ในปี 2020 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยจำนวนหลายล้านคนได้ก้าวเข้ามาสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ในปี 2021 ได้รู้ว่าโลกออนไลน์นั้นได้อยู่กับเราอย่างถาวรแล้ว ผู้บริโภคในประเทศไทยต่างปรับตัวสู่ไลฟ์สไตล์ที่เน้นดิจิทัลเป็นหลัก
ใครจะคิดว่าเพราะความเป็นสาวนักช้อป ที่รักการช้อปปิงเป็นชีวิตจิตใจ จนรู้ว่าที่ไหนแบรนด์อะไร มีโปรโมชันดีๆ และเพียงเพราะอยากบอกต่อโปรโมชันเด็ดๆ เหล่านั้นให้กับเพื่อนๆ จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจ
ในยุคของแพงขึ้นทั้งกระดานในปี 2022 นี้ เราๆ เหล่านักธุรกิจ SME ก็ควรที่จะใช้เครื่องมือฟรีให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่กับธุรกิจของเรา
ต่อให้โปรดักต์ดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ตอบโจทย์ความต้องการ ไม่มีใครอยากใช้ ก็ยากที่จะไปรอด ดังนั้น การหา Product-Market Fit หรือการทำสินค้าที่มีตลาดรองรับ ตรงกับความต้องการของลูกค้าจึงมีความสำคัญ
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลายาวนานมากว่า 2 ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนมากมายให้ไม่เหมือนเก่า ต้องมีการเว้นระยะห่าง ต้องนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน การติดต่อสื่อสารกันผ่านช่องทางออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ในฤดูฝนที่เฉอะแฉะ อาจเป็นโลว์ซีซันของที่พักหลายแห่ง แต่สำหรับ “เฮินไต” รีสอร์ตเล็กๆ กลางทุ่งนาในอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นี่คือ ฤดูทำเงินของธุรกิจ
เปิดปีเสือมากับภาวะค่าครองชีพแพงขึ้นกันเลยทีเดียวครับ ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญแสดงให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ แล้วถ้าใช่ SME อย่างเราควรจะปรับตัวอย่างไร
เมื่อลูกคุณหนู “ต๊อบ-รสิตา จรดล” ทายาทเจ้าของโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่มีรายได้หลักล้านบาทต่อวัน ต้องเจอกับปัญหาธุรกิจครอบครัว เธอตัดสินใจแยกออกมาทำฟาร์มโคนมของตัวเอง ใช้ชื่อว่า “กาลครั้งหนึ่งฟาร์ม”
เมื่อการค้าขายเปลี่ยนไป แค่เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็มีเศรษฐีเกิดใหม่มากมาย แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคและพลังของโลกออนไลน์จะช่วยให้คุณทำเงินจำนวนมหาศาลได้ในพริบตาถ้าคุณรู้จักการสร้างโอกาส
Thailand Coffee Fest มหกรรมกาแฟประจำปีของไทยที่รวมพลเหล่าคนกาแฟตั้งแต่เกษตรกรต้นน้ำ โรงคั่วที่อยู่กลางน้ำ ผู้ประกอบการธุรกิจร้านกาแฟซึ่งเป็นคนปลายน้ำ ปีนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างลองไปดูกัน
สิ่งแวดล้อมยังเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปได้เดินหน้าในการในเรื่องการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate change) อย่างต่อเนื่อง ตามแผน European Green Deal นอกเหนือจากมาตรการจัดเก็บภาษีคาร์บอนสำหรับสินค้าข้ามแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) สำหรับกลุ่มสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2566