Starting a Business

GETNATURE ดอกไม้ในเรซิ่น เสน่ห์งานคราฟต์ที่ทำเงิน



 
Main Idea
 
  • Getnature เป็นงานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยเป็นเครื่องประดับสร้อย แหวน กำไล ตุ้มหู ที่ทำจากเรซิ่นที่ใส่ดอกไม้น่ารักๆ ลงไปจนกลายเป็นงานคราฟต์ที่มีเสน่ห์
 
  • ด้วยกรรมวิธีที่คิดค้นขึ้นมาเอง ทำให้งานของ Getnature มีความแตกต่าง ดอกไม้คงความเป็นธรรมชาติเหมือนจริงทุกอย่าง แม้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็จะไม่เปลี่ยนสี จึงได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ 




     เมื่อเรซิ่นและดอกไม้มารวมกันเป็นเครื่องประดับ จึงเกิดชิ้นงานที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ ภายใต้แบรนด์ Getnature โดยฝีมือของสองเพื่อนซี้ วิว-ธัญชนก อโปกุล และ แอร์-กิตติภัณ ปานพรหมมาศ     

     เครื่องประดับและของขวัญแฮนด์เมดโดยการใช้ดอกไม้และเรซิ่นมาผสมผสานทำเป็นชิ้นงานแบรนด์ Getnature นี้ มีจุดเริ่มต้นจากการที่ธัญชนกสร้างสรรค์งานเรซิ่นกากเพชรขายในเทศกาลศิลปะของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งผลจากการที่ขายดีในกลุ่มเด็กๆ จุดประกายให้เธอคิดต่อยอดงานเรซิ่นโดยการใส่ดอกไม้เข้าไปแทนกากเพชร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและขยายตลาดไปสู่กลุ่มคนวัยทำงาน

     “เราอยากสร้างจุดเด่นของงานให้แตกต่างจากคนอื่น เลยพัฒนาใส่ดอกไม้ลงไป มีการขอคำปรึกษาจากคุณป้าที่ชอบทำงานคราฟต์ในเรื่องการอบดอกไม้แห้ง แล้วก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยเพื่อหาสูตรที่สมบูรณ์จริงๆ ใช้เวลานานปีกว่าๆ ถึงจะได้สิ่งที่ต้องการ วิธีการของเราอาจจะไม่เหมือนคนอื่น บางคนแค่เอาดอกไม้มาตากแห้งเฉยๆ ซึ่งถ้าเอาความชื้นออกไม่หมด ดอกไม้จะไหม้ กลายเป็นสีน้ำตาล และถ้านานไปดอกไม้ก็จะเปลี่ยนสี แต่ของเราจะอบดูดความชื้นออกจนหมด ดอกไม้จึงเหมือนจริงทุกอย่างคงความเป็นธรรมชาติของดอกไม้เอาไว้”





     ดังนั้น ดอกไม้ที่เลือกมาใส่เรซิ่นจึงต้องเป็นดอกไม้ที่สามารถเอาความชื้นออกได้ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยธัญชนกจะลงมือออกแบบเองทั้งหมด และวางคอนเซปต์เอาไว้ว่าเป็นโปรดักต์ไลฟ์สไตล์ที่สามารถใส่ได้กับทุกชุดและทุกวัน ซึ่งจากการที่นำดอกไม้มาเป็นวัสดุในการทำชิ้นงานจึงทำให้งานของ Getnature มีความน่าสนใจ และได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ แต่ด้วยความที่ธัญชนกยังเรียนอยู่ในช่วง 2 ปีแรก Getnature จึงเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่หลังจากเรียนจบจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังก็เริ่มทำชิ้นงานออกมาขายแบบจริงจัง และเริ่มทำการตลาดสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านทางช่องทางออนไลน์และการออกอีเวนต์ ทำให้ Getnature เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วมากขึ้น

     “เราจะไปออกอีเวนต์ให้ได้เดือนละ 2 งาน โดยเลือกงานที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายคือชาวต่างชาติ เพราะชาวต่างชาติจะชอบงานของเรามาก แล้วตอนนี้ก็มีวางขายที่ ICON SAIM โซนงานคราฟต์ของไทย ถ้าเป็นงานออนไลน์จะโปรโมตผ่าน Influencer ซึ่ง Influencer ที่เราเลือกอาจจะไม่ใช่คนสวยหรือดังมาก แต่เราดูว่าสไตล์เขาเหมาะกับสินค้าของเราจริงๆ แล้วตัวเขาใส่เครื่องประดับประเภทนี้จริง นอกจากนี้ เนื่องจากโปรดักต์ของ Getnature เป็นดอกไม้ เราจึงมี Story ความหมายของดอกไม้มาดึงดูดความสนใจด้วย เช่น ดอกเดซี่จะขายดีหมายถึงความสดใส ตัวแทนของความรักที่ซื่อสัตย์ เราก็จะบอกเล่าความหมายเหล่านี้กับโปรดักต์ไปด้วย”

     สำหรับเครื่องประดับ Getnature จะมีหลากหลาย เช่น สร้อย แหวน กำไล ตุ้มหู และประเภทของขวัญและของตกแต่ง เช่น กรอบรูปอักษรดอกไม้แห้ง อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนึ่งของคนทำงานคราฟต์คือ กำลังการผลิตที่จำกัดและต้นทุนที่สูง ทำให้ไม่สามารถรับออร์เดอร์จำนวนมากๆ ได้ ซึ่งแบรนด์ Getnature ก็เช่นเดียวกัน โดยกิตติภัณบอกว่า แม้จะ แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มจำนวนคน และใช้เครื่องจักรเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาช่วยบ้างเพื่อทำให้งานเร็วขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังติดปัญหาต้นทุนที่สูงเช่นเดิม





     “บางทีออกงานชาวต่างชาติเขาจะสั่งหลักพันชิ้นแต่เราทำไม่ได้ ที่ผ่านมาเรามีปฏิเสธไปหลายเจ้าเพราะเราไม่พร้อม ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจเยอะเหมือนกัน อีกอย่างวิธีการผลิตเรายังเป็นงานคราฟต์อยู่ ต้นทุนจึงยังสูงเป็นอุปสรรคต่อการจะต่อรองราคา ส่วนใหญ่จะสั่งแค่ 200 ชิ้น ถ้ามากกว่านี้ก็มีปัญหา เขาอยากจะสั่งเป็นพันชิ้นเพราะคิดว่าราคาจะถูกลง แต่จริงๆ ความเป็นงานคราฟต์จะร้อยชิ้นหรือพันชิ้นมันก็ราคาเดียวกัน”

     ดังนั้น กิตติภัณจึงแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจว่า หากมองเห็นวี่แววว่าธุรกิจจะเติบโตขึ้น ควรเตรียมความพร้อมในแง่การผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการให้ดี เพราะวันหนึ่งถ้าโตแล้วจัดการไม่ดีแทนที่จะได้เดินหน้ากลับต้องถอยมาตั้งหลักก็เป็นได้ 
 
     FB : GETNATURE
     IG : GETNATURE.HOUSE
     Line : @GETNATURE
     TEL : 09-8196-9466
   
     
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup