Starting a Business

เปิดประตูร้าน NIN & CO. ด้วยกุญแจ 5 ดอก จาก ญาณินท์ วีระไวทยะ

Text : Kritsana  S.
 


Main Idea
 
  • Nin & Co. ร้านเค้กและเบเกอรีที่โด่งดังบนโลกออนไลน์  โดยมีเค้กวันเกิดและเค้กวันแต่งงานหน้าตาสวยที่รับทำแบบ Made to Order เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน
 
  • ผู้อยู่เบื้องหลัง Nin & Co. คือ ญาณินท์ วีระไวทยะ เซเลบสาว ซึ่ง Nin & Co.จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเธอไม่พบกับกุญแจดอกสำคัญทั้ง 5 ดอกนี้ 
 



     ญาณินท์ วีระไวทยะ เซเลบสาวที่หลายคนเห็นบนหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบันเธอเปิดร้านเค้กและเบเกอรีบนโลกออนไลน์ในชื่อ Nin & Co.โดยมีเค้กวันเกิดและเค้กวันแต่งงานหน้าตาสวยที่รับทำแบบ Made to Order เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน และอีกไม่นานเกินรอ Nin & Co.จะมีหน้าร้านให้สายหวานได้ไปนั่งลิ้มลองความอร่อยของขนมและเครื่องดื่มที่เธอตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อทุกคน ซึ่ง Nin & Co.จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเธอไม่พบกับกุญแจดอกสำคัญทั้ง 5 ดอกนี้



 

     1. คุณพ่อ

        “คุณพ่อเป็นไอดอลในเรื่องการขยันทำงานแล้วประสบความสำเร็จ เมื่อเราเห็นท่านทำได้ เราก็อยากทำได้เหมือนกัน เคยมีคนบอกว่า คนเราจะประสบความสำเร็จได้ต้องเก่งและเฮง แต่เราเชื่อว่า แค่ความเก่งและความเฮงไม่เพียงพอที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีความขยันและความเพียรพยายาม นอกจากขยันทำงานแล้ว ต้องหาเวลาส่วนตัวให้ตัวเองด้วย โดยก่อนหน้านี้ถ้าเราทำเค้กไม่เสร็จก็จะไม่หยุดทำ แต่ทุกวันนี้ต้องพยายามลิมิตว่าแต่ละวันจะรับกี่ออร์เดอร์ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีเวลาส่วนตัว ไม่มีเวลาพัก เมื่อร่างกายไม่ได้พักก็ไม่มีความพร้อมในการทำขนม ทำให้ขนมออกมาไม่ดีอย่างที่ตั้งใจ”

 



     2. มีความรักให้กับสิ่งที่ทำ


         “เราเป็นคนชอบกินขนมจึงเลือกเปิดร้านขนม บางคนบอกว่า ถ้าจะทำขนมต้องทำตามสูตรเป๊ะๆ แต่เรามองว่า ต่อให้เป็นขนมสูตรเดียวกัน แต่ถ้าให้คนสองคนมาทำ รสสัมผัสของขนมก็ออกมาไม่เหมือนกัน เราเชื่อว่าถ้าทำขนมด้วยความรัก ขนมจะออกมาดี คนที่กินจะสัมผัสได้ถึงความใส่ใจและความรักที่เราใส่ลงไป เหตุผลที่เลือกเปิดร้านขนม เพราะมองว่าร้านอาหารมีเยอะแล้ว แต่ร้านขนมที่อร่อยจริงๆ มีไม่กี่ร้าน เราอยากทำให้ร้านขนมของเราเป็นที่จดจำและเข้าไปอยู่ในลิสต์รายชื่อร้านขนมที่ต้องมา ถ้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ”
 




     3. เชฟ Pierre Hermé

         “เราชื่นชมเชฟ Pierre Hermé และอยากประสบความสำเร็จแบบเขา เขาเป็นเจ้าของร้าน Pierre Hermé Paris มีสาขาในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และไทย ขนมที่ร้านของเขารสชาติมาตรฐาน ซึ่งไม่ว่าจะไปกินที่สาขาไหน รสชาติขนมก็อร่อยคงที่ ไม่ผิดเพี้ยน เราเองก็อยากทำให้รสชาติขนมของเราได้มาตรฐานเหมือนเขา และเชื่อว่าเจ้าของร้านขนมทุกคนก็อยากทำให้ได้แบบนี้เหมือนกัน”
 




     4. ร้านขนม

         “หนึ่งจุดหมายที่ต้องไปเยือนเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ คือ ร้านขนม ซึ่งที่ญี่ปุ่นและฝรั่งเศสมีร้านขนมเยอะมากและแต่ละร้านก็เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เราอยากให้เมืองไทยมีร้านขนมเยอะๆ และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวต้องมาเช็กอินเมื่อมาเที่ยวเมืองไทย เราชอบไปร้านขนมที่ไม่ได้มีดีแค่ตกแต่งสวย แต่ขนมอร่อยและบรรยากาศดี ซึ่งเราก็ตั้งใจให้ร้าน Nin & Co.ออกมาเป็นแบบร้านขนมที่ชอบ เราวางคอนเซปต์ของร้านว่าเป็นร้านเล็กๆ ที่เน้นเสิร์ฟเค้กและชา เจาะกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่ชอบกินขนม”
 




     5. ร้าน Milk Bar

         “Milk Bar เป็นร้านขนมในนิวยอร์กที่ตอนนี้มีหลายสาขาในอเมริกา เจ้าของร้านคือ Christina Tosi ก่อนหน้าที่จะเปิดร้านขนม เธอทำงานในร้านราเมนชื่อ Momofuku แล้วเจ้าของร้านก็ให้โอกาสเธอเปิดร้านขนม ความสามารถเด่นของเธอคือ Mix & Match วัตถุดิบต่างๆ เข้าด้วยกันจนได้ขนมหน้าตาแปลกแต่รสชาติอร่อย และเมื่อมีโอกาสได้ดูสารคดีเกี่ยวกับร้านขนมร้านนี้ นอกจากได้รู้จักร้าน Milk Bar มากขึ้นแล้ว ยังทำให้ได้ข้อคิดว่า แม้ไม่ได้เรียนทำขนมมาโดยตรง แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จในการทำขนมได้ หากลงมือทำด้วยความตั้งใจจริงและมีความรักในสิ่งที่ทำ ไม่มีคำว่า สายเกินไป สำหรับการลงมือทำตามความฝัน และต้องกล้าลองทำสิ่งใหม่ อย่ากลัวที่จะเจอกับความผิดพลาด เพราะแม้แต่อาหารยังมีฟิวชั่น ขนมก็ต้องฟิวชั่นได้เหมือนกัน ถ้าขนมที่เกิดจากการ Mix & Match วัตถุดิบออกมาไม่อร่อยก็แค่ลอง Mix & Match วัตถุดิบใหม่ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะได้ขนมรสชาติอร่อย”  

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup