโพสต์อย่างต่อเนื่องและได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้หลายอื่นที่เห็นโพสต์ โดยในอนาคต Instagram มีแผนที่จะพัฒนา AI ให้มีการเห็น Reels มากขึ้น เพราะ Reels เป็นเนื้อหาที่เติบโตเร็วที่สุดและได้รับความนิยม พร้อมการกลับมาใช้การทำงานวิดีโอเต็มหน้าจอเพื่อให้ครีเอเตอร์มีส่วนร่วมกับ Reels / Stories มากขึ้น

     2. การกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับ Metaverse

          Instagram มีแนวคิดสนับสนุนโพสต์  AR 3D และศิลปะ NFT มากขึ้น โดยการเพิ่มหมวด Digital collectible เป็นหมวดที่ครีเอเตอร์จะสามารถจัดแสดงงานศิลปะของตัวเองได้เพื่อกระตุ้นให้คนสนใจโลก VR มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์อีกด้วยว่า Instagram จะมีเครื่องมือใหม่เพื่อสนับสนุนให้ครีเอเตอร์สามารถสร้าง GIF จาก Live Photos บน Instagram และการรวมเครื่องมือสร้างรูป 3 มิติจากแพลตฟอร์ม Spark AR เข้ากับ Instagram โดยตรงเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับครีเอเตอร์รวมถึงการกระตุ้นให้แบรนด์สินค้าต่างๆ สนใจทำโฆษณา AR เพื่อเพิ่มความสนใจจากผู้บริโภคอีกด้วย

     3. การสนับสนุนไลฟ์ทาง Instagram

         Instagram ได้สนับสนุนการไลฟ์สดขายของโดยการเพิ่มเครื่องมือที่คนไลฟ์สามารถเพิ่มลิงก์ผลิตภัณฑ์ขณะไลฟ์สดได้ ในอนาคตคาดการณ์ว่า Instagram จะพัฒนาการไลฟ์สดให้เหมาะกับแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์มากขึ้น

 

 

- Twitter

     1. การจ่ายเงินรายเดือนสำหรับบัญชีที่เป็นทางการ

          Twitter ภายใต้ Elon Musk มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก หนึ่งในนั่นคือการเก็บเงินสำหรับบัญชีที่ต้องการสัญลักษณ์หรือมีสัญลักษณ์ที่เป็นทางการเพื่อพัฒนาการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นแต่จะไม่มีการเก็บเงินเพิ่มจากบัญชีทั่วไป โดยมีแนวโน้มว่า Twitter จะมีการปรับอัลกอริทึมให้ผู้ใช้สามารถคัดเลือกสิ่งที่ผู้ใช้จะมองเห็นผ่านฟีดทวีตมากขึ้น รวมถึงเสรีภาพในการโพสต์ที่ Twitter ต้องการให้ผู้ใช้ได้อิสระมากขึ้น แต่มีแนวโน้มที่เรื่องเสรีภาพในการพูดจะต้องถูกระงับในการพัฒนาไปก่อนด้วยแบรนด์โฆษณาใน Twitter ยังคงต้องการขอบเขตสำหรับการรับคำวิจารณ์จากผู้ใช้งาน รวมถึง Elon Musk ยังคงต้องการการสนับสนุนจากประเทศที่มีการเข้มงวดเรื่องการใช้คำวิจารณ์บนโลกออนไลน์อยู่

     2. การเพิ่มความปลอดภัยและการตรวจสอบ

         Twitter มีแผนที่จะเพิ่มความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยและการตรวจสอบว่าบัญชีที่มีเป็นบัญชีจริง ไม่ใช่บัญชีบอท โดยอาจจะเพิ่มการยืนยันตัวตนผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์หรืออื่นๆ บัญชีที่ได้รับการยืนยันตัวตนจะมีสัญลักษณ์ มีการคาดการณ์ว่าสัญลักษณ์อาจจะคล้ายกับเครื่องหมายถูกสีเทาของ Facebook ที่เคยมีการใช้งาน

     3. การชำระเงินด้วย Cryptocurrency

         จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ Elon Musk มาจาก Paypal แอปชำระเงินออนไลน์ชื่อดัง รวมถึงการที่ Elon สนับสนุนคริปโต เป็นไปได้มากว่า Twitter ภายใต้การดูแลของ Elon จะมีการพัฒนาเครื่องมือชำระเงินผ่านสกุลคริปโตใน Twitter มากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่า Elon จะทำให้แอป Twitter สามารถแก้ปัญหาในเรื่องของความมั่นคงของสกุลเงินคริปโตได้โดยการทำให้ Twitter เป็นธนาคารออนไลน์เพิ่มช่องทางหลากหลายมากขึ้นสำหรับการใช้จ่าย เช่น ค่าโฆษณา

     4. การเพิ่มวิดีโอยาวขึ้น

         ในปัจจุบันวิดีโอเป็นอีกคอนเทนต์สำคัญทั้งสำหรับครีเอเตอร์และแบรนด์โฆษณาจึงมีแนวโน้มว่า Twitter จะพัฒนาวิดีโอให้ยาวมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้

 

 

- Pinterest

     1. การโฟกัสการตลาดที่กว้างขึ้น

         จากผลสำรวจของ SocialMediaToday เห็นได้ชัดว่าตลาดส่วนใหญ่ของ Pinterest จะอยู่ในอเมริกา มีการคาดการณ์ว่า Pinterest จะสร้างเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการตลาดให้เข้ากับท้องถิ่นในแต่ละที่มากขึ้นและกว้างขึ้น

     2. การพัฒนา Discovery

         หมวด Discovery เป็นอีกหมวดที่ทำให้ Pinterest ประสบความสำเร็จ มีการคาดการณ์ว่า Pinterest จะพัฒนาให้ Discovery เข้ากับพฤติกรรมของผู้ใช้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้เจอผลิตภัณฑ์จากเจ้าอื่นที่คล้ายกับผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้สนใจอยู่เพื่อผู้ใช้ได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด

     3. การปรับปรุง พัฒนาการมองเห็น

         มีการคาดการณ์ว่า Pinterest จะพัฒนาการแสดงรูปในแต่ละหมวด โดยจะมีเครื่องมือให้ผู้ใช้สามารถซื้อที่วางพินเพื่อเพิ่มการมองเห็นรูปของตัวเอง

     4. พัฒนาระบบสแกนภาพและการแสดงผล AR

         ปัจจุบัน Pinterest กำลังพัฒนาเครื่องมือ AR ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นภาพเสมือนจริงมากขึ้น โดยหมวดแรกที่ Pinterest พัฒนาคือหมวดของตกแต่งบ้าน  AR Try On เชื่อว่าพอปรับปรุงให้ดีและมีความเสถียรขึ้น Pinterest จะต้องได้รับความสนใจจากผู้ใช้มากขึ้นแน่นอน

     5. ไลฟ์สด

         คล้ายกับแอป Instagram และ Tiktok Pinterest กำลังพัฒนาระบบไลฟ์สดในแอปเพื่อสนับสนุนพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ คาดว่าในปี 2566 เราจะได้เห็นหมวดไลฟ์สดและการไลฟ์สดแบบเต็มหน้าจอใน Pinterest


ที่มา : 
- https://www.socialmediatoday.com/news/32-predictions-for-social-media-marketing-in-2023/635297/


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup