Starting a Business

“ฟองดอง" ตุ๊กตาหน้าเค้ก เรียนสั้นๆ ก็ปั้นธุรกิจได้

 
 



Text : กฤษณา สังข์วงค์ / Photo : Otto



    เมื่อพูดถึง “ฟองดอง (Fondant)” หลายคนคงสงสัยว่าคืออะไร แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คลุกคลีกับการทำเค้กหรือชอบหม่ำคัพเค้กแน่นอนว่าต้องรู้จัก เพราะฟองดองคือน้ำตาลที่นำมาปั้นเป็นรูปต่างๆ วางประดับบนขนมหวาน มีความยืดหยุ่นกว่าน้ำตาลไอซิ่ง และยังคงสภาพเดิมแม้จะปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งต่างจากตุ๊กตาไอซิ่งที่จะเกิดรูอากาศเล็กๆ รอบตัวหุ่น

 


    นุช-อตินุช นาคเสวก เจ็นนี่-เจนณวีร์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ และ พีช-ณัฐญา ขันธิราช เจ้าของร้าน The Baker’s Room ที่นอกจากจะรับทำเค้กและคัพเค้กแล้ว ยังเปิดคอร์สสอนปั้นฟองดองด้วย โดยนุชบอกกับเราว่า ตุ๊กตาฟองดองเริ่มเป็นที่นิยมในไทยเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่ในต่างประเทศนั้นมีมานานแล้ว และสำหรับปีนี้ตุ๊กตาฟองดองยังคงเป็นของตกแต่งเค้กและคัพเค้กที่ลูกค้าชื่นชอบ ดังนั้น กลุ่มคนที่เปิดร้านขายขนมหวานดังกล่าวจึงสนใจเรียนปั้นฟองดองเป็นพิเศษเพราะสามารถเพิ่มราคาให้กับสินค้าได้ โดยคอร์ส Basic Fondant Cupcake เป็นคอร์สที่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการปั้นฟองดองมาก่อน ซึ่งคอร์สเรียนนี้จะแนะนำให้รู้ว่าฟองดองคืออะไร ใช้อุปกรณ์ใดบ้างในการปั้น สอนผสมสีและคลุมฟองดองบนคัพเค้ก สอนทำกาวเพื่อใช้กับฟองดอง การใช้ฟองดองกับพิมพ์ซิลิโคน และเทคนิคการปั้นฟองดองรูปทรงต่างๆ แบบหนึ่งมิติ สองมิติ และสามมิติด้วยมือ โดยใช้ระยะเวลาในการเรียน 1 วัน

 




    คอร์สพื้นฐานแม้จะใช้ระยะเวลาในการเรียนสั้น แต่นุชกล้าการันตีว่าผู้เรียนสามารถเปิดร้านได้เมื่อเรียนจบคอร์ส เพราะการเรียนปั้นฟองดองไม่จำเป็นต้องเรียนแบบไต่ระดับ หากแต่ขึ้นอยู่กับการตกลงกับลูกค้า เช่น หากลูกค้าต้องการเพียงตัวหนังสือหรือใบหน้าตุ๊กตาแบบหนึ่งมิติ การลงเรียนเพียงคอร์สพื้นฐานนั้นเพียงพอแล้ว ทั้งนี้ หากผู้เรียนต้องการเรียนรู้การปั้นฟองดองแบบเจาะลึกก็สามารถลงเรียนในคอร์สอื่นๆ ได้ เช่น คอร์สปั้นตุ๊กตาสามมิติที่เน้นการเก็บรายละเอียดในการต่อแขน ขาของตุ๊กตาให้เรียบเนียนที่สุด 

 




    ปัจจุบันคอร์สปั้นฟองดองมีหลายสถานที่เปิดสอน แต่สำหรับ The Baker’s Room นั้นแตกต่างจากที่อื่นตรงที่เน้นสอนปั้นฟองดองด้วยมือและเน้นปั้นเป็นตุ๊กตา เพราะนุชและเพื่อนเข้าใจดีว่า ในความเป็นจริงลูกค้านิยมสั่งเป็นรูปตัวการ์ตูน รูปคนพิเศษ และรูปตัวเองมากกว่ารูปอื่นๆ อีกทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการปั้นฟองดองมีราคาสูง ฉะนั้นผู้ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจจึงไม่ควรรีบซื้ออุปกรณ์ แต่ให้ลองตลาดด้วยการปั้นฟองดองด้วยมือก่อนเพื่อดูว่าสินค้าขายได้หรือไม่ หากสินค้าได้รับการตอบรับดีและต้องการเพิ่มความแปลกใหม่ให้ชิ้นงานจึงค่อยซื้ออุปกรณ์ทีหลัง


 
 



    อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานที่เรียนมีหลายที่ให้เลือก เจ็นนี่จึงแนะนำว่า ผู้เรียนต้องให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่เรียนโดยเลือกจากผลงานของที่เรียนนั้นๆ เพราะผลงานของผู้สอนเป็นอย่างไร ผลงานผู้เรียนก็ย่อมออกมาไม่ต่างกัน และเมื่อได้ที่เรียนที่ถูกใจแล้ว จงให้ความสำคัญกับแรงบันดาลใจในการสร้างงานด้วย เพราะงานที่แตกต่างย่อมเป็นที่น่าสนใจกว่างานที่เหมือนๆ กับร้านอื่น โดยแรงบันดาลใจในการคิดงานนั้น ให้มองหาจากสิ่งรอบตัว ความชอบส่วนตัว หรือค้นหาจากอินเทอร์เน็ตว่าช่วงนี้อะไรกำลังเป็นที่นิยม และหยิบสิ่งนั้นมาสร้างสรรค์เป็นผลงานในแบบฉบับของตนเอง


 




    ท้ายสุด สำหรับนักปั้นฟองดองมือใหม่ เชื่อว่าคงประหม่าไม่น้อยกับการรับงานปั้นครั้งแรก ซึ่งวิธีง่ายๆ ในการลดความประหม่าคือการสร้างความมั่นใจ โดยก่อนที่จะส่งชิ้นงานให้ลูกค้า เจ็นนี่แนะนำให้มองที่ชิ้นงานแล้วคิดว่า ถ้าตัวเองเป็นลูกค้า เมื่อเห็นชิ้นงานชิ้นนี้จะยอมจ่ายเงินซื้อหรือไม่ และหากเป็นผู้ขาย จะรับได้ไหมหากชิ้นงานออกไปสู่สายตาผู้อื่น ซึ่งหากคำตอบออกมาว่ายอมรับได้ จงส่งชิ้นงานนั้นออกไปได้เลย
 







คอร์สเรียน
Basic Fondant Cupcake Course 
- เรียนเป็นกลุ่ม ค่าเรียน 3,500 บาท/คน
- เรียนเดี่ยว ค่าเรียน 4,000 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Facebook : thebakersroomthailand
Tel. : 08-5510-3636, 08-9155-1164
Line : Thebakersroom 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)