Digital Marketing

อย่าเมิน Live! แค่ทำให้โดน ยอดขายก็ล้น





 

     ณ วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Live ได้กลายเป็นช่องทางสร้างยอดขายหลักของหลายๆ แบรนด์ไปแล้วโดยเฉพาะแบรนด์ออนไลน์ที่ Live ขายของบนเพจเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง และ Live ติดต่อกันแทบทุกวัน ซึ่งการมาของ Live มีข้อดีทั้งกับเจ้าของแบรนด์ในแง่ของการเพิ่มช่องทางการขาย และเหล่าบรรดาผู้ซื้อที่มั่นใจว่าได้รับสินค้าตรงตามต้องการ เพราะเห็นภาพสินค้าทุกมุมก่อนสั่ง

     สำหรับเหตุผลที่ทำให้ Live กลายเป็นช่องทางฮิต อาจารย์ลลิตา สันติวรรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาเว็บและฝ่ายสื่อสารออนไลน์ สายงานสื่อสารแบรนด์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เผยว่า การ Live เป็นเหมือนการกระตุ้นให้ลูกค้าต้องตัดสินใจซื้อสินค้า ณ เวลานั้น ไม่เช่นนั้นจะพลาดสินค้าราคาพิเศษหรือโปรโมชันที่จัดเฉพาะช่วง Live นอกจากนี้ การ Live ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ เพราะ 1.ลูกค้าได้เห็นสินค้าจริงจึงมั่นใจว่าแบรนด์มีสินค้าพร้อมส่ง และรู้ว่าสินค้าที่สั่งมีหน้าตาอย่างไรจึงไม่ต้องนั่งลุ้นเหมือนการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ยุคเก่าที่มีแค่ภาพถ่ายสินค้าให้ดูซึ่งอาจถูกตกแต่งจนเกินจริง อีกทั้งยังได้เห็นสินค้าทุกมุม ซึ่งนำมาประกอบการตัดสินใจซื้อได้ว่า สินค้ามีคุณภาพตามที่ต้องการหรือเปล่า และ 2.ลูกค้าได้เห็นหน้าผู้ขายซึ่งเป็นเหมือนการยืนยันตัวตนว่าผู้ขายมีตัวตนจริง
 
     เทคนิคทำ LIVE ให้ยอดขายล้น
     1. เตรียมให้พร้อมทั้งสินค้าและสคริต์ ถ้าเป็นมือใหม่หัด Live ขอแนะนำให้เตรียมสินค้าที่จะนำมา Live ให้พร้อม และเขียนสคริปต์ถึงสิ่งที่จะพูด ซึ่งการพูดตามสคริปต์จะช่วยให้ไม่พูดหลงประเด็นและไม่พูดวกไปวนมาจนลูกค้าเกิดอาการงงแล้วตัดสินใจปิด Live ไปในที่สุด ในส่วนของเนื้อหาในสคริปต์ให้เขียนรายละเอียดของสิ่งที่จะนำเสนอกับลูกค้า เช่น ถ้าจะแนะนำสินค้าใหม่ก็เขียนรายละเอียดของสินค้านั้นให้ครบถ้วน เลือกใช้คำที่เข้าใจง่าย ฟังแล้วเก็ตทันที ที่สำคัญถ้าอยากให้ Live น่าสนใจมากขึ้นอย่าลืมครีเอตคอนเทนต์ให้มีความแปลกใหม่ด้วย

      2. สัญญาณอินเทอร์เน็ตต้องเสถียร ลูกค้าส่วนใหญ่จะปิด Live ที่ภาพกระตุกและเสียงดีเลย์ เพราะรู้สึกรำคาญ ดังนั้น ก่อนทำการ Live ทุกครั้งต้องเช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะแบรนด์ที่ Live เป็นเวลานานๆ ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการ Live แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง หากนานกว่านี้ลูกค้าจะเริ่มเบื่อ เพราะเนื้อหาใน Live วนกลับมาเรื่องเดิมที่พวกเขารู้แล้ว

     3. ถามมา ตอบไป การที่ลูกค้าถามคำถามแสดงว่าพวกเขามีความสนใจในสินค้า ดังนั้น เมื่อเห็นคำถามของลูกค้าแสดงบนหน้าจอ เจ้าของแบรนด์ต้องรีบตอบคำถามโดยเร็ว ซึ่งวิธีตอบคำถามทำได้โดยพิมพ์คำตอบในช่องคอมเมนต์ หรือตอบเป็นคำพูด และเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความใส่ใจ เจ้าของแบรนด์ต้องพูดชื่อลูกค้าที่ถามคำถามเข้ามาด้วย

     4. Live ด้วยคนดัง การ Live ด้วยคนดังที่มีความเชี่ยวชาญในสินค้าสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ยุคนี้ลูกค้าไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แค่การพูดถึงสินค้าผ่าน Live อาจไม่มีพลังมากพอจะกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ดังนั้น ในการ Live ควรมีการรีวิวการใช้สินค้าจริงร่วมด้วย

     5. โพสต์บอกตลอดว่าวันนี้จะ Live ถ้าอยากให้ลูกค้ามาดู Live เยอะๆ ก็ต้องโพสต์บอกพวกเขาล่วงหน้าว่าจะมีการ Live ในวันที่เท่าไหร่ เวลาอะไร และการ Live ครั้งนี้พิเศษอย่างไร เช่น มีโปรโมชันซื้อ 2 แถม 1 หรือโปรโมชันส่งฟรี ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการ Live เจ้าของแบรนด์ควร Live ช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้ามาหน้าเพจมากที่สุด และ Live ช่วงเวลานั้นตลอด เช่น ถ้าเคย Live ช่วง 14.00 น. วันต่อไปก็ Live ช่วงเวลานี้
 
     Facebook Live VS Instagram Live
            Facebook
               - Live นานแค่ไหนก็ได้ เหมาะสำหรับ Live ขายของยาวๆ และเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์
               - ทุกคนที่อยู่ในเพจ กลุ่ม หรือเฟซบุ๊กส่วนตัวดู Live ได้
               - หลังจาก Live จบลง วิดีโอจะถูกเก็บไว้ในช่องทางที่ Live เช่น เพจ กลุ่ม หรือเฟซบุ๊กส่วนตัว
               - ใช้ได้ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาดใหญ่
            Instagram
               - Live ได้แค่ 1 ชั่วโมง ถ้าจะ Live ขายของ หรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ต้องเล่าให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย
               - เลือกได้ว่าอยากให้ใครดู Live
               - หลังจาก Live จบลง วิดีโอจะถูกเก็บไว้ได้แค่ 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นระบบจะลบอัตโนมัติ
               - เป็นช่องทางที่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี