อย่าตกหลุมดรามาให้เสียพลัง....จาก Toxic People เตรียมพร้อมตั้งรับความ Toxic ให้อยู่หมัด ซัดกลับแบบคูลๆ !! ด้วย 5 วิธีตอบสนองแบบชาว Grey Rock
ภาวะหมดไฟ (Burnout) กำลังระบาดหนักในหมู่ผู้บริหารและเจ้าของกิจการ โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจกำลังซบเซา ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวแบบไม่มีเวลาพักหายใจ ซึ่งภาวะหมดไฟของผู้นำนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่คือความเสี่ยงของทั้งองค์กร!
Toxic Leadership หรือผู้นำที่แสดงพฤติกรรมในเชิงลบ มักจะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นพิษ จนทำให้พนักงานรู้สึกไม่มีความสุข สุขภาพจิตใจแย่ และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง แล้วมีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกถึงผู้นำที่ Toxic บ้าง ไปดูกัน
ใครจะคิดว่า เพียงเพราะอยากให้ซอสมาสเตอร์ที่คิดค้นขึ้นเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จึงเปิดร้านสุกี้พรศิริ ในพื้นที่ลานจอดรถของอพาร์ทเม้นท์ ที่เจ้าของพื้นที่ให้วันเวลาขายที่จำกัด จะกลายเป็นร้านสุกี้ที่มีคนต่อคิวรอ 80-100 คิวต่อคืน และทำยอดขายได้ 700 จาน
ถ้าอยากเป็นผู้นำยุคใหม่ พร้อมปั้นองค์กรให้มี Green Flag สะบัดไกว ซึ่งเป็นสัญญาณของความปลอดภัยและไม่เป็นพิษ ต้องจำและนำ A – Z แบบใหม่นี้ไปใช้
รู้จัก Mood Tracker เครื่องมือช่วยติดตาม บันทึก และวิเคราะห์อารมณ์ของตัวเองในแต่ละวัน ที่จะช่วยเช็คว่าวันนี้คุณอารมณ์เป็นแบบไหน?
หัวหน้าไม่ใช่มนุษย์ Perfect จึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนเคยทำผิดพลาด แต่หัวหน้าที่มีพฤติกรรม “เป็นพิษ” (Toxic) นอกจากจะทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่ดีแล้ว ยังทำให้ผลผลิต (Productivity) ของทีมและองค์กรแย่ลงอีกด้วย
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ใครๆ ก็ชอบคนน่ารัก อ่อนโยน แต่บางครั้งในการเป็นผู้นำธุรกิจการเป็นคนดังกล่าวอาจทำให้คุณถูกมองว่าอ่อนแอ หรือใจดีเกินไปได้ ทำให้ต้องสวมบทโหดเป็นผู้นำเผด็จการกันบ้างในบางครั้ง
การเพิ่มอำนาจให้กับพนักงานและลดการควบคุมดูแล ส่งผลดีต่อธุรกิจดีมากน้อยแค่ไหน? บริษัทจีนกำลังเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับคำถามนี้ โดยใช้เทคโนโลยี Digitally Enhanced Directed Autonomy (DEDA) นำ AI มาทำงานร่วมกับคน
ไอเดียคือ สิ่งสร้างสรรค์ แต่ถ้าไอเดียที่ดูยอดเยี่ยมในมุมลูกน้อง อาจไม่สอดคล้องหรือเหมาะกับแนวทางบริษัท ในฐานะ CEO หรือหัวหน้า การรู้วิธีปฏิเสธคำแนะนำของพนักงาน โดยไม่ทำลายขวัญกำลังใจจะช่วยสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ก้าวหน้าได้
หลากหลายปัญหาที่รุมเร้าตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เรื่องสุขภาพจิตเป็นปัญหาที่ท้าทายในการทำธุรกิจ แม้แต่ CEO ของ Starbucks ยังเอ่ยปากว่า สุขภาพจิตและอารมณ์ของพนักงานเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหลังเกิดโรคระบาด