Starting a Business

Wax valley candle co. เทียนหอม Two in One จุดก็ได้ ทาก็ดี

 




     ความน่าอยู่ของบ้านอาจไม่ใช่แค่ว่าอยู่กับใคร หรือออกแบบตกแต่งแบบไหน เพราะบรรยากาศที่ดีก็ช่วยได้เหมือนกัน เทียนหอมเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี ยิ่งถ้าใช้เทียนหอมที่เป็นมิตรกับสุขภาพของผู้อยู่อาศัยด้วยแล้วยิ่งทำให้บ้านน่าอยู่ยิ่งขึ้น

     จากความคิดข้างต้น กอปรกับความว้าวที่เกิดหลังจากได้เห็นเทียนหอมจากไขถั่วเหลืองที่วางขายในตลาด Art Market ที่ประเทศออสเตรเลีย อภิชาติ คชพัฒน์ทรัพย์ จึงเกิดไอเดียในการทำเทียนหอมแฮนด์คราฟต์ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของวัตถุดิบ กลิ่น และแพ็กเกจจิ้ง ภายใต้ชื่อแบรนด์ Wax Valley Candle Co.

     เทียนหอม Wax Valley Candle Co. ผลิตจากไขถั่วเหลืองธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นมิตรกับธรรมชาติและผู้ใช้ เพราะเผาไหม้สะอาดกว่าพาราฟิน ไม่เป็นเขม่าดำ และน้ำตาเทียนไม่ร้อน เนื่องจากมีจุดหลอมละลายค่อนข้างต่ำ นำมาทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นได้ ส่วนไส้เทียนใช้ไส้เทียนแบบถัก เพราะเผาไหม้ได้ดีกว่าไส้เทียนแบบเกลียว และเทียนหอมแต่ละชิ้นติดไส้เทียน 2 เส้นเพื่อเวลาจุดเทียน ผิวหน้าของเทียนจะได้ละลายทั่วทั้งหน้า และทำให้กลิ่นกระจายได้ดี





     ทั้งนี้ ด้วยความที่อยากเปลี่ยนมุมมองว่า เทียนหอมเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ไม่ได้จำกัดแค่ว่าผู้ใช้ต้องเป็นวัยผู้ใหญ่เท่านั้น หนุ่มสาวรุ่นใหม่ก็สามารถซื้อไปใช้ได้ อภิชาติจึงตั้งราคาที่เอื้อมถึงง่าย และดีไซน์แพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัย โดยดีไซน์ออกมา 3 แบบ คือ Travel Tin สำหรับพกพา Portable Tin ช่วยเพิ่มกลิ่นอาย Industrial Container ให้กับบ้าน (สองแบบแรกบรรจุเทียนในกระป๋องอะลูมิเนียม) และ Jar ที่บรรจุเทียนในแก้ว ผู้ใช้จึงได้เพลิดเพลินกับเลเยอร์ของไขเทียนที่ละลาย

     สำหรับเรื่องของกลิ่น เทียนหอมแต่ละกลิ่นมีความชัดเจนในเรื่องของธีมและชื่อเรียก เช่น Bangkok เทียนหอมธีม City กลิ่นลาเวนเดอร์และอบเชยเทศให้ความรู้สึกผ่อนคลายแม้อยู่ในเมืองที่วุ่นวาย Woodland กับธีม Forest กลิ่นของยูคาลิปตัสและไม้จันทน์ชวนให้อยากวิ่งเข้าหาธรรมชาติ และ Siam Disc ธีม Traditional ได้แรงบันดาลใจจากความรู้สึกคิดถึงบ้านเมื่อครั้งที่อภิชาติอาศัยอยู่ต่างประเทศ เทียนจึงมีกลิ่นหอมของมะลิและซิตรัส

     “เทียนหอมเป็นสินค้าที่ต้องดมกลิ่นก่อนซื้อ การขายผ่านช่องทางออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เราใช้ภาพที่สื่อถึงที่มาของเทียนแต่ละกลิ่นมากระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะภาพเหล่านี้ทำให้จินตนาการออกว่า เทียนกลิ่นนั้นๆ ให้บรรยากาศแบบไหน เช่น ถ่ายภาพเทียน Roaster กับเมล็ดกาแฟเพื่อสื่อถึงกลิ่นกาแฟ ไม่เพียงเท่านี้ เราอยากให้ลูกค้ามองว่าเราคือเพื่อนมากกว่าคนที่เข้ามาขายของจึงโพสต์คอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ร่วมด้วย โดยมีทั้งโค้ดคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ ทิปการใช้ชีวิต รวมทั้งเขียนถึงบรรยากาศของร้านกาแฟแต่ละร้านที่เราไป ซึ่งก็เชื่อมโยงกับสินค้าของแบรนด์ที่เกี่ยวกับเรื่องของบรรยากาศ คอนเทนต์มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพราะอยากให้ลูกค้าต่างชาติเข้าถึงคอนเทนต์ของเราด้วย”

     นอกจากนี้ เนื่องจากอภิชาติมองว่า เพลงช่วยสร้างบรรยากาศได้ เขาจึงหยิบเพลงที่เป็นตัวแทนของเทียนแต่ละกลิ่นมารวมเป็นเพลย์ลิสต์แล้วส่งต่อให้กับลูกค้า กิมมิกนี้สร้างความว้าวได้มากทีเดียว เพราะการเปิดเพลงในเพลย์ลิสต์ในระหว่างที่จุดเทียนช่วยให้เข้าถึงบรรยากาศมากยิ่งขึ้น

     “อีกหนึ่งช่องทางการขายที่มองข้ามไม่ได้คือ ออกบู๊ธ เพราะ 1.ทำให้ได้เจอลูกค้า 2.ลูกค้าได้เทสต์กลิ่นของเทียน และ 3.ได้เจอกับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ การออกบู๊ธคือ การเทสต์ตลาด เราไปออกบู๊ธทั้งในงานอีเวนต์ที่มีกลุ่มลูกค้าของแบรนด์และงานที่ไม่มี เพราะอยากศึกษาว่าแต่ละตลาดให้ผลลัพธ์อย่างไร ซึ่งนอกจากได้เห็นยอดขายที่ต่างกันอย่างชัดเจนแล้ว ยังได้เห็นพฤติกรรม ความชอบของลูกค้าของตลาดนั้นๆ ด้วย เช่น The Knack Market แพ็กเกจจิ้งที่เป็นกระป๋องอะลูมิเนียมจะขายดี เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแบ็กแพ็กเกอร์ต่างชาติ ส่วนที่ K-Village แพ็กเกจจิ้งแบบแก้วขายได้มากกว่า เพราะคนแถวนั้นเคยชินกับการใช้เทียนหอมที่บรรจุในแก้ว”

     อย่างไรก็ดี อภิชาติได้เพิ่มความพิเศษให้กับแบรนด์ด้วยการรับ Customize เทียนหอม ลูกค้าสามารถเลือกกลิ่นที่สะท้อนตัวตนของตนเองหรือคนที่ได้รับได้ โดยตอนนี้รับ Customize ขั้นต่ำ 30 ชิ้น และใช้เวลารอประมาณ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ระยะเวลาการรอสินค้าอาจช้าหรือเร็วกว่ากำหนดขึ้นอยู่กับคิวงานในช่วงนั้น

     Facebook : waxvalleycandleco
     Instagram : waxvalleycandleco
     Tel : 06-3782-6515
     Line : imnungkoch


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี