Starting a Business

จากผู้ซื้อสู่ผู้ผลิต Copse รองเท้าหนัง Teak Sandal จุดเริ่มต้นธุรกิจเมื่อหาของโดนใจตัวเองไม่เจอ

Text : Marisa S. Photo : กิจจา อภิชนรจเรข





     เมื่อสินค้าในท้องตลาดที่มีอยู่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองได้ จึงทำให้ แป้ง-จิดาภา โฉมทองดี และ หมู-พงศกร ทองประมูล จับมือกันทำรองเท้าหนัง Teak Sandal ภายใต้แบรนด์ Copse รองเท้าหนังสไตล์วินเทจที่มีการดีไซน์แบบ Unisex และความยูนีคที่ดึงดูดกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกันให้มาเจอกัน โดยแม้ว่าแบรนด์นี้จะมีอายุได้เพียงแค่ 6 เดือน แต่ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบรองเท้าหนัง Teak Sandal เป็นอย่างดี


     จุดเริ่มต้นที่ทำให้จิดาภาและพงศกรตัดสินใจทำรองเท้าหนังนี้ขึ้นมาเกิดจากความชอบของพวกเขาทั้งคู่ และการหารองเท้าหนังแซนเดิลที่ชอบในไทยนั้นไม่ได้ แต่ถึงแม้จะมีที่โดนใจแต่ก็เป็นแบรนด์ต่างประเทศที่มีราคาแสนแพง จากปัญหานี้ได้จุดประกายกลายเป็นไอเดียให้ทั้งคู่คิดอยากจะลองทำรองเท้าหนังที่สามารถตอบโจทย์ตัวเองได้ขึ้นมา  





     “คอนเซปต์ของ Copse คือ คราฟต์และยูนีค และสิ่งสำคัญเลยคือ ความ Timeless เพราะเราสองคนไม่ใช่สายแฟชั่น ตามกระแสฟาสต์แฟชั่นไม่ทัน เราเลยชอบรองเท้าที่สามารถใส่ได้นานและมีความเป็นแฟชั่นอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญสามารถตอบโจทย์ในหลายๆ ลุคด้วย ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปเที่ยว ไปไหนก็ใส่ได้หมด ซึ่งงานคราฟต์จะมีความยูนีคอยู่ในตัวอยู่แล้ว ใส่แล้วเท่ไม่เหมือนใคร ลูกค้าที่มาซื้อ Copse ก็เพราะชอบที่มันไม่เหมือนใคร ซึ่งโชคดีที่เราได้เจอเพื่อนของคุณพ่อที่ทำโรงงานรองเท้าอยู่แล้ว เลยได้รับคำปรึกษาและช่วยปรับแต่งรองเท้าใช้เวลาหลายเดือนจนได้รองเท้าหนังอย่างที่เราต้องการขึ้นมา”





     หลังจากที่เริ่มนำรองเท้าออกสู่ตลาดโดยอาศัยช่องทางเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้านั้นเป็นอย่างดี เนื่องจากทางแบรนด์ได้ตั้งเป้ากลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มเฉพาะ ที่ชื่นชอบรองเท้าแซนเดิลที่เป็นงานคราฟต์อยู่แล้วจึงทำให้เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งลูกค้าส่วนมากที่ชื่นชอบจะกลับมาซื้อใหม่อีกครั้ง โดยมีการสวมใส่ที่สบายเท้าและความ Timeless เป็นจุดเด่น ถึงแม้ว่ารองเท้าแนววินเทจส่วนใหญ่พื้นรองเท้าค่อนข้างจะแข็งและหนัก แต่พื้นรองเท้าของ Copse นั้นเลือกที่จะใช้พื้นยางพองเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบา เดินสบายกว่ารองเท้าหนังในแบบอื่นๆ


     สำหรับเป้าหมายของแบรนด์ Copse นั้น จิดาภาบอกว่า นอกจากการทำรองเท้าหนังแล้วในอนาคตอาจพัฒนาไปสู่โปรดักต์อื่นๆ อย่างเช่น กระเป๋าหนังเล็กๆ หรือสินค้าที่สามารถทำจากเศษหนังได้ ด้วยเพราะว่าทุกวันนี้จะมีเศษหนังที่เหลือจากการตัดเย็บรองเท้าเหลือค่อนข้างมาก จึงคิดอยากนำเศษหนังเหล่านั้นมาต่อยอดทำโปรดักต์อื่นๆ เพื่อเป็นการใช้วัสดุให้คุ้มค่าไม่เหลือทิ้ง





     อันที่จริงก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจก้าวออกมาจากคอมฟอร์ตโซนที่เรียกกันว่างานประจำเพื่อออกมาลงทุนลงแรงและให้เวลากับการสร้างแบรนด์ของตัวเองนั้นตรงกับการมาของโรคระบาดโควิด-19 พอดี ซึ่งแม้จะดูเหมือนมีความเสี่ยงสูงแต่เพราะ Passion ที่แรงกล้าจึงทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในแนวคิดของตนเอง พร้อมบอกกับตัวเองว่าถ้าไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน ซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีที่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวโรงงานเพื่อนคุณพ่อที่เป็นที่ปรึกษาให้ตั้งแต่แรกไม่มีลูกค้าเลย จึงพร้อมเดินหน้าลุยไปกับพวกเขาได้อย่างเต็มที่ และทำให้สามารถผลิตรองเท้าออกมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว 


     “มีหลายคนที่อยากมีแบรนด์หรือธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ไม่กล้าที่จะออกจากงาน ถ้าอยากทำจริงๆ ก็ต้องวางแผนก่อน ตั้งเป้าไว้เลยว่าเราจะใช้เวลาไปเท่าไรกับการทำ อย่างน้อยก่อนออกจากงานประจำเราก็ต้องมีแผนการในหัวบ้างแล้ว แค่เตรียมในสิ่งที่ยังไม่ต้องลงมือทำจริง พอตัดสินใจออกมาก็ให้ลุยเลยเพราะว่านั่นคือโอกาสของเรา ถ้ามันเกิดจากความชอบและมี Passion จริงๆ เราจะทำมันออกมาได้ดีพร้อมสนุกไปกับงานที่ทำ” จิดาภาและพงศกรกล่าวทิ้งท้าย แนะนำสำหรับใครที่คิดอยากจะเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเอง

 
Facebook / IG : copse.studio
Tel : 08-9799-8721


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup