Finanace

รู้หรือไม่! ค่าโฆษณาเฟซบุ๊กสามารถนำมาหักภาษีได้

 

  • พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนไม่รู้ว่า การซื้อโฆษณาเฟซบุ๊กนั้นสามารถนำมาหักภาษีได้ จึงทำให้หลายคนไม่ได้ขอคืนภาษี

 

  • และนี่คือคำแนะนำในการขอคืนภาษีจากการซื้อโฆษณาเฟซบุ๊ก




     พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มักใช้ช่องทางโซเชียล มีเดียในการค้าขาย โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก โดยหลายคนยอมทุ่มเงินซื้อโฆษณาบนเฟซบุ๊กเพื่อหวังเรียกยอดขาย แต่กลับไม่เคยเอาค่าโฆษณานั้นมาหักภาษี เพราะไม่รู้ว่าค่าโฆษณาเฟซบุ๊กสามารถนำมาหักภาษีได้ ด้วยเข้าใจว่าเฟซบุ๊กตั้งอยู่ต่างประเทศ

 

     “แม้เฟซบุ๊กจะตั้งอยู่ต่างประเทศ แต่กฎหมายให้ผู้จ่ายเงินเป็นคนจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มแทนผู้ให้บริการในต่างประเทศนั้น โดยเมื่อจ่ายแล้ว สามารถนำใบเสร็จรับเงินจากสรรพากรนั้นมาขอคืนภาษีซื้อได้  ก็เท่ากับว่าเราไม่ได้จ่ายภาษีนั้น ยกตัวอย่างถ้าเราซื้อโฆษณาในไทย 1 ล้านบาท เราก็ต้องจ่าย 1 ล้านกับ 7 หมื่นบาท เพียงแค่ว่า 7 หมื่นบาทนี้ ถ้าเป็นบริษัทในไทยเขาจะออกเอกสารให้เราเพื่อเอาไปเคลมแวต แต่กับเฟซบุ๊กที่อยู่ต่างประเทศเราต้องออกเอกสารเอง แล้วเราก็เอามาเคลมเอง”


     ทั้งนี้ ขั้นตอนการขอคืนภาษีซื้อจากค่าโฆษณาเฟซบุ๊กนั้นต้องเป็นค่าโฆษณาเพื่อบริษัทเท่านั้น ต้องมีหลักฐานการจ่ายที่ชัดเจนใบเสร็จ แล้วเอาไปใช้ยื่นจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ยื่นแบบ ภ.พ. 36 เพื่อให้ได้ใบเสร็จรับเงินจากทางกรมสรรพากร จากนั้นเอาใบเสร็จนี้ไปทำเรื่องขอคืนภาษีซื้อได้ในเดือนถัดไป


     นอกจากนี้  ราชิต ยังให้คำแนะนำเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจเพิ่มเติมอีกว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อม เป็นภาษีที่บวกกันทอดๆ  ฉะนั้นไม่ใครเสียเปรียบ คนที่จ่ายคือผู้บริโภคขั้นสุดท้าย แต่ที่สำคัญคือคนทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซต้องรู้จักตั้งราคาที่รวมภาษีมูลค่าด้วย


     “บางทีผู้ประกอบการออนไลน์ตั้งราคาไม่เป็น ไม่ได้คิดราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปด้วย ก็จะทำให้ขาดทุนได้ เช่นสมมติซื้อสินค้ามามีต้นทุน 950 บาท แต่ขายสินค้าราคา 1,000 บาทไม่ได้รวมแวต ฉะนั้น เหลือจริงๆ คือ 930 บาทนี่คือขาดทุนแล้ว” ราชิตกล่าวในตอนท้าย

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup