Starting a Business

จากเด็กจบใหม่สู่เจ้าของร้านแกงกะหรี่ Tasty’n homey ขายยังไงยอดพุ่งหลักแสนต่อเดือน

 

Text : Yuwadi.s


Main Idea

  • มีหลายคนที่เริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ยังไม่จบมหาวิทยาลัย และสามารถต่อยอดอาชีพเสริมนั้นจนกลายเป็นอาชีพหลักได้ทันทีเมื่อก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย

 

  • ดังเช่น เมย์-วรนิษฐา จันทรา เจ้าของร้าน Tasty’n homey ที่เริ่มต้นธุรกิจในอายุแค่ 23 ปี แถมยังทำให้ธุรกิจนี้ กลายเป็นข้าวแกงกะหรี่สุดฮอตในจังหวัดระยอง ที่เริ่มต้นจากไม่มีออร์เดอร์ จนมีรายได้ 8-9 พันบาทต่อวัน

 

     เพราะการเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ใช่อาชีพที่เด็กจบใหม่ใฝ่ฝันอีกต่อไป หลายคนเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ยังไม่จบมหาวิทยาลัย บางคนก็หาตัวเองเจอระหว่างการหางานทำ และหนึ่งในนั้นคือผู้ประกอบการอายุยังน้อยแค่ 23 ปี ที่เรียนจบมาก็เริ่มต้นธุรกิจทันทีจากแค่อาชีพเสริมระหว่างการหางานทำต่อยอดสู่อาชีพหลักในปัจจุบัน

     เมย์ - วรนิษฐา จันทรา เจ้าของร้าน Tasty’n homey ข้าวแกงกะหรี่สุดฮอตในจังหวัดระยอง โดยเมย์เล่าว่าจุดเริ่มต้นของร้านข้าวแกงกะหรี่มาจากที่เธอเป็นคนชอบการกินแกงกะหรี่เป็นทุนเดิม บวกกับในช่วงที่เพิ่งเรียนจบ ระหว่างการหางานทำ เธอได้ทดลองทำข้าวแกงกะหรี่ในสไตล์ของตัวเองแล้วปรากฏว่ารสชาติอร่อย เธอจึงปิ๊งไอเดียลองทำขายผ่านแอปฯ เดลิเวอรี

 

 

     “ตอนนั้นเมย์จบใหม่ ช่วงที่กำลังรอรับสมัครงานเลยหาอะไรทำ เราเป็นคนชอบกินแกงกะหรี่ เคยลองทำกินแล้วมันอร่อย คนอื่นก็น่าจะอร่อยกับเราด้วย เลยลองทำขายดู ตอนเราทำกินเองก็ดูสูตรจากยูทูปแล้วดัดแปลง ก็เอาสูตรที่ทำกินมาขาย ตัวน้ำซุปจะเป็นผัก เราเตรียมการประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็เริ่มสมัครแอปฯ ระหว่างที่รออนุมัติเราก็เตรียมทำหมูทงคัตสึ ซุปมิโซะและแกงกะหรี่ให้เข้าที่ รวมถึงถ่ายรูปเมนูด้วย เพราะถ้ารูปน่าสนใจคนจะคลิกเข้ามาดู เราก็ลงทุนกับรูปถ่าย ถ่ายเองโดยใช้พื้นที่หน้าบ้าน มีต้นไม้เป็นพร้อพ”

        แต่การเริ่มต้นธุรกิจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้ เพราะในช่วงแรก เมย์เล่าว่าในแต่ละวันแทบไม่มีออเดอร์ ทำให้ค่าใช้จ่ายสะดุดเพราะต้องลงทุนไปกับค่าวัตถุดิบโดยที่ยังไม่มีผลตอบแทนกลับมาจนทำให้เธอรู้สึกท้อใจและมีช่วงที่คิดว่าจะหวนกลับไปหางานทำ

     “2-3 วันแรก ไม่มีออเดอร์ เราก็ต้องทิ้งของไปเพราะว่าของเสีย จนประมาณ 3-4 วัน เริ่มมีมา 1 ออเดอร์ 2 ออเดอร์ เราก็ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวไปโพสต์ในกลุ่มของกินระยอง แล้วก็โพสต์ในเฟซบุ๊กเราด้วยว่ากำลังขายของอยู่นะ จนเริ่มมีคนสั่งเข้ามาเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้เยอะมาก ใช้เวลาเกือบเดือนเหมือนกัน ตอนนั้นก็ท้อว่าทำไมไม่มีออเดอร์สักที แล้วเงินมันก็ต้องใช้ จะเดือนหนึ่งอยู่แล้วหรือว่าจะไม่ทำดี กลับไปทำงานประจำดีไหม จนพอเริ่มมีออเดอร์ เราก็เลยลองดูอีกสักตั้ง เผื่อมันจะปังได้ ประมาณเดือนหนึ่งก็มีลูกค้าเก่ากลับมากิน เรามองว่ามันก็น่าจะดีนะถ้าเริ่มมีลูกค้าเก่ากลับมากินอีกรอบ เขาน่าจะประทับใจ”

 

 

     จุดเด่นของข้าวแกงกะหรี่ร้าน Tasty’n homey จะเป็นแกงกะหรี่สไตล์โฮมเมดที่เน้นรสชาติความเผ็ดแบบไทย รสชาติเข้มข้น ทำสดใหม่ทุกวัน ด้วยรสชาติที่ถูกปากคนไทย ทำให้เธอเริ่มมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

     “ตัวน้ำแกงกะหรี่เราจะทำใหม่ทุกวัน เข้มข้นด้วยน้ำผักล้วน ไม่มีเนื้อสัตว์ ลูกค้าสามารถเลือกความเผ็ดได้ ปกติร้านทั่วไปจะใช้พริกเกาหลีหรือพริกญี่ปุ่น แต่ร้านเราใช้พริกป่นของไทย ก็จะได้ความเผ็ดร้อนที่มากขึ้น ลูกค้าก็ชอบด้วยเพราะว่าเผ็ดมาก บางคนก็แบบ มันเลี่ยนไป อยากได้เผ็ดกว่านี้ เราเลยใช้พริกป่นไทยดีกว่า แล้วหมูทงคัตสึเราก็หมักเอง เป็นสูตรของเรา ทอดใหม่ทุกออเดอร์ นอกจากนี้เมนูก็จะมี กุ้งทอด ข้าวหน้าไก่ทงคัตสึ ไก่เทริยากิ ปลาซาบะ”

     จากช่วงแรกที่ขายได้แค่วันละ 1-2 ออเดอร์ หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป ออเดอร์ก็เริ่มเยอะขึ้นเป็นวันละ 30-40 ออเดอร์ แต่จุดเปลี่ยนของ Tasty’n homey ที่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแตกหลักแสนบาทนั่นเป็นเพราะการเข้าไปทำการตลาดใน TikTok ซึ่งเธอเพิ่งจะเข้าไปทำการตลาดในนั้นเพียงไม่นานแต่ก็มีลูกค้าใหม่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

     “โดยปกติเราเป็นคนเล่น TikTok อยู่แล้วแต่ไม่ค่อยได้ลงอะไร เราเห็นคนอื่นเขาขายของใน TikTok เราก็เลยอยากลองบ้าง ก็เริ่มถ่าย ตอนแรกไม่มีคนดู แล้วมันดันไปแมสคลิปที่เปิดร้านเดลิเวอรีโดยที่ไม่มีหน้าร้าน อยู่ดีๆ ก็แมส เราก็เริ่มลงคลิปเรื่อยๆ จากนั้นก็มีคนเข้ามาสั่งเพิ่มขึ้นและเขียนโน้ตว่าตามมาจาก TikTok แบบนี้เยอะมาก วันหนึ่งเราขายได้ 4-5 พันบาท แต่ช่วงนี้ได้ 8-9 พันบาท มันก็เพิ่มขึ้นมากอยู่ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าสนใจให้สั่งทำ Box set เยอะขึ้นด้วย จากที่ไม่ค่อยมี เพราะในระยองจะมีโรงงานเยอะ แล้วเขาก็จะพวก Box set ปกติก็จะสั่งเป็นอาหารตามสั่งหรือร้านบนห้าง แต่เรามีความต่างจากคนอื่น เราไม่ใช่อาหารตามสั่ง เราเป็นอาหารญี่ปุ่น เราสามารถจัด Box set ที่แตกต่างให้เขาได้”

 

 

     โดยเมย์ได้แชร์ถึงเคล็ดลับในการเปิดร้านอาหารในแอปเดลิเวอรีแบบไม่มีหน้าร้านว่าทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เคล็ดลับของเธอคือการพยายามทำให้ลูกค้าประทับใจในอาหารเหมือนได้นั่งกินที่ร้าน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องยากทีเดียว

     “การเข้าไปขายของในแอปฯ มันไม่เหมือนไปนั่งกินหน้าร้าน แต่เราพยายามรักษามาตรฐานให้ได้ดีที่สุด ให้ลูกค้าได้เหมือนไปกินที่ร้านเลย เราใส่ใจรายละเอียดและการเลือกวัตถุดิบ เลือกแพ็คเกจจิ้งที่มันดี เพราะเมื่อก่อนเคยมีปัญหาที่น้ำแกงกะหรี่ไหลไปรวมกับข้าวแล้วทำให้ข้าวแฉะ เราพัฒนามาเรื่อยๆ อย่างหมูทอด ถ้าลูกค้าอยู่ไกลก็อาจจะไม่ค่อยกรอบเหมือนกินแบบออกจากเตา เราเลยหาวิธีที่ทำยังไงให้หมูยังกรอบ ตอนแรกเราใช้หมูโปะข้าวเลย แล้วมันไม่โอเค เลยใช้เป็นหมูแยกกล่อง เจาะรูระบายอากาศ หมูก็จะยังกรอบเหมือนกินเลยจากเตา”

     โดยเธอได้ปิดท้ายว่าการทำธุรกิจขายอาหารแบบไม่มีหน้าร้านเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ต้องทำให้ลูกค้ามั่นใจและประทับใจผ่านรสชาติอาหารรวมไปถึงแพ็คเกจจิ้ง

     “การขายอาหารไม่มีหน้าร้าน เป็นความท้าทาย ด้วยความที่เราไม่มีหน้าร้าน ลูกค้าไม่รู้จักร้านเราเลย ลูกค้าก็ไม่แน่ใจว่าของเราอร่อยหรือเปล่า จะสะอาดหรือเปล่า เราต้องทำให้เขามั่นใจและเกิดความประทับใจจะได้กลับมาซื้ออีกครั้ง เราพัฒนาสินค้าของเราสม่ำเสมอ เขาจะได้กลับมาซื้อซ้ำเรื่อยๆ อนาคตอาจจะมีแพลนว่าจะเปิดหน้าร้านหรือเปิดคอร์สสอนทำข้าวแกงกะหรี่”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup