Q-Life

เทรนด์ท่องเที่ยวธรรมชาติมาแรง! ญี่ปุ่นชูจุดขายศิลปะบนนาข้าวและฟู้ดทัวร์

 

Text : Vim Viva

     หลังกำหนดนโยบายงดรับนักท่องเที่ยวมานานเนื่องเพราะวิกฤติโควิด-19 เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ญี่ปุ่นซึ่งประกาศเปิดประเทศอีกครั้งเมื่อ 11 ตค.ที่ผ่านมาก็ดำเนินการต้อนรับนักท่องเที่ยวทันที ซึ่งกระแสการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นกำลังนำเสนออยู่ในขณะนี้เป็นการท่องเที่ยวนอกสถานที่เชิงนิเวศน์ที่มีนาข้าวและกิจกรรมเกี่ยวกับข้าวเป็นจุดขาย อาทิ ฟาร์มสเตย์ เที่ยวชมนาข้าว ปลูกข้าว เกี่ยวข้าว รวมถึงฟู้ดทัวร์ เช่นการทำข้าวปั้น หรือการตำข้าวเหนียวเพื่อทำขนมโมจิ เป็นต้น

     การท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้โปรโมททัวร์นี้มาสักระยะแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นประชาชนในประเทศที่ต้องการหลีกหนีจากการกักตัวเองในบ้านแคบๆ และไม่ต้องการเที่ยวในเมืองจึงเลือกท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติหรือที่โล่งแจ้งในต่างจังหวัดเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสโรค ซึ่งตรงกับผลสำรวจเมื่อปีที่แล้วที่ JTB Corp บริษัทท่องเที่ยวใหญ่สุดของญี่ปุ่นระบุ 31 เปอร์เซ็นต์ของชาวญี่ปุ่นต้องการท่องเที่ยวตามธรรมชาติ และร้อยละ 21 เลือกทำกิจกรรมกลางแจ้ง

     สอดคล้องกับการสำรวจของสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ที่คล้ายกันว่า 7 ใน 10 ของประชาชนในสหรัฐฯ และ 3 ใน 4 ของชาวยุโรปเลือกสถานท่องเที่ยวแบบกลางแจ้งมากขึ้น รายงานของ WTTC ยังระบุอีกว่าผู้บริโภคให้ความสนใจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเที่ยวแบบได้ช่วยเหลือหรือทำประโยชน์ให้ชุมชน โดยมากเกินครึ่งของนักเดินทางทั่วโลกยินดีเลือกปลายทางที่เป็นชนบท เป็นที่รู้จักน้อย และยังไม่ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการท่องเที่ยว

     Fortune Business Insights ซึ่งเป็นแผนกวิจัยตลาดของนิตยสารฟอร์จูนระบุเนื่องจากความสนใจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนและการท่องเที่ยงอิงธรรมชาติทำให้คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดท่องเที่ยงเชิงเกษตรทั่วโลกจะพุ่งไปแตะที่ 117,400 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปี 2019 ที่มีมูลค่า 69,200 ล้านดอลลาร์ ด้วยเหตุนี้ ญี่ปุ่นจึงพยายามเข้ามามีส่วนตรงนี้โดยการชูจุดขายที่ข้าวและนาข้าวญี่ปุ่น

     แน่นอนว่าหากพูดถึงนาข้าวขั้นบันไดอันเป็นสถานท่องเที่ยวเลื่องชื่อ หลายแห่งได้นำร่องจนเป็นที่โด่งดังไปแล้ว ไม่ว่าจะที่บาหลี อินโดนีเซีย ซาปา เวียดนาม หรือทางภาคเหนือของไทย การเป็นผู้เล่นที่ตามหลังจึงหมายถึงการต้องสร้างจุดขายที่แตกต่าง ซึ่งดูเหมือนญี่ปุ่นจะทำได้น่าสนใจไม่น้อย เช่นที่หมู่บ้านอินาคาดาเตะ ในจังหวัดอาโอโมริที่แปลงทุ่งข้าวให้เป็นงานศิลปะโดยการปลูกข้าวหลากหลายสายพันธุ์โบราณที่ให้รวงสีต่างกันบนพื้นที่เดียวกัน ทำให้เกิดเป็นภาพและข้อความสวยงาม

     งานศิลปะบนนาข้าวแบบนี้ ชาวหมู่บ้านอินาคาดาเตะทำมานานแล้วนับพันปีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองภูมิปัญญาชาวบ้านในการปลูกข้าว ปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยร่างภาพเพื่อกำหนดจุดปักต้นกล้าทำให้ภาพที่ออกมามีความซับซ้อนและละเอียดขึ้นจนสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมได้มากกว่า 2 แสนคน (สูงสุด 3.5 แสนคน) โดย 10 เปอร์เซ็นต์เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากที่อินาคาดาเตะ ชาวนาที่อื่น เช่น ที่หมู่บ้านเกียวดะ จังหวัดไซตามะก็เจริญรอยตามในการสร้างสรรค์ศิลปะบนนาข้าวเช่นกัน และเคยได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊กเมื่อปี 2015 ว่าเป็นศิลปะบนนาข้าวที่มีขนาดใหญ่สุดในโลกบนพื้นที่ 17.5 ไร่

     นอกจากนั้น ยังมีบริการทัวร์เที่ยวชมนาขั้นบันไดหลานที่ เช่น ริมฝั่งทะเลสาบบิวะซึ่งห่างจากเกียวโตเพียงนั่งรถไฟ 30 นาที และที่ซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ ซึ่งนอกจากขมนาขั้นบันได ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ตำข้าวเหนียวเพื่อทำโมจิ และบริการอาหารกลางวันที่เป็นอาหารพื้นเมืองอีกด้วย เนื่องจากข้าวญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ รัฐบาลจึงพยายามประชาสัมพันธ์ข้าวญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักและบริโภคแพร่หลายมากขึ้นโดยการจัดงานอีเวนต์ในต่างประเทศเพื่อสาธิตการทำอาหารจากข้าวญี่ปุ่น   

     ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังมทัวร์พาชิมข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวใหม่ เป็นข้าวสายพันธุ์ต่างๆ ที่ปลูกแบบออร์แกนิกและมีวิธีการปลูกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทัวร์ชิมข้าวนี้ไม่ได้ดึงดูดเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศ กระทั่งชาวญี่ปุ่นเองก็ให้ความสนใจ ทั้งนี้ ข้าวญี่ปุนถือเป็นของฝากที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

     หากจะชูนาข้าวขั้นบันไดเป็นจุดขาย เรียกได้ว่าญี่ปุ่นนั้นมีอยู่มาก เฉพาะที่เมืองวาจิมะ จังหวัดอิชิกาว่าก็มีนับพันแห่ง ทิวทัศน์หรือก็สวยงามไม่น้อยเพราะส่วนใหญ่ปลูกกันบนภูเขาที่หันหน้าออกไปยังทะเลญี่ปุ่น ยังไม่นับรวมนาขั้นบันไดที่จังหวัดอื่น ๆ อีกซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน เชื่อว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจะทำให้ญี่ปุ่นจะยังครองความนิยมในการจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเช่นที่เคยเป็นมา


ที่มา : https://www.japantimes.co.jp/life/2022/07/09/travel/japan-rice-tourism/


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup