Digital Marketing

ไลฟ์สด 101 - คู่มือไลฟ์สดสำหรับมือใหม่ให้ยอดขายพุ่ง ด้วยเทคนิค 'Show Your Time On Stage'

     เมื่อการไลฟ์สดกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งผลให้หลายแบรนด์ให้หันมาไลฟ์สดขายสินค้า แต่จะทำอย่างไรให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งที่มากมายในสมรภูมินี้ เรามีเคล็ดลับมาฝากกัน



 

  •      SHOW “LIVE สดไม่ใช่แค่การพูด แต่เป็นการสร้างโชว์”


     การจัดไลฟ์สดมีข้อดีคือ ความ REAL ความสด ที่ทำให้คนดูมีความเชื่อและช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น โดยส่วนใหญ่การไลฟ์สดจะใช้เวลา 30-60 นาที ซึ่งจะต้องมีเทคนิคคือ ทำให้เหมือนการโชว์ เพื่อให้คนดูมีความสนุกและเกิดความรู้สึกร่วมกับแบรนด์ กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น หากการไลฟ์สดของร้านค้าไม่น่าสนใจและไม่ดึงดูด ลูกค้าที่เข้าชมก็ไม่สนใจอยากเลือกซื้อสินค้า เช่น ร้านค้าเพียงแค่พูดอธิบายสินค้าและบอกราคา การไลฟ์สดจะดูน่าเบื่อไม่ชวนให้ซื้อ หรือ การนำเสนอโดยหยิบเสื้อผ้ามาโชว์เพียงอย่างเดียวก็ไม่น่าสนใจ แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์จึงพากันนิยมสวมใส่เสื้อผ้าให้ลูกค้าดูด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอย่างมหาศาล อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ต้องเลือกใช้น้ำเสียงในการพูดที่มีความชัดเจน เพื่อดึงดูดความสนใจ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและสร้างพลังในการนำเสนอ



 

  • YOUR มาจาก “Your STYLE”


     โดยการไลฟ์สดต้องดำเนินไปให้เหมือนโชว์ และแสดงออกในความเป็นสไตล์ของตัวเราเอง ด้วยองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้ 1. การมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน 2. การมีสไตล์การสื่อสาร การพูด การนำเสนอและคำพูดที่ติดปาก และ 3. การแต่งตัว ต้องสร้างเอกลักษณ์ทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย ส่วนสิ่งที่ไม่ควรทำคือ การแสดงโชว์ที่เป็นคนอื่น หรือพยายามเลียนแบบคาแรกเตอร์คนอื่น เพราะการเลือกสไตล์ที่ไม่ใช่ตัวเราจะทำได้ไม่นานและไม่มีเอกลักษณ์น่าจดจำ คนดูจะรู้สึกไม่อินไปกับสิ่งที่นำเสนอเนื่องจากการแสดงออกไม่เป็นธรรมชาติ 



 

  • TIME เวลาคือสิ่งที่สำคัญมากในการไลฟ์สด


     มีตัวแปรสำคัญคือ 1. การเลือกเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสม จึงต้องให้ความสำคัญกับเวลาไลฟ์สด เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้างการจดจำได้ร้านค้าจะมาไลฟ์สดในเวลาใด พร้อมติดตามในเวลาดังกล่าว เพื่อเตรียมเลือกซื้อสินค้าและกด CF ได้ทันเวลา ที่สำคัญเมื่อมีเวลาประจำในการไลฟ์ จะทำให้ลูกค้าเห็นอย่างต่อเนื่อง 2. การเลือกเวลาที่มีประเด็นร้อนน่าสนใจจะช่วยดึงดูดให้คนมาชมมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนต่างระบุว่าช่วงเวลาที่ดีในการไลฟ์สดคือ วันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ทำให้ร้านค้าต่างมาไลฟ์สดในเวลาดังกล่าวจำนวนมาก และเกิดการแย่งกลุ่มลูกค้า ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนและเชื่อมโยงกับประเภทสินค้าด้วย ยกตัวอย่าง หากสินค้ามีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้สูงอายุ ที่มีไลฟ์สไตล์เข้านอนเร็วและตื่นเช้ามาก ก็ไม่ควรไลฟ์สดในเวลาดึกเกินไป 




 

  • ON การไลฟ์สดผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ


     การไลฟ์สดผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆที่มีอยู่หลากหลายทั้ง Facebook, Instagram และ TikTok จึงควรเลือกไลฟ์สดในหลายแพลตฟอร์มเพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มฐานลูกค้า รวมถึงเพิ่มองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะมีการนำเสนอซอฟท์แวร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง สร้างการเรียนรู้และพัฒนาการใช้เครื่องมือดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในการจัดทำไลฟ์สดที่ดีขึ้นให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ สำหรับ SHOPLINE เป็นผู้ช่วยสำคัญสำหรับร้านค้าออนไลน์ในการเพิ่มขาย โดยมีระบบหลังบ้านที่ช่วยทำให้การไลฟ์สดมีความสะดวกยิ่งขึ้นและช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมถึงมีฟังก์ชั่นในการดึงคอมเมนต์ของลูกค้าระหว่างการไลฟ์สดเข้ามาในกล่องข้อความ (อินบอกซ์) ส่งผลให้ร้านค้ามีความสะดวกอย่างมาก เปรียบเสมือนการมีผู้ช่วยในการทำงาน ตลอดจนมีกิจกรรมที่จะเพิ่มความสนุกและความน่าสนใจในระหว่างการไลฟ์สด



 

  • STAGE หน้าจอไลฟ์ คือ เวทีของทุกคน


     ปัจจุบันก้าวสู่ยุคที่สามของการไลฟ์คือ Creative LIVE ที่ต้องใส่ความคิดสร้างสรรค์ไปในเวทีเพื่อนำเสนอแก่ลูกค้า ทำให้เห็นการใช้อุปกรณ์มากมายเพื่อเติมแต่งเวทีให้น่าสนใจ ส่งผลให้การไลฟ์สดไม่น่าเบื่อและมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยร้านค้าออนไลน์ชื่อดังเลือกใช้กระดิ่ง ไฟโรเซ่ ที่เป็นไฟวงเหมือนพระอาทิตย์ตก หรือโหลดแอปพลิเคชันที่มีเสียงชาวด์แทร็ก ทำให้คนดูไม่เบื่อ สร้างความแตกต่างและแปลกตา แต่ไม่ต้องลงทุนมากนัก สามารถเริ่มใช้งานได้สะดวก ทำให้ทุกคนสามารถสร้างยอดขายได้ปังมากขึ้น


ที่มา : ​SHOPLINE




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup