Text : Kritsana S. Photo : กิจจา อภิชนรจเรข
 

 

Main Idea
 

• นอกจะเป็นดาราเจ้าบทบาทแล้ว เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ ยังสวมหมวกนักธุรกิจ จากการเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางที่รู้จักกันในชื่อ Cho

 

• แม้จะต้องทำงานหลายๆ อย่าง แต่กระนั้นทุกๆ งานล้วนประสบความสำเร็จ นั่นก็เพราะเธอมีแรงบันดาลใจมาจาก 5 สิ่งต่อไปนี้

 



     เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ เธอไม่เพียงแต่เป็นดาราเจ้าบทบาทเท่านั้น เพราะทุกวันนี้ยังสวมหมวกอีก 2 ใบ อย่างการเป็นคุณแม่ และเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางที่รู้จักกันในชื่อ Cho เปิดตัวด้วยแป้งตลับที่มีเฉดสีเหมาะกับผิวของคนไทยและคนเอเชีย ก่อนจะแตกไลน์สินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมในเวลาต่อมา ได้แก่ ลิปสติก ดินสอเขียนคิ้ว มาร์ก รีมูฟเวอร์ ซีซีครีม และอายไลเนอร์ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เธอพาธุรกิจเครื่องสำอางของตนเองเดินทางมาไกลถึง 5 ปีมาจาก 5 แรงบันดาลใจเหล่านี้
 



     
     1. คุณแม่

         “เราอยู่กับคุณแม่มาตลอด ท่านให้อิสระในการตัดสินใจ ไม่เคยบังคับว่าต้องทำอะไร และเป็นกำลังใจให้เสมอ ไม่ว่าเราจะเจอกับเรื่องอะไรก็ตาม เช่น ตอนเด็กๆ เราเป็นเด็กที่มีผลการเรียนดี ถ้าเทอมไหนไม่ได้รับเกียรติบัตรเรียนดีก็จะร้องไห้เสียใจ ซึ่งท่านจะไม่ดุแต่จะให้กำลังใจว่าไม่เป็นไร เทอมหน้าเอาใหม่ เรามีความคิดอยากให้ท่านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สบาย จึงตั้งใจทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงานในวงการบันเทิง หรือแม้แต่การทำธุรกิจของตนเอง ตอนนี้เมื่อเรามีครอบครัวก็ได้นำรูปแบบการเลี้ยงดูลูกของท่านมาใช้ นั่นคือเลี้ยงให้เป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ตั้งกฎกติกา ให้อิสระในการตัดสินใจ และพร้อมสนับสนุนทุกการตัดสินใจของลูก”
 




     2. Passion

         “Passion คือ ความหลงใหล ความคลั่งไคล้ในสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งเรามีความหลงใหลในเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องซื้อเครื่องสำอางติดมือกลับมา การแต่งหน้าแล้วรีวิวสร้างความสุขและความสนุกให้กับเรา เมื่อมองว่าเป็นความสุขมากกว่ามองว่าเป็นการทำงาน จึงทำให้สามารถทำสิ่งนี้ได้ทุกวันอย่างไม่มีเบื่อ เราเป็นคนชอบแต่งหน้าจึงมีเครื่องสำอางเยอะมาก เครื่องสำอางที่หลงใหลที่สุดคือ แป้ง แต่ไม่มีอันไหนเลยที่ใช้หมด เพราะเฉดสีไม่เข้ากับผิว ทำให้เกิดความคิดอยากทำแบรนด์เครื่องสำอางของตนเอง ซึ่งแบรนด์เครื่องสำอางที่ทำชื่อ Cho สินค้าที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักคือ แป้งตลับที่มีเฉดสีเข้ากับผิวของสาวไทย เนื้อบางเบา ติดทน”


     3. บริษัท

         “นอกจากครอบครัว บริษัทคือสิ่งที่อยู่กับเรา ในช่วงเริ่มต้นทำทุกอย่างเองทั้งหมด เช่น แพ็กของเอง ตอบไลน์เอง หลังจากนั้นก็เริ่มมีพนักงาน ตัวแทนจำหน่าย และลูกค้า บริษัทของเราเป็นเหมือนแหล่งหล่อเลี้ยงครอบครัวของทีมงานทุกคน ถ้าเราจะไม่ทำต่อก็ไม่ได้ เพราะทีมงานมีลูก มีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู แม้บริษัทของเราจะไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาคนอื่น แต่ยิ่งใหญ่ในสายตาของเรา ถ้าถามถึงความสำเร็จถือว่าประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ นั่นคือมีการเติบโตขึ้นทุกปี ยอดขายไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา จำนวนตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นตามเป้าที่วางไว้ และคุณภาพสินค้าคงที่ สำหรับกลยุทธ์ซื้อใจทีมงานคือ มองว่าทุกคนเป็นสมาชิกในครอบครัว และมีความสำคัญไม่ว่าจะทำตำแหน่งงานใดก็ตาม เพราะทุกคนช่วยให้บริษัทเติบโตมาได้จนวันนี้”
 




     4. เวลา

         เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับเรามาก เราพยายามจัดสรรเวลาเพื่อให้มีเวลามาดูแลครอบครัว ดูแลลูก ดูแลตนเอง เช่น ไปออกกำลังกาย ไปท่องเที่ยว และดูแลธุรกิจส่วนตัว การทำงานหนักเพื่อเก็บเงินอย่างเดียวจนไม่มีเวลาให้ตนเองและคนรอบข้างไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ทุกวันนี้โชคดีที่สามารถจัดสรรเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราจะสามารถจัดสรรเวลาได้ หากรู้ว่าจุดพอใจคืออะไร อะไรที่ทำแล้วมีความสุข อะไรที่ทำแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป”
 




     5. ความสุข

         “ถ้าขอพรได้ 1 ข้อ จะขอให้เป็นคนที่มีความสุข ถึงเงินทองจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่สุดท้ายแม้หามาได้มากแค่ไหนก็ตาม หากไม่มีความสุข ชีวิตก็เหมือนไม่ถูกเติมเต็ม เราจะไม่พาตนเองไปอยู่ในที่ที่ไม่มีความสุข แม้ภายนอกจะดูเหมือนเป็นคนชอบเข้าสังคม แต่จริงๆ แล้วชอบอยู่บ้านมากกว่า ชอบอยู่กับคนที่ทำให้มีความสุข อยู่กับคนที่มีความจริงใจ เราเชื่อว่าเมื่อทุกคนโตขึ้นจะสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง ซึ่งตอนนี้เราหาเจอแล้วว่า ความสุขที่แท้จริงคือ การได้อยู่กับครอบครัว อยู่กับคนที่รัก ได้ทำอาหารที่ชอบ และได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งที่หลงใหล”
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup