การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่ได้เป็นเพียงคำพูดติดปากอีกต่อไปแล้ว มันได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ
นับตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลากว่าสองปีครึ่ง ที่ประเทศไทยได้เรียนรู้และอยู่กับการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อเนื่องมาสองปีกว่า ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภค แนวโน้มธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป แน่นอนว่ารูปแบบการทำธุรกิจเองก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน
อากาศยิ่งแปรปรวนผู้คนก็ยิ่งตระหนักถึงต้นตอของปัญหา ทำให้หลายฝ่ายเริ่มหาวิธีที่จะหยุดภาวะโลกร้อน ซึ่งรวมไปถึงภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ส่งออกที่ควรทำความเข้าใจ เร่งปรับตัวเพิ่มประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุนและรักษาตลาด โดยเฉพาะในสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายในการเก็บค่าธรรมเนียมคาร์บอนสำหรับการนำเข้าสินค้า
ว่ากันว่าผู้หญิงเท่านั้นที่จะเข้าใจกันได้ อย่างเรื่องการมีประจำเดือน เป็นต้น ถ้าไม่ได้ลองมาเป็นด้วยตัวเอง ก็ยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ถึงความกังวล ความไม่สบายตัวที่เกิดขึ้น ฟังดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่จริงๆ แล้วกลับส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จนถึงความสัมพันธ์ของคนรอบข้างได้เลยทีเดียวในช่วงวันนั้นของเดือน
เชื่อสิของทุกอย่างบนโลกย่อมมีประโยชน์ แม้แต่ของเสียอย่าง"อุจจาระ" ยังสามารถนำมาดัดแปลงทำสิ่งของและธุรกิจได้ตั้งหลายอย่างเลย
ยิ่งนานวันอาหารที่ทำจากพืช หรือ Plant-based food ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นด้วยเทรนด์การใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค รวมไปถึงการห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงการไม่เบียดเบียนสัตว์
หากพูดถึงเทรนด์แฟชั่นซึ่งกำลังเป็นที่สนใจอย่างต่อเนื่องไม่มีแผ่วก็เห็นจะต้องยกให้เป็นเทรนด์ของ Upcycling Fashion ซึ่งเป็นแนวคิดการดัดแปลงเสื้อผ้า สิ่งทอหรือกระทั่งวัสดุที่ไม่ใช้ได้แล้วให้กลายเป็นเสื้อผ้าชิ้นใหม่
สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และกินระยะเวลามายาวนานร่วม 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นผู้ประกอบการ SME หลายรายยืนหยัดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ บทเรียนเหล่านั้นนับเป็นองค์ความรู้ ถือเป็น “วัคซีน” สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจในการปรับตัวได้ ลองไปดูวิธีปรับตัวเหล่านั้นกัน
รู้ไหมว่ากว่าผลไม้จะส่งถึงมือผู้บริโภคได้นั้น ต้องเกิดการสูญเสียระหว่างทางไม่ใช่น้อย ว่ากันว่าเฉพาะในกระบวนการผลิตไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ต คาดว่ามีผลไม้และผักสด 52% เกิดจากการเน่าเสียจะถูกทิ้งก่อนที่จะส่งถึงมือผู้บริโภค
สังคมผู้สูงวัยถือเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์โลก ในศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้จากแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ โดยองค์การอนามัยโลก คาดการณ์ว่าในปี 2573 จะมีประชากรสูงอายุมากถึงประมาณ 1.4 พันล้านคน และจะเพิ่มเป็น 2 พันล้านคนในปี 2593
"Nature Positive" หรือ "ธรรมชาติเชิงบวก" เทรนด์ใหม่รักษ์โลกที่มากกว่าส่งเสริมไม่ให้ทำลาย หรือลดใช้ทรัพยากร แต่คือ การดูแลโลกแบบเชิงบวกที่ทุกองค์กรธุรกิจพึ่งทำในยุคนี้
แม้ประเทศไทยจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม กลับถูกมองเป็นอาชีพไกลตัวคนรุ่นใหม่ ด้วยบริบทและสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปมีอาชีพใหม่ๆ ให้เลือกทำหลากหลายมากขึ้น