Digital Marketing

10 ข้อควรรู้ ก่อนเอาสินค้าจีนมาขาย สร้างรายได้เข้ากระเป๋าแบบไม่ต้องเจ็บตัว

Text: Neung Cch.





     เพราะการขายของออนไลน์มักเป็นทางเลือกต้นๆ ให้กับผู้ต้องการมีอาชีพมีรายได้ ทุกวันนี้จึงได้เห็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย บ้างก็ผลิตสินค้าขายเอง แต่อีกหลายรายก็ใช้วิธีนำเข้าสินค้าจากแหล่งต่างๆ มาขาย หนึ่งในแหล่งยอดฮิตคงหนีไม่พ้นสินค้าจากจีน

     ซึ่งการนำเข้าสินค้าจากจีนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างๆ กันไป และนี่คือมุมมองจากประสบการณ์ตรงของ วัชระ ทองสุข เจ้าของ บริษัท บีฟอร์มี จำกัด ที่จำหน่ายสินค้ามากกว่า 100 SKU เคยนำสินค้าจากจีนมาจำหน่ายมากกว่า 500 ตัว มาแแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ให้ฟังว่าการนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายต้องทำอย่างไรบ้าง จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว และนี่คือ 10 ข้อควรรู้ ก่อนนำเข้าสินค้าจีนมาขาย 





     1. มาไวไปไว 

     
จีนเปรียบเสมือนเป็นโรงงานของโลก ทำให้มีสินค้ามากมายและการนำเข้าสินค้าจีนทำได้ง่าย แต่สิ่งที่ต้องระวังคือใครๆ ก็ทำได้ จึงไม่มีกำแพงมากั้นคู่แข่ง ช่วงเริ่มต้นคุณอาจจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ แต่เมื่อสินค้าคุณเริ่มขายดีพรุ่งนี้ก็มีคู่แข่งเข้ามากอปปี้สินค้าเหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่ราคาเขาถูกกว่าเท่านี้ ยอดคุณอาจจะหายไปในพริบตาก็ได้


     2. เหนื่อยมากกำไรน้อย

     จากข้อแรก ถ้าคุณลดราคาลงไปสู้ คุณอาจจะขายได้ แต่ต้องแลกด้วยการทำงานที่เหนื่อยมากขึ้น ต้องเพิ่มทั้งสินค้าและทีมงานมากกว่าเดิม รวมทั้งสต๊อกสินค้าก็ต้องเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำไรคุณน้อยลง





    3. Dead Stock

     ในช่วงแรกที่ขายได้ดีทำให้หลายคนคิดว่าต้องสต๊อกสินค้าให้มากขึ้นเพื่อจะได้ขายได้เยอะขึ้น กำไรเยอะขึ้น แต่ความเป็นจริง คือพอคุณสต๊อกเยอะ คุณอาจไม่ได้ขายดีเหมือนตอนแรก สุดท้ายคือการจมสต๊อก
.

     4. แบ่งขาย

     แม้ฟังดูหดหู่ แต่ออฟบอกว่าไม่ใช่ไม่มีทางออก สิ่งที่เขาแนะนำคือ ให้พ่อค้าแม่ค้าแบ่งสินค้าขายเป็นล๊อต เช่น ถ้าเคยขายได้วันละ 100 ชิ้น ถ้าคุณเผื่อสำหรับขาย 1 เดือน หมายความว่าคุณจะต้องสต๊อกของ 3,000 ชิ้น (100x30) จงอย่าทำแบบนั้น เพราะความเป็นจริงคือวงจรสินค้าจีน เอาแน่เอานอนไม่ได้ คู่แข่งพร้อมเข้ามาเสียบคุณตลอดเวลา

     "ให้คุณเอาเข้ามาแค่ 1,000-1,500 ชิ้นพอ ขาดทุนกำไร ดีกว่าจมสต๊อก นอนมองของเต็มโกดังไม่สนุกหรอก"





     5. สินค้านางฟ้าไม่มีอยู่จริง

     มีแค่สินค้าที่คู่แข่งเข้ามาแล้ว กับยังไม่เข้า ถ้าคุณเป็นคนนำเทรนด์ คุณจะได้เงิน แต่เมื่อไหร่ที่เป็นคนตาม คุณอาจจะจมสต๊อก เพราะคู่แข่งที่เขาได้ต้นทุนต่ำกว่าคุณ เขาจะตัดราคาจนคุณขายไม่ได้ หรือขายได้ก็ไม่คุ้มที่ต้องเพิ่ม Fix Cost ตามมา


     6. จีนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

     เพราะการทำคอนเทนต์เขายังไม่ดีเท่าคนไทย ที่ควรกลัวคือคนไทยด้วยกัน ทุน 30 บาท ขาย 50 บาท ถ้าอยากขาย คุณต้องเผื่อใจกับเรื่องนี้




     7. ความยากมันไม่ใช่การหาสินค้า การทำคอนเทนต์ หรือการยิงแอด

     แต่มันคือการบริหารสินค้าเข้าออก ให้ถูกเวลา การจัดการระบบหลังบ้าน และการคุมต้นทุนในการนำเข้า เพราะถ้าพลาดเรื่องนี้ เงินทั้งหมดคุณจะไปอยู่กับสต๊อกที่ปล่อยออกไม่ได้


     8. บริหารสินค้าเข้าออกให้ดี

     คุณต้องทำระบบหลังบ้านให้แม่น และคุมต้นทุนในการนำเข้าให้ได้ ถ้าทำได้ คุณก็จะอยู่รอดในวงการนี้ได้






     9. การดูแลลูกค้าหลังการขาย

     ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าถ้าสินค้าคุณไม่ใช่อาหารเสริม จะขายยากมากเพราะลูกค้าต้องการสินค้าแบบฉาบฉวย ชีวิตเขาไม่ได้มีปัญหาถ้าไม่ได้ใช้สินค้าตัวนั้น ต่างกับอาหารเสริมที่เขามีปัญหาจริงๆ การเชียร์ให้ซื้อเพิ่ม หรือขายซ้ำให้เขาทานต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ฉะนั้นการดูแลหลังการขายจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง


     10. แบรนด์จะทำให้มีแต้มต่อ

     ย้อนไป 2-3 ปี ก่อน ออฟมองว่าการมีแบรนด์ร้านไม่ใช่สิ่งจำเป็น ตอนนี้เขาได้พิสูจน์แล้วว่า "คิดผิด" เพราะการมีแบรนด์ร้าน เหมือนมีแต้มต่อ ลูกค้าจำเราได้ อยากซื้อของกับเราต่อ อัพเซลล์ก็ง่ายขึ้นด้วย รวมถึงขายแพงขึ้นกว่าคู่แข่งได้ เพราะขายในนามร้าน มีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่โนเนมไร้ตัวตน การทำแบรนด์ร้านไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ

     "ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไร มันก็มีความยากง่าย ในแบบฉบับที่แตกต่างกัน ขอเพียงตั้งใจ และทำให้เต็มที่ เพราะรวยเร็วมันเป็นไปได้ แต่รวยง่ายๆ มันไม่มีอยู่จริง" ออฟ กล่าวทิ้งท้าย


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup