Starting a Business

พาแบรนด์โกอินเตอร์! How to พาสินค้าของคุณไปบุก Amazon ต้องเริ่มต้นยังไง

     การขายของออนไลน์กลายเป็นหนึ่งในการหารายได้เสริมหรือสร้างธุรกิจของตัวเองที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ เนื่องจากความง่ายของหารขายและยังเข้าถึงได้ง่าย มีแพลตฟอร์มสำหรับลงขายของเกิดขึ้นมากมาย เพิ่มตัวเลือกให้กับใครได้หลายคน บทความนี้จะมาแนะนำแพลตฟอร์มค้าขายสินค้าออนไลน์ที่ไม่ใช่แค่ไหนประเทศ แต่ยังสามารถขายออกนอกประเทศได้อย่างไม่ยาก นั่นก็คือ Amazon ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่แม่ค้าพ่อค้าบนโลกออนไลน์ และนี่คือวิธีการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Amazon


 


1. เริ่มจากการตั้งค่าบัญชีของผู้ขายใน Amazon


     เมื่อตัดสินใจเลือกขายสินค้าบน Amazon ต้องพิจารณาโปรไฟล์ของตัวเองเพื่อที่จะวางกลยุทธ์ในการขายให้เหมาะสมที่สุด โดยจะมี ผู้ผลิตที่มีโรงงานหรือกระบวนการผลิตภายใต้แบรนด์ตัวเอง, เจ้าของแบรนด์ สั่งผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง, ตัวแทนจำหน่ายกับการนำสินค้ายอดนิยมที่มีขายในตลาดมาเสนอขายใน Amazon ถึงจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตหรือเจ้าของแบรนด์ เราสามารถเลือกโปรไฟล์ใดก็ได้ที่เหมาะกับธุรกิจและเป้าหมายในการขายสินค้า หากวางแผนที่จะขายสินค้าบน Amazon ในนามแบรนด์ตัวเอง ทางเว็บไซต์จะมีทรัพยากรและเครื่องมือมากมายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจนั้น



 


2.เลือกแผนการขายบน Amazon ให้เหมาะสม


     การสมัครบัญชีใน Amazon มีอยู่ 2 รูปแบบ หรือที่เรียกกันว่า แผนการขาย จะมี แผนการขายแบบบุคคลทั่วไป (Individual Selling Account) มีรายจ่ายอยู่ที่ 0.99$ (32.42 บาท) ต่อหนึ่งหน่วยกับสินค้าที่ขายออก และแผนการขายแบบมืออาชีพ (Professional Selling Account) ในราคา .99 (1,309.27 บาท) ต่อเดือนไม่ว่าจะขายสินค้าได้ทั้งหมดจำนวนกี่ชิ้นก็ตาม โดยแผนการขายแบบมืออาชีพจะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกและประโยชน์อื่นๆ ที่มากกว่าแผนการขายแบบทั่วไป อย่างไรก็ตาม อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับหมวดหมู่สินค้าที่ลงขายและการจัดส่งสินค้า
 


3.ลงรายการสินค้าใน Amazon


     ก่อนจะลงชายสินค้า ควรตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งว่าสามารถขายสินค้าประเภทนั้นได้หรือไม่ ทั้งในหมวดหมู่การขายแบบมืออาชีพ สิ้นค้าที่ต้องได้รับการอนุมัติ และสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ เมื่อลงขายสินค้าแล้ว ถ้าหากเลือกแผนการขายแบบมืออาชีพและลงสินค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีขายบน Amazon (New ASIN) ระบุ UPC/EAN และ SKU ส่วนอีกแบบคือลงสินค้าที่มีขายอยู่แล้วบน Amazon (Matched ASIN) ระบุจำนวนสินค้าที่ต้องการขาย สภาพของสินค้า และวิธีการจัดส่ง หลังจากที่ลงรายการสินค้าแล้ว ผู้ขายจะต้องใส่รายละเอียดสินค้าอย่าง รูปภาพสินค้า ชื่อที่ตรงกับการต้นหา คำอธิบาย เกี่ยวกับสินค้าและประโยชน์ของสินค้าลงในหน้ารายละเอียด (Detail Page)




4.ดึงดูดลูกค้าด้วยวิธีการต่างๆ 
 


4.1 จัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว


     หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้าคือประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าคือการได้รับสินค้าในเวลาที่ไม่นานเกินไป ตอบสนองต่อลูกค้าได้รวดเร็วไม่นานเกินไป และมีบริการส่งคือสินค้าได้เมื่อสินค้ามีปัญหา พวกเขาจะต้องสนใจและสั่งซื้อสินค้าอย่างแน่นอน ผู้ขายจะถูกแจ้งเตือนเมื่อมีคนสั่งซื้อสินค้าผ่าน Seller Central โดยผู้ขายสามารถเลือกใช้บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) ได้ โดยที่ Amazon จะเตรียมบรรจุห่อ จัดส่ง รวมถึงจัดการให้เมื่อมีลูกค้าเปลี่ยนหรือคืนสินค้า หรือผู้ชายจะจัดการส่งสินค้าให้ลูกค้าด้วยตัวเองผ่าน Merchant Fulfilled Network (MFN) ได้เหมือนกัน


 


4.2ลงโฆษณาสินค้าและเพิ่มยอดขายด้วยเทคนิคต่างๆ


      เพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้กับสินค้าที่ขายบน Amazon เข้าถึงและสร้างการรับรู้จากลูกค้าหลายล้านคนมากขึ้นด้วยการโฆษณาสินค้าในหน้าเว็บไซต์ โดยใช้เครื่องมือ Sponsored Product โฆษณาผ่านคีย์เวิร์ดสำคัญที่ลูกค้าใช้ค้นหา ตรงนี้คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้าของเราเข้าถึงลุกค้ามากที่สุด หรือใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น Promotion, Deal, และ Coupon ที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างรวดเร็วมากขึ้นของลูกค้า ใช้รูปภาพสินค้าที่คุณภาพสูงและเห็นสินค้าได้อย่างละเอียด ลูกค้าบางคนตัดสินใจซื้อสินค้าจากรูปมากกว่าการอ่านรายละเอียดและสินค้านั้นจะต้องมีคุณภาพที่ดีเพื่อเป็นการสร้างความไว้ใจให้กับลูกค้า






www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup