Starting a Business

​ธรรมดาได้ที่ไหน! สำรับใหญ่ ขนมไทยสไตล์อาร์ต ของ Art Director

Text : Marisa S.
 



Main Idea
 
  • หากสินค้าใดมี Story ก็ย่อมสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เหมือนดังเช่นสำรับใหญ่ของ ธรณ์เทพ รัตนากร Art Director ที่ผันมาทำขนมไทย
 
  • สำรับใหญ่ขนมไทยของเขาจึงมีความแปลกใหม่ ทั้งการดัดแปลง การใส่ Story เล่าเรื่องราวที่ต่างไปจากขนมไทยทั่วไป ซึ่งหากได้รับประทานจะพบว่าไม่ใช่แค่ความอิ่มหรือรสชาติที่อร่อยเท่านั้น หากยังได้รู้ที่มาของขนมไทยนั้นๆ ด้วย
 



     เคยได้ยินไหม “ขนมมูเตลู" เพียงแค่ชื่อก็น่าจะงงงวยกันไปแล้ว แต่ถ้าได้ฟังเรื่องราวต้องบอกว่าทั้งสนุกสนานและได้ความรู้ แล้วถ้าได้ชิมขนมนี้รับรองว่าอร่อยแน่ๆ


     ขนมมูเตลูนี้เป็นชื่อชุดขนมจากสำรับใหญ่ ที่ขยายความเอาไว้ว่าประกอบด้วยขนม 3 ชนิดที่มีเรื่องราว นั่นคือ “ขนมหินฝนทอง”ที่หารับประทานยากในปัจจุบัน รูปร่างมีอัตลักษณ์คล้ายหินฝนทอง ว่ากันว่าถูกใช้เป็นเสบียงในการเดินทางและออกรบ ขณะที่ “สัมปันนีแดง” ซึ่งความหมายว่าอันเป็นที่รักก็ได้ถูกดัดแปลงเป็นตัวแทนของสองสิ่งที่เรามักใช้ไหว้น้ำแดง และรัมนั่นเอง ส่วน “ขนมทองเอกพวงผกา” คำว่าเอกหมายความถึงการเป็นที่หนึ่ง ใช้ประกอบพิธีมงคล สำคัญต่างๆ  ทองเอกมาในรูปของพวงดอกไม้ เรามักใช้ดอกไม้ในการไหว้หรือขอพร ให้สิ่งที่เราหวังเป็นไปดังใจหมาย


     ขนมเหล่านี้จะมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับการมูเตลูและความเชื่อต่างๆ เข้ามาผสมด้วยกัน บางชนิดหากินยาก บางชนิดเห็นกันง่ายแต่ถูกแปลงบางอย่างให้เข้ากับยุคสมัยที่หารับประทานได้ที่สำรับใหญ่ของ ใหญ่ - ธรณ์เทพ รัตนากร ที่เดียวเท่านั้น



 

ความไม่ธรรมดาของจุดเริ่มต้น เมื่อ Art Director มาทำขนมไทย


     ก่อนหน้าที่จะมาเปิดธุรกิจขนมไทยสำรับใหญ่ ใหญ่-ธรณ์เทพ รัตนากร ทำงานเป็น Art Director งานอีเว้นต์อยู่แล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์ในเวลานี้ที่เจอกับพิษโควิด-19 จึงทำให้งานที่ทำอยู่ทุกวันต้องหยุดพักไปก่อน จึงเกิดความเครียดขึ้นระหว่างเขาและลูกทีม ซึ่งยามเมื่อยามเกิดความเครียดเขาเลือกที่จะลุกไปทำขนม ทำไปทำมามีคนมากมายที่อยากจะลองชิมขนมที่เขาทำ แต่ด้วยความเป็น Art Director ขนมไทยของเขาจึงสร้างความแปลกใหม่ ทั้งการดัดแปลง การใส่ Story เล่าเรื่องราวที่ต่างไปจากขนมไทยทั่วไป





    “โดยพื้นฐานแล้วผมไม่ได้ไปเรียนทำอาหารที่ไหน แต่ด้วยความที่เคยไปเรียนอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานก็ทำให้ผมอยากกินในสิ่งที่ประเทศนั้นไม่มี ตอนนั้นผมอยากกินข้าวแช่มากก็เลยออกไปซื้อของที่เอเชียมาร์เก็ตมาทำ เรียนรู้จากการดูพวก YouTube พอทำได้แล้วมันก็ออกมาดีเลย กลายเป็นว่าเพื่อนต่างชาติๆ เขาชอบข้าวแช่ที่ผมทำกันมาก จากนั้นผมก็เริ่มทำไปเรื่อยๆ หลายๆ อย่าง โดยที่ให้คนนั้นคนนี้ชิมบ้าง เพื่อปรับสูตรไปเรื่อยๆ”


     นอกจากนี้แล้วธรณ์เทพเองเรียนจบสถาปัตยกรรมไทย จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ทำให้เขาซึมซับในความเป็นไทย จึงชอบและเลือกที่จะหยิบขนมไทยมาสร้างสรรค์ภายใต้แบรนด์สำรับใหญ่ โดยในขนมเซ็ทหนึ่งจะมีการ์ดอยู่ข้างๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่มาของขนมไทยชนิดนั้น การได้รับประทานขนมไทยของสำรับใหญ่จึงไม่ใช่แค่ความอิ่มหรือรสชาติที่อร่อยเท่านั้น หากยังได้รู้ที่มาของขนมไทยนั้นๆ ด้วย
 




     “จุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัดสินใจเปิดเพจสำรับใหญ่เพื่อรับออเดอร์จริงๆ ก็มาจากความชอบส่วนตัว เมื่อคิดว่าขนมนี้อร่อยแต่มันหายากเลยทำขึ้นมา การทำอาหารบางอย่างก็เหมือนกับการแก้ปัญหาให้กับบางคน ถ้าเราแก้ปัญหาตรงนั้นได้คนจะซื้อของเราเลย เอาตรงนี้มาเป็นประเด็นหลักของตัวร้าน นอกจากเรื่องขนมที่หายากแล้ว ผมเองก็สนุกกับการคิดอะไรใหม่ๆ อีกด้วย บางทีก็เกิดจากการถามในทีมผมเองด้วยว่าอยากกินอะไรแล้วก็ทำให้พวกเขา ทำไปเรื่อยๆ จนได้ผลตอบรับที่ดี”



 

ความไม่ธรรมดาเพราะไม่ใช่แค่ขนมไทยแต่คือ Story


     เกสรลำเจียก สีพระอาทิตย์ตก หรือ Pantone Sunset เป็นขนมอีกชนิดที่ธรณ์เทพปรับสีของขนมโบราณเพื่อให้มีสีและภาพลักษณ์ต่างออกไปจากภาพเก่า ส่วนขนมกลีบลำดวนก็เป็นรูปของตราประจำยาม และแต้มทองลงไปที่จุดกลางของขนม ทำให้แตกต่างจากกลีบลำดวนทั่วไป หรือพลิกกะเกลือ ผงโรยข้าวแบบไทยๆ ที่เก็บไว้ทานได้นานๆ  ซึ่งอ้างอิงจากละครโทรทัศน์เรื่องปลายจวัก มีส่วนประกอบหลักคือมะพร้าวขูดขาว ที่นำไปคั่วจนมีสีเหลืองทองอมน้ำตาล จากนั้นนำมาตำพอให้น้ำมันหอมออกมา แล้วจึงพลิกไปมาสลับกับเกลือ และน้ำตาลมะพร้าว เอาสากบดน้ำตาลขยี้ลง พลิกมะพร้าวกลับไปกลับมากับเกลือ จึงได้ชื่อว่า พลิกกะเกลือ  





     เหล่านี้คือตัวอย่างของขนมไทยจากสำรับใหญ่ ที่ธรณ์เทพปรุงด้วยความพิถีพิถันใส่ใจและแต่งขึ้นให้น่ารับประทาน ซึ่งนอกจากจะมีขนมไทยที่ผ่านกระบวนการคิด ปรับสูตร ทดลอง ให้ชวนชิมแล้ว ขนมไทยสำรับใหญ่ยังใส่ความ Creative เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า ที่หากเข้าไปในเพจสำรับใหญ่ ก็จะเห็น Story ที่ถูกนำมาร้อยเรียงเล่าอย่างน่าสนใจ ซึ่งแน่นอนว่าหากสินค้าใดมี Story ก็ย่อมสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้


     “เชื่อว่าทุกคนมีความสุขกับการทำขนม แล้วคนซื้อจะรู้สึกสนุกกับการที่ได้รับรู้เรื่องราวใหม่ๆ ที่เราใส่ลงไป มากกว่าคนที่ซื้อไปแล้วอิ่มอย่างเดียว”





     ด้วยเหตุนี้  จึงไม่แปลกใจเลยที่เมื่อเปิดเพจสำรับใหญ่เปิดขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม จึงมีออเดอร์เข้ามาเพรียบ จนกระทั่งต้องเปิดรับพรีออเดอร์และเปิดเป็นรอบๆ เพื่อควบคุมคุณภาพ ซึ่งด้วยความเป็นนักสร้างสรรค์อีกเช่นกันการเปิดรับออเดอร์จึงต้องเป็นว่า วันอังคารพิสดารและวันศุกร์สมใจ โดยธรณ์เทพเล่าว่า ในวันอังคารจะทำแต่เมนูใหม่ๆ ที่มีคนคอยขอเข้ามาอยู่เรื่อยๆ และด้วยความที่อยากทำอะไรใหม่ๆ อยู่แล้วก็เลยเปิดให้วันอังคารเป็นวันพิสดารขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองได้พัฒนาปรับปรุงไปเรื่อยๆ ส่วนวันศุกร์สมใจจะเป็นพวกเมนูปกติ สั่งได้ตามปกติ





     ความสำเร็จของสำรับใหญ่ที่มาไกลเกินคาด จึงทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ธรณ์เทพตั้งใจที่จะสร้างให้เป็นจริงเป็นจัง โดยการรังสรรค์เมนูใหม่ๆ และการเปิดสอน Workshop ทำขนมไทยเพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้คนได้มารู้จักขนมไทย  ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เป็นศูนย์กลางที่ได้ทั้งความรู้และยังเติมเต็มให้ตัวเองอิ่มท้องไปด้วย แต่กระนั้นเขาก็ยังอยากหวนกลับไปทำงาน  Art Director ที่รักหลังสถานการณ์โควิด-9 คลี่คลายและมีงานอีเว้นต์งานละครกลับมา ซึ่งเราจะได้เห็นผลงานของเขาอีกอย่างแน่นอน   
 
 
facebook : สำรับใหญ่
ig : sumrub.yai
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup