Starting a Business

เรื่องราวของ Juno Janssen กับการหาตัวตนของแบรนด์ จนกลายเป็นงานคราฟต์ที่มีเพียงใบเดียวในโลก

Text : Ratchanee P.
 


 
Main Idea
 
  • กระติ๊บใส่ข้าวเหนียวงานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ธรรมดาๆ กลับสามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ด้วยการทำเป็นหัตถกรรมร่วมสมัยที่มีสีสันฉูดฉาดสะดุดตา โดยฝีมือของ จูโน่-เบญญาภา เจนเสน 
 
  • แต่กว่าจะมาเป็นกระติ๊บงานคราฟต์ที่มีเพียงใบเดียวในโลกภายใต้แบรนด์ Juno Janssen นี้ จูโน่ก็ผ่านการลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน
 
 
      กระติ๊บใส่ข้าวเหนียวพื้นบ้านของไทยที่เราคุ้นตาคือ งานหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ รูปทรงกระบอกที่อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างตรงลวดลายและสีย้อมของไม้ไผ่ แต่ จูโน่-เบญญาภา เจนเสน กลับทำให้ภาพกระติ๊บที่คุ้นเคยนั้นเปลี่ยนไป กลายเป็นงานหัตถกรรมร่วมสมัยที่มีสีสันฉูดฉาดสะดุดตาไม่เหมือนใคร ภายใต้แบรนด์ Juno Janssen

 
1

     จูโน่เริ่มต้นธุรกิจทำเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นสร้อย ต่างหู ตามความชอบที่มีมาตั้งแต่เด็ก แต่กลับพบว่าการออกแบบเครื่องประดับใส่ไอเดียได้ไม่เต็มที่ จึงลองสร้างสรรค์งานกระเป๋าขึ้นมา

     “ตอนทำเครื่องประดับครั้งแรก ความเป็นแบรนด์ยังไม่ชัดเจน เลยอยากจะสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ พยายามมองว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบและถนัด ตอนแรกก็ตั้งโจทย์ที่ความเป็นไทยไว้ก่อน จนค่อยๆ ตกตะกอนออกมาว่ามันคือ งานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะมองว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เราใช้วัฒนธรรมร่วมกันมาโดยตลอด ทีนี้ถามว่าแล้วทำไมต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของการสร้างแบรนด์ ทำไมต้องสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ก็เพราะว่าอยากให้แบรนด์ Juno Janssen คนที่ใช้ของเราดูแล้วจะรู้ว่าเป็นแบรนด์ Juno Janssen ทันที และจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น”




 
2

     การออกแบบโดยสอดแทรกความเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงแรกๆ กลับพบปัญหาการสื่อสารและภาพที่ยังไม่ชัดว่า จริงๆ แล้วเธอต้องการจะมิกซ์อะไรกันแน่ จนต้องปรับเปลี่ยนการทำงานใหม่ โดยการพัฒนาสินค้าออกเป็นคอลเลคชัน ทำให้งานมีเรื่องราวและความโดดเด่นมากขึ้น โดยเฉพาะกระเป๋ากระติ๊บ งานคราฟต์ที่มีเพียงใบเดียวในโลก ที่ถือเป็นผลงานที่ขายดีที่สุด

     “คอลเลกชัน Sassy Kratib ขายดีที่สุด กระติ๊บเป็นวัฒนธรรมร่วมของเพื่อนบ้านและจังหวัดในไทย อีสาน เหนือ ลาวก็ใช้ พอหลังจากเอาความเป็นพื้นบ้านมาใส่ความเป็นแฟชั่น ผสมผ้ามันๆ บ้าง ผ้าไหมบ้าง มีทั้งงานถักงานทอ ใส่ความสนุกงาน สีสันจัดจ้านตามแนวทางของแบรนด์ ก็ช่วยเปลี่ยนความคิดของกระติ๊บแบบเดิมๆ ไปได้ กลายเป็นกระเป๋ากระติ๊บที่มีความเก๋แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และแม้กระเป๋ากระติ๊บอาจจะไม่ใช่สินค้าใช้ได้ทุกโอกาส เป็นกระเป๋าที่ใช้เฉพาะกิจ เพราะว่ามีสีสันลวดลายค่อนข้างเยอะ แต่คนที่ชอบเปลี่ยนกระเป๋าไปตามวาระต่างๆ เขาก็จะชอบกระเป๋ากระติ๊บของเรา โดยได้รับการตอบที่ดีทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ”



 

3

     Juno Janssen ไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเอง แต่ใช้ช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และฝากวางตามโรงแรม ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ อย่าง Icon Siam และกำลังพัฒนาเว็บไซต์ให้มีระบบการช้อปปิ้งได้ด้วย  

     “ตอนนี้เว็บไซต์เรามีแต่ให้ข้อมูลแบรนด์ สินค้า แต่กำลังพัฒนาให้สามารถคลิกซื้อได้เลย เพราะตรงนี้เรามองการขายไปไกลคือ ขายไปต่างประเทศ ซึ่งเว็บไซต์มันเหมือนมีหน้าร้านแล้วทำให้คนที่จะซื้อมีความมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญคือต่างประเทศเขานิยมซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์มากกว่าเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมแบบบ้านเรา”



 
                                                                                         
4

     แบรนด์ Juno Janssen เดินทางมาถึง 4 ปี แต่จูโน่ยอมรับว่าแบรนด์ยังไม่เติบโตเท่าที่ควร เพราะเธอเสียเวลาไปกับการทดลองปรับเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อให้แบรนด์มีความชัดเจนยิ่งขึ้น จนกระทั่งเพิ่งจะลงตัว เธอมีข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ว่าอย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง  

     “เวลาเจอปัญหาอย่าท้อ อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง ถ้าทางมันตันก็เปลี่ยนไปเดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเดี๋ยวก็เจอทางออกเอง อีกปัญหาหนึ่งที่ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจมักจะเจอคือ การคำนวณต้นทุนพลาด ดังนั้น ก่อนที่จะตั้งราคาสินค้าต้องคิดต้นทุนให้ครบให้รอบคอบ เพราะถ้าจะอัพราคาขึ้นทีหลังจะลำบาก เราเองก็เคยเจอกับปัญหานี้ ทำให้เกือบขาดทุนมาแล้ว แต่ด้วยสินค้าออกเป็นคอลเลกชัน ทำให้พอเราทำคอลเลกชันใหม่ก็สามารถปรับราคาใหม่ขึ้นมาได้”
   
           
     Website : https://junojanssen.com
     FB : JunoJanssen
     IG : JunoJanssen
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup