Digital Marketing

ระวัง 4 กับดักที่ผู้เริ่มยิง Ad Facebook ทำพลาดประจำ




Main Idea
 
  • Hootsuite เผยสถิติล่าสุดว่าผู้ใช้ Facebook จะคลิกโฆษณาเฉลี่ย เดือนละ 11 ครั้ง 
 
  • จึงไม่แปลกที่เฟซบุ๊กจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโปรโมตสินค้าของหลายๆ คน แต่ในขณะเดียวกันก็มักพบข้อผิดพลาดพื้นฐานที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่เริ่มยิงแอดเฟซบุ๊ก  



     ในยุคที่การขายสินค้าหรือบริการออนไลน์กำลังเฟื่องฟูอย่างตอนนี้ ต้องบอกว่าใครที่ยังไม่ได้เริ่มต้นโฆษณาผ่าน Facebook คงต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่าถึงเวลาที่เราจะเรียนรู้และลงมือทำหรือยัง โดยสถิติล่าสุดจาก Hootsuite ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการสื่อโซเชียลมีเดียระดับโลก ได้ระบุว่าผู้ใช้ Facebook จะคลิกโฆษณาเฉลี่ย เดือนละ 11 ครั้ง ประกอบกับ Pew Research Center หน่วยงานวิจัยที่ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองของสหรัฐฯ ได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมว่าปีที่ผ่านมา Facebook ยังคงกอบโกยรายได้จากการโฆษณาเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 40% เลยทีเดียว





     จากข้อมูลเหล่านี้ จะเห็นว่ามีโอกาสมากมายที่ผู้ประกอบการรายใหม่จะสร้างการรับรู้ และสร้างกำไรผ่านช่องทางนี้ได้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องระวังความผิดพลาดสำหรับการตลาดผ่าน Facebook ด้วยเช่นกัน และนี่คือข้อผิดพลาดพื้นฐานที่พบได้บ่อยที่สุด เริ่มจาก

 
     1. ขาดความสร้างสรรค์ และไม่น่าสนใจ

     โฆษณา เป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่าง และสามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้รับชม ต้องให้ความสนใจ จดจำ และประทับใจเรา เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเราจะมีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกกี่ชิ้น แต่ถ้าเราทำให้กลุ่มเป้าหมายหยุดการเลื่อนอ่าน คลิกโฆษณา และมีส่วนร่วมกับเราไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการคอมเมนท์ ไลค์ หรือแชร์ ทุกอย่างก็จะจบลงทันที  

     บางครั้งภาพประกอบเราอาจจะดี แต่เนื้อหาไม่เข้าท่า ทำให้ลูกค้าเลื่อนผ่านโฆษณาของเราไป แต่โชคดีที่ Facebook สร้างเครื่องมืออันทรงพลังที่เรียกว่า Dynamic Creative เอาไว้ โดยเราสามารถใส่ข้อมูลต่างๆ เช่น รูปภาพ 5 รูป ข้อความ 5 แบบ พาดหัวอีก 5 แบบ Call to action (เช่น สมัครสมาชิกเพื่อรับข้อมูล จองสินค้า ซื้อสินค้า ทดลองใช้ฟรี คุยกับเรา ดาวน์โหลด เป็นต้น) อีก 3 แบบ จากนั้นระบบจะประมวลผลให้เรา ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ

     โฆษณาที่ 1           ภาพที่ 1            ข้อความที่ 2           พาดหัวที่ 4        Call to action ที่ 3   

     โฆษณาที่ 2           ภาพที่ 1            ข้อความที่ 3           พาดหัวที่ 5        Call to action ที่ 1

     โฆษณาที่ 3           ภาพที่ 4            ข้อความที่ 1           พาดหัวที่ 2        Call to action ที่ 1
               
     
     โดย Facebook จะทดสอบผลลัพธ์ทั้งหมดที่เราใส่ไป ไขว้กันทั้งหมด เพื่อหาว่าข้อมูลไหนจะออกมาดีที่สุด และเหมาะกับการทำโฆษณามากที่สุด เพราะฉะนั้น ถ้าเราใช้ Dynamic Creative ได้ ปัญหาของคำว่า “ขาดความสร้างสรรค์” หรือ “ลอกเลียนแบบชาวบ้าน” ก็จะหมดลงทันที



 

     2. ไม่รู้วัตถุประสงค์ของตัวเอง

     สิ่งที่เราจะพลาดไม่ได้เลยก็คือ วัตถุประสงค์ของการทำโฆษณา เช่น A) ต้องการสร้างการรับรู้ ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นและรู้จักสินค้าหรือแบรนด์มากขึ้น B) เพิ่มยอดขาย หรือ C) เพิ่ม Engagement เพราะถ้าเราไม่เลือกและกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน Facebook ก็มีโอกาสส่งโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ผิดจากกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งไว้ สุดท้ายเราก็ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งใจ ดังนั้น กำหนดให้ชัดเจนว่าโฆษณาของเราต้องการให้ลูกค้าทำอะไรกันแน่ ระหว่างบอกเล่า สมัครรับข้อมูล ซื้อสินค้า จอง Pre-Order เป็นต้น

 
     3. การพิมพ์ผิด หรือใช้คำพูดไม่เหมาะสม

     ฟังดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ Website Planet ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างเว็บไซต์ ได้ทำการทดลองว่าการพิมพ์ผิดนั้น เป็นอันตรายต่อการโฆษณาขนาดไหน โดยผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ (เพราะอุปสรรคด้านภาษา) ยกอย่างเช่น ในสหรัฐฯ นักการตลาดต้องจ่ายค่าโฆษณาเพิ่มถึง 10% ส่วนในประเทศอังกฤษ ต้องจ่ายเพิ่มถึง 20% และหากไวยากรณ์ผิดพลาด ต้องจ่ายเพิ่มสูงถึง 72% เลยทีเดียว





     นอกเหนือจากการที่ต้องยิงโฆษณาซ้ำเพราะเราพิมพ์ผิด หรือใส่โปรโมชั่นพลาดแล้ว ต้องถามว่าเราคิดอย่างไรกับบริษัทที่ให้มูลผิดพลาด คลาดเคลื่อนจากความจริง ซึ่งบอกได้เลยว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะหยุด และตั้งคำถามว่า “แบรนด์นี้ทำงานยังไง  ทำไมไม่ตรวจสอบอะไรให้ดี แล้วสินค้า หรือการจัดส่งจะโอเคไหมเนี่ย” สรุปสั้นๆ ว่า ปิดการขายไปโดยปริยาย อาจไม่ได้ปิดโอกาสขายกับลูกค้าทุกคน แต่ก็ส่วนหนึ่งเลยทีเดียว
 
 

     4. กลุ่มเป้าหมายกว้างเกินไป

     การไม่จำกัดกลุ่มเป้าหมาย นับเป็นอีกหนึ่งข้อผิดพลาดที่พบกันได้บ่อยมากๆ เพราะกลุ่มเป้าหมายที่กว้างเกินไปจะทำให้เราเสียทั้งเวลาและเงินในการทำโฆษณา ดังนั้น เราต้องพยายามตัดกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ออกไป ยกตัวอย่างเช่น มีปริมาณผู้เข้าถึงโฆษณาจำนวนมหาศาล แต่มีผู้สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อน้อยมากๆ นั่นแสดงว่าเราอาจยังเจาะไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง หรือเราตั้งกลุ่มเป้าหมายเอาไว้กว้างเกินไป
 
     สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราควรทำจริงๆ ก็คงไม่พ้น การสร้างสรรค์งานโฆษณาที่มีคุณภาพ รู้วัตถุประสงค์อย่างชัดเจน พิมพ์โดยไม่ผิดพลาด ใช้คำที่เหมาะสม สื่อสารเข้าใจง่าย และกำหนดกลุ่มอย่างถูกต้อง จากนั้นนำไปทดสอบ และปรับใช้ในการโฆษณาชิ้นต่อๆ ไป เพื่อให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ   
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup