“ปังเจริญ” ร้านขนมเสริมรายได้ของพนักงานออฟฟิศ เปิดแค่วันเดียวต่อวีคแต่ขายได้วันละ 500 ก้อน!
Text : Yuwadi.s
เพราะทฤษฎีการทำธุรกิจแน่นจากอาชีพการเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี ทำให้พวกเขาอยากลองเปลี่ยนจากทฤษฎีมาลงมือปฏิบัติจนกลายเป็นอาชีพเสริมสุดปังกับร้านขนมปังที่เปิดแค่วันเดียวต่อสัปดาห์แต่ขายได้วันละ 500 ก้อน นี่คือเรื่องราวของร้าน ปังเจริญ - bpang jàroen ร้านขนมปังย่านลาซาล ใกล้ BTS แบริ่ง ซึ่งก่อตั้งโดย ฟิว-เกศราภรณ์ จันทรังษี และ โบ๊ท-ศิริพงษ์ คงถาวรกุล ที่หยิบเอาแพสชันการทำขนมและใส่ทุกความชอบลงไปจนกลายเป็นร้านขนมปังเตาถ่านที่กำลังฮอตสุดๆ บนโลกออนไลน์ที่ใครหลายคนอยากลิ้มลอง
ธุรกิจเสริมที่เปิดแค่วันเสาร์วันเดียว
โดยฟิวเล่าให้ฟังก่อนที่จะเปิดร้านปังเจริญว่าเธอกับโบ๊ทเป็นแฟนกันที่เรียนและทำงานในสายอาชีพเดียวกันนั่นคือออดิทหรือผู้ตรวจสอบบัญชี ทำให้เธอได้เห็นถึงเบื้องหลังการทำธุรกิจของหลายอุตสาหกรรม จนทำให้เธออยากทดลองหยิบความรู้มาสร้างธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง
“ฟิวกับแฟนเรียนจบเราก็ทำงานเป็นออดิทในเครือ BIG4 ด้วยอาชีพของเราและเราทำงานด้วยกันมาตลอด ทำให้เราสองคนเห็นเบื้องหลังธุรกิจหลายๆ อุตสาหกรรม พอเราทำงานไปเรื่อยๆ เราเริ่มอยากลองทำธุรกิจอะไรสักอย่างขึ้นมา เพราะเราเรียนรู้ทฤษฎีไปแล้ว เราอยากลองทำด้วยตัวเองบ้าง เลยตกลงว่าจะทำธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหาร โดยร้านเราจะเป็นแบบป๊อปอัพ สโตร์ เพราะเงื่อนไขของเราคือเราจะเปิดแค่ 1 วันต่อสัปดาห์คือวันเสาร์ ด้วยอาชีพของเราด้วยเลยเปิดได้แค่ 1 วัน ทีนี้เรามีพื้นฐานด้านการทำขนมไทยและเบเกอรี่ เราเลยอยากนำความรู้ของตัวเองที่ทำขนมได้มาใช้ เลยกลายเป็นธุรกิจของพนักงานประจำที่มีวันหยุดแค่เสาร์อาทิตย์”
หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะลุยทำร้านขนมปัง ฟิวเล่าว่าเธอใช้เวลากว่าครึ่งปีในการคิดสูตร ทดลองทำ วางกลุ่มเป้าหมาย โดยพวกเขาจะใช้ความชอบของตัวเองเข้ามาผสมผสาน ชอบแบบไหนทำแบบนั้น จนกลายเป็นร้านขนมปังเตาถ่านชื่อ “ปังเจริญ”
“เราคิดสูตรใช้เวลามากกว่าครึ่งปีตั้งแต่เริ่มต้น พอเราได้ไอเดียมา เราเลือกอุตสาหกรรมก่อน หลังจากคิดว่าจะทำธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารก็คิดต่อว่าจะทำยังไง ต้องมีอะไรบ้าง กลุ่มลูกค้าเราคือใคร เราจะขายยังไง เขาจะซื้อเราจากอะไร คิดกันมาเรื่อยๆ ทดลองสูตรขนมปังและเครื่องดื่มกันมาตลอด ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแล้วได้เลย เราเป็นคนที่ชอบการไปกินขนมหวานอยู่แล้ว เราก็จะมีมาตรฐานของเราว่าชอบแบบไหนแล้วเราก็เอามาใส่ในร้านของเราแบบนั้น วันที่เปิดขายวันแรก เราไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะมีลูกค้ามาเยอะขนาดนี้ ตอนนั้นเราตั้งขายไป เป็นร้านน้องใหม่มากๆ ไม่มีใครรู้จักว่าเราขายอะไร คนในโลกออนไลน์ก็ยังไม่รู้จักขนาดนั้น เราเพิ่งเริ่มต้นสร้างตัวตนบนออนไลน์ก่อนเปิดร้านจริง 2 อาทิตย์ เปิดวันแรกก็ตื่นเต้น คิดว่าเปิดขายหกโมงเย็น น่าจะปิดสักสี่ทุ่ม แต่พอจริงๆ สองทุ่มก็ปิดแล้ว น่าจะเพราะความใหม่และแตกต่างในละแวกนั้น คนเห็นเลยลองแวะดู ก็ขอบคุณลูกค้าที่ตัดสินใจเชื่อเราในขณะที่เขายังไม่ได้รู้จักเราเลยว่าขายอะไร”
เปลี่ยนทำเลบ้านๆ ให้ปังด้วยคอนเทนต์บนโลกออนไลน์
สำหรับตัวร้านปังเจริญจะตั้งอยู่ที่เดียวกับร้านขายวัสดุก่อสร้างชื่อจงเจริญ ซึ่งเป็นธุรกิจของที่บ้าน โดยฟิวเล่าว่าเธอเลือกทำเลนี้เพราะอยากประหยัดต้นทุนมากที่สุด สิ่งที่เธอทำต่อมาคือการดึงดูดคนให้รู้จักด้วยการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์เพื่อสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้า
“เรากับแฟนไม่ได้นึกถึงเรื่องทำเลมาก่อนว่าจะขายตรงไหนดีหรือตรงไหนคนเยอะ เราตั้งใจแต่แรกว่าจะลดต้นทุนให้มากที่สุดเลยทำขายบนพื้นที่ของตัวเอง เราเชื่อว่าในยุคนี้ ทำเลที่ดีที่สุดคือทำเลที่มีสายตาของลูกค้าอยู่นั่นคือโลกออนไลน์ ไม่ว่าร้านจะอยู่ลึกหรือลับตาคนแค่ไหน ถ้าเราพาร้านเราไปอยู่ในสายตาคนหมู่มากบนโลกออนไลน์ได้คือเราชนะในแคมเปญนี้ เราเริ่มสร้างตัวตน สร้างการรับรู้ สร้างแบรนด์ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ธุรกิจของเราคือธุรกิจบริการ ไม่ใช่แค่ธุรกิจขายสินค้าที่ลูกค้ากดซื้อผ่านออนไลน์ได้แบบไม่ต้องออกจากบ้าน สิ่งที่ธุรกิจบริการต้องเจอคือความท้าทาย ทำยังไงให้ลูกค้าเชื่อใจและยอมออกจากบ้านมาเจอเราบนโลกออฟไลน์ สำคัญที่สุดคือความจริงใจ ต้องสร้างความน่าเชื่อถือผ่านออนไลน์ให้ได้ คอนเทนต์ที่เราทำทุกอย่างจะไม่ผ่านฟิลเตอร์ การแต่งสีอะไรเลย เป็นความเรียลๆ จริงๆ ถ่ายด้วยกล้องสด เห็นจากออนไลน์แบบไหน ของจริงต้องเป็นแบบนั้น”
จุดเด่นของร้านปังเจริญอยู่ที่การเลือกใช้ขนมปังที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน หาไม่ได้จากที่อื่น นอกจากนี้วัตถุดิบยังคัดสรรอย่างดีรวมไปถึงราคาที่น่ารักและจับต้องได้
“ร้านเราความต่างจะอยู่ที่ตัวขนมปัง เราคัสตอมเฉพาะแบบที่เราชอบกิน นุ่มๆ มีรสชาตินิดๆ องค์ประกอบที่เราชอบเอามารวมไว้ในขนมปังก้อนนั้น วัตถุดิบต่างๆ ที่เราใช้ก็จะเลือกตามมาตรฐานที่เรากินในชีวิตประจำวัน เช่น ชอบขนมปังทาเนยแบรนด์ไหน นมข้นยี่ห้ออะไร ก็ใช้แบบที่เรากิน เพราะเรากินเองทุกรอบที่เปิดร้าน เราทำแล้วต้องชอบกินของเราด้วย ส่วนราคาก็มาจากแนวคิดที่ว่าต้องเป็นราคาที่เราเองยอมซื้อ ยอมจ่ายและจ่ายไหว มองว่าถ้าเราเป็นลูกค้าแล้วจะซื้อไหม เลยตั้งราคานี้ อย่างขนมปังชิ้นละ 10 บาท ก็เป็นคลิปที่แมสมากในช่อง บางคนมองว่าราคานี้ได้กำไรหรือเปล่า แต่เราผ่านการคิดคำนวนต้นทุนมาแล้วด้วยความที่เราเป็นนักตรวจสอบบัญชี เราไม่เสียค่าที่ด้วย เราเลยตั้งราคาตามความต้องการของเราได้”
โดยฟิวได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจให้ฟังว่าสำหรับเธอความจริงใจสำคัญที่สุด แม้ว่าความรู้ด้านอื่นจะดีแค่ไหนแต่ถ้าลูกค้าไม่เชื่อใจในแบรนด์ก็ยากที่จะสำเร็จ
“เรามองว่าความจริงใจคือกุญแจสำคัญ แม้ว่าจะมีความรู้ทางการตลาดที่ดีแค่ไหน ถ้าลูกค้าไม่เชื่อใจในแบรนด์ก็ยากที่จะสำเร็จ เรามองว่าความไว้วางใจเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการ ถ้าลูกค้าไม่เชื่อใจเรา เขาก็จะไม่อยากสนับสนุนเรา แต่ถ้าเขาเชื่อใจก็จะอยากสนับสนุน กลับมาซื้อซ้ำและรักเราแบบมี Brand Loyalty”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup