Starting a Business

คุยกับ ยุทธภูมิ แก้วเข้ม-เทยกะทะ พลิกชีวิตชั่วข้ามคืนสู่ Influencer 10 ล้านบาทต่อเดือน จากการเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยง

 

Text : Yosita T. 

     ใครจะคิดว่าหมาจรจัดที่นอนข้างถนนทุกวัน จะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่วยพลิกชีวิตของคนคนหนึ่งได้ในชั่วข้ามคืน จากชีวิตติดลบ สู่ความสุขและมีทุกสิ่งทุกอย่างแบบที่ใจฝัน นี่คือเรื่องราวของ บูม-ยุทธภูมิ แก้วเข้ม หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในนาม “บูม เทยกะทะ” ซึ่งกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่เคยรับงานรีวิวมาแล้ว 10 ล้านบาทต่อเดือน จากการที่เจ้าหมูทะและเป๊ปซี่เข้ามาในชีวิตพร้อมกับโอกาสมากมายที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน จนต่อยอดมาสู่ร้านหมูกระทะ เทยกะทะ ที่โด่งดังในตอนนี้   

 

Content มาจากความ Real ทำให้กระแสไม่เคยตก

     ตั้งแต่ที่บูมเก็บเจ้าหมูทะมาเลี้ยงและเก็บเหล่าหมาจรจัดมาเลี้ยงเรื่อยๆ รวมถึงเจ้าเป๊ปซี่ที่ตอนนี้ก็มีแฟนคลับเยอะพอๆ กับเจ้าหมูทะ ทำให้มีคนชื่นชอบความใจดีและรักสัตว์ของบูม ซึ่งทุกคอนเทนต์ที่ทุกคนได้รับชมจากเจ้าสุนัขสองตัวนี้มักจะเกิดจากพฤติกรรมที่แม้แต่เจ้าของก็คาดไม่ถึง และเพราะความ Real เลยทำให้คอนเทนต์กลายเป็นไวรัล มีแฟนคลับติดตามเพิ่มขึ้นอยู่ตลอด และมีสปอนเซอร์เข้ามาไม่ขาดสาย  

     “คอนเทนต์หนึ่งที่คนชอบมากคือ หมูทะจะแต่งตัวใส่เครื่องประดับ คือเราเห็นเขาไปนั่งหน้ากระจกก็เลยลองจับใส่ต่างหูแล้วถ่ายรูปลงเล่นๆ กลายเป็นว่านางชอบนางเชิ่ดคอแบบสุดๆ แฟนคลับก็ชอบ ส่วนที่จะต้องพูดถึงอีกตัวคือเป๊ปซี่ ซึ่งมีพฤติกรรมความแตกต่างจากหมูทะโดยสิ้นเชิง เป๊ปซี่มาถึงก็กัดบันไดบ้าน กัดทุกอย่างที่จะหากัดได้ แล้วบูมก็จะด่ามัน จนมันกลายเป็นคอนเทนต์เรียลๆ บางทีไลฟ์สดอยู่เป๊ปซี่กระโดดถีบบูม แล้วแฟนคลับก็ตลกกัน บูมคิดว่าที่ทุกวันนี้หมูทะ เป๊ปซี่ และตัวบูมเองยังอยู่ในกระแสเพราะทุกคนอยากรู้ว่าวันต่อๆ ไป สองตัวนี้มันจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดให้ปวดหัวอีก”

 

 

เพราะมีแฟนคลับหรือด้อมที่เหนียวแน่น ไม่ว่าขายอะไรก็ปัง

     หลายคนคงได้เห็นสิ่งที่เป็นตัวตนของบูม คือความชัดเจน จริงใจ สนุกสนาน ด้วยความเป็นตัวตนแบบนี้ก็ทำให้แฟนคลับรักบูมในแบบที่บูมเป็นและพร้อมซัพพอร์ตธุรกิจร้านหมูกระทะและสินค้าทุกชิ้นที่บูมขายแบบไม่มีข้อแม้ จนสปอนเซอร์ต้องกลับมาจ้างบูมซ้ำ มากไปกว่านั้นแฟนคลับทุกคนก็รักและเอ็นดูเจ้าเป๊ปซี่กับเจ้าหมูทะแบบไม่มีข้อแม้เช่นกัน ไม่ว่าเป๊บซี่จะกัดอะไรพังแค่ไหน แฟนคลับก็พร้อมใจกันโอนเงินมาให้ซื้อสิ่งนั้นใหม่ทันทีโดยที่บูมไม่ต้องร้องขอเลย พลังแฟนคลับที่เหนียวแน่นแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ผลักดันให้บูมประสบความสำเร็จทั้งการเป็นอินฟลูเอนเซอร์และการเป็นเจ้าของร้านหมูกระทะ

     “ล่าสุดก็มีแฟนคลับมากินหมูกระทะที่ร้าน แม่เขาก็เป็นแฟนคลับบูมมาตลอดจนก่อนที่แม่เขาจะเสียชีวิต คุณแม่สั่งเสียว่า ‘บูมทำอะไร ลูกต้องซื้อเขาทุกอย่างและต้องไปกินหมูกระทะบูมทุกเดือน’ ปัจจุบันเขาก็ยังมา ตอนแม่เขายังอยู่ เวลามากินที่ร้าน เป๊ปซี่ก็จะขึ้นไปนั่งข้างๆ ให้แม่เขากอด ส่วนตัวบูมก็จะไปเต้นให้เขาดู คุณแม่เขาก็จะชอบใจ ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือแฟนคลับเป๊ปซี่ คือต้องบอกเลยว่าเป๊ปซี่เนี่ยดื้อมาก แต่ว่าเป๊ปซี่มีแฟนคลับ เป๊ปซี่กัดอะไรแฟนคลับซื้อใหม่ให้ทั้งหมด ล่าสุดเป๊ปซี่ฉี่ใส่ที่นอนแฟนคลับโอนเงินมาให้ 50,000 ค่าซักผ้าปูที่นอน เป๊ปซี่กัดผ้าม่านพัง แฟนคลับซื้อผ้าม่านให้ใหม่ทั้งบ้านแล้วบอกว่า กัดอีกนะลูกเดี๋ยวมาซ่อมให้ใหม่”

 

 

การเข้าร้านทุกวันของบูม เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าอยากมากินร้านเทยกะทะ

     เป็นปกติมากที่เวลา ดารา หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่เราชอบ ทำธุรกิจเปิดร้านอะไรก็ตาม ผู้คนก็อยากจะสนับสนุนด้วยการไปอุดหนุนเพราะอยากเจอตัวจริงกันสักครั้ง เช่นเดียวกับร้านเทยกะทะของบูม ที่นอกจากจะอยากมาลองชิมตามรีวิวแล้ว ใครๆ ก็อยากมาเจอบูม เป๊ปซี่ และหมูทะ ซึ่งบูมก็เข้าร้านทุกวันเพราะอยากเจอลูกค้าเช่นกัน นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บูมและร้านหมูกระทะ เทยกะทะ เติบโตและเป็นที่รักของลูกค้าทุกคน  

     “เพื่อนบูมบางคนบอกว่า อย่าไปเจอแฟนคลับบ่อยสิ ถ้าไปเจอบ่อยจะไม่มีมูลค่านะ เพราะเขาห่วงว่างานโชว์ตัวจะน้อยลงเพราะแฟนคลับก็มาเจอบูมที่ร้านหมูกระทะได้ไม่เห็นต้องไปดูตามงานอีเวนต์ แต่บูมมองอีกแบบหนึ่ง บูมเจอแฟนคลับคือแฟนคลับร้องไห้ทุกคน เขาบอกว่าชอบเรามาก ชอบเป๊ปซี่ ชอบหมูทะมาก ชอบความเป็นธรรมชาติ เลยคิดว่าเราก็เข้าร้านสิเพราะเราก็มีความสุขเวลาได้เข้าไปเจอลูกค้า ลูกค้าก็มีความสุขที่เจอเรา เลยกลายเป็นว่าเราเข้าร้านเป็นประจำเพื่อรอต้อนรับพวกเขา ไปทำให้ลูกค้าผ่อนคลาย ไปชวนชนแก้ว ร้านเราเลยยังอยู่มาได้นานจนป่านนี้”

 

               

รู้จักบูม-ยุทธภูมิ แก้วเข้ม

     เกิดและเติบโตมาให้ครอบครัวที่ไม่ได้มีพร้อมแบบครอบครัวอื่น ออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16 ปี เรียนจบมัธยม 3 ทำงานใช้แรงงานมาแทบทุกอย่าง ตั้งแต่โรงงาน ล้างจาน ไปจนถึงโคโยตี้ แต่บูมเชื่อมั่นว่า “ถ้าไม่ไปเบียดเบียนใคร สักวันต้องเป็นวันของเรา”

     จนกระทั่งบูมได้มาเจอเจ้าหมูทะที่เข้ามาเติมเต็มซึ่งกันและกัน ตั้งแต่นั้นก็เข้าช่วยเหลือหมาจรจัดอยู่ตลอด และชีวิตของบูมก็เริ่มดีขึ้นจนถึงขีดสุด แต่กระนั้นเขาก็ทำธุรกิจเจ๊งมาเยอะ ซึ่งทำให้ค้นพบสัจธรรมที่ว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ถือว่านั่นคือการเรียนรู้ แล้วกลับมาโฟกัสความสุขที่แท้จริงของตัวเอง คือการตื่นบ่าย 3 แล้วเข้าร้านหมูกระทะตอนเย็น ชวนลูกค้าดื่มเบียร์ ร้านหมูกระทะแห่งนี้บูมตั้งใจเปิดโอกาสให้คนท้อง คนพิการ อาสากู้ภัย คนเก็บขยะ อายุต่ำกว่า 3 ขวบ และอายุ 70 ปีขึ้นไป กินฟรี! เพราะเขาเคยผ่านจุดที่การจะได้กินหมูกระทะแต่ละครั้งเป็นเรื่องยากมาแล้ว จึงเข้าใจและอยากเป็นผู้ให้โอกาสกลับคืนสู่สังคมบ้าง  

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup