Starting a Business

กินข้าวคนเดียวแล้วไง! กระแส “ฮอนบับ” จับกลุ่มลูกค้ามาเดี่ยว โอกาสใหม่ที่ต้องจับตา

 

Text : Vim Viva 

     วันก่อนเพิ่งดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Let’s Eat” ซีซั่น 1 จบไป เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนางเอกผู้เป็นม่ายสาววัย 30 ต้นๆ อาศัยลำพังในห้องเช่า และมีความสุขกับการแสวงหาของกินอร่อยๆ ซึ่งปัญหาอย่างหนึ่งของการเป็นคนโสดแล้วต้องการออกไปทานอาหารคนเดียวคือบางร้านเสิร์ฟอาหารจานใหญ่จึงเหมาะสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มมากกว่า แต่ต่อให้หลายร้านยินดีต้อนรับลูกค้ามาเดี่ยว ความไม่สะดวกใจอย่างยิ่งคือพ่ายแพ้ต่อการจับจ้องจากสายตาลูกค้าโต๊ะ

     ซีรีส์เรื่องนี้ออนแอร์เมื่อปี 2013 ซึ่งในสังคมเกาหลีใต้ช่วงเวลานั้น การกินข้าว ดูหนัง หรือทำกิจกรรมคนเดียวมักถูกสงสัยจากคนรอบข้างว่าคนๆ นั้นอาจกำลังมีปัญหาในการเข้าสังคม หรือไม่มีใครคบ ร้ายแรงสุดสามารถมองได้ว่าเป็นคนนอกรีต จึงเป็นความลำบากใจอย่างยิ่งของคนไม่มีเพื่อนร่วมกิน ในซีรีส์ Let’s Eat บางครั้งนางเอกต้องลงเอยด้วยการเข้าร้านสะดวกซื้อสอยคิมบับ (ข้าวห่อสาหร่าย) กลับไปกินที่ห้องแบบเหงาๆ     



     

     กระทั่งเพื่อนบ้าน หนุ่มโสดข้างห้องที่เป็นยอดนักชิมชี้ทางสว่างแนะนำนางเอกให้ใช้บริการร้านราเมงสำหรับลูกค้าที่มาคนเดียว หากใครรู้จัก “อิจิรัน” หรือร้านราเมงข้อสอบ ซึ่งเป็นร้านดังจากญี่ปุ่นคงนึกภาพออก ทางร้านจะกั้นโต๊ะเป็นคอกๆ สำหรับ 1 ที่ ต่อให้มาหลายคน ทุกคนก็ต้องแยกเข้าคอกใครคอกมัน ทำให้ลูกค้ามีความเป็นส่วนตัวสุดๆ เพราะไม่ต้องมองเห็นใคร และไม่มีใครมามองเห็นเวลากิน

     หลายปีที่ผ่านมา loner culture กำลังมาแรงในเกาหลีเนื่องจากจำนวนหนุ่มหน้าสาวโสด และผู้คนเลือกอยู่ลำพังมีมากขึ้น ทำให้เกิดคำเรียกคนกลุ่มนี้ว่า “honbap” มาจากคำว่า honja (โดดเดี่ยว ลำพัง) + bap (ที่แปลว่า “ข้าว” แต่ในที่นี้รวมถึงอาหารทั่วไป) ฮอนบับจึงหมายถึง solo diner หรือการกินข้าวคนเดียว

     กระแสฮอนบับเริ่มเบ่งบานมาตั้งแต่ปี 2017 ว่ากันว่าเป็นเพราะคนรุ่นใหม่ต้องการต่อต้านค่านิยมและความคาดหวังเดิมๆ เช่น ต้องทำงานมีรายได้มั่นคง ต้องแต่งงานมีครอบครัว พวกเขาจึงเลือกที่จะปลดปล่อยตัวเองจากแรงกดดันในสังคมด้วยการใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการโดยไม่แคร์ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร





     แม้ร้านอาหารจะออกแบบมาให้เป็น social space การจัดโต๊ะจึงประกอบด้วยที่นั่งอย่างน้อย 2 ที่ขึ้นไป แต่ความแรงของ solo diner ก็ทำให้ช่วงหลังๆ ร้านอาหารหลายแห่งโดยเฉพาะในกรุงโซลเมืองหลวงอ้าแขนรับฮอนบับด้วยการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อการนั่งกินคนเดียว อย่างร้านชาบู หรือร้านปิ้งย่างที่ลูกค้าควรมาเป็นกลุ่ม แต่ก็มีบางร้านเลือกรับลูกค้าที่มาคนเดียว เช่น ร้านปิ้งย่าง Dokgojin ที่อยู่ชานกรุงโซล ร้านนี้กั้นโต๊ะสำหรับ 1 ที่แต่มีอุปกรณ์ครบทั้งเตาปิ้งย่าง และทีวีส่วนตัว ส่วนเมนูก็ออกแบบมาพอร์ชั่นกระจุ๋มกระจิ๋มสำหรับ 1 คน    

     ปรากฏการณ์ solo diner ไม่ได้เกิดเฉพาะที่เกาหลี แต่ยังแพร่ในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น ร้านบางแห่ง เช่น “มูมิน เฮ้าส์ คาเฟ่” สาขาโตเกียว สกายทรีทาวน์ เป็นคาเฟ่สำหรับคนรักมูมิน ตัวละครจากนิทานฟินแลนด์ หากลูกค้ามาใช้บริการคนเดียว ทางร้านจะจัดตุ๊กตามูมินตัวใหญ่มานั่งเป็นเพื่อนไม่ให้ลูกค้ารู้สึกเก้อเขิน





     หรือที่สหรัฐฯ ร้านอาหารต่างๆ เริ่มสังเกตเห็นว่าจำนวน solo diner เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนของลูกค้าที่มาทานคนเดียวบันทึกไว้ที่ 35 เปอร์เซนต์ ขณะที่ลูกค้ามาเป็นคู่มีอัตราส่วน 27 เปอร์เซนต์ ร้านอาหารต่างๆ ยินดีที่จะเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าที่มาเดี่ยว เช่น ร้าน Acadia ซึ่งเป็นร้าน 2 ดาวมิชลินในชิคาโก หรือร้านมังสวิรัติ Dirty Candy ของเชฟอแมนด้า โคเฮนที่จัดกิจกรรม “Solo Diner’s Week” ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ทุกปีเพื่อต้อนรับลูกค้าไร้คู่

     ส่วนที่ไทย เห็นหลายร้านทั้งร้านชาบู และร้านปิ้งย่างก็ยินดีต้อนรับลูกค้า solo diner กันแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ได้ เพื่อให้เข้ากับวิถี new normal จึงมีการจัดโต๊ะให้นั่งเดี่ยว ร้านอาหารทุกประเภทควรเปิดรับลูกค้ากลุ่มนี้ หากเป็นไปได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศหรือแบ่งพื้นที่ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจเมื่อใช้บริการ อาทิ การจัดโต๊ะเป็นเคาน์เตอร์ยาวที่ลูกค้ามาคนเดียวแต่ละคนสามารถนั่งเคียงไหล่กันอย่างไม่เคอะเขิน (นึกถึงโต๊ะไม้รูปตัวยูในซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Midnight Diner ที่ลูกค้าสามารถร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกันได้แม้ไม่รู้จักกัน)

     อย่างไรแล้ว สำหรับธุรกิจร้านอาหารคงปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกค้าฉายเดี่ยวเป็นกลุ่มที่ไม่ควรมองข้าม จำนวนมากมีแนวคิด YOLO-You Only Live Once และมีกำลังซื้อสูงจึงใช้ชีวิตปรนเปรอตัวเองเต็มที่ ความรื่นรมย์จากอาหารก็เป็นเป้าหมายหนึ่งของลูกค้ากลุ่มนี้ หน้าที่ของร้านอาหารจึงเป็นการลบตราบาปการกินดื่มโดยลำพังให้กับพวกเขา หากทำได้ เชื่อเถอะ พวกเขาจะกลายเป็นลูกค้าประจำที่กลับมาใช้บริการซ้ำแล้วซ้ำอีก
    
 
ที่มา 
www.koreaexpose.com/honbap-eating-alone-new-norm-korea/
www.forbes.com/sites/andriacheng/2020/03/03/one-more-sign-restaurants-need-to-pamper-solo-diners-more-than-ever/?sh=34ea4ceb4555
https://food52.com/blog/23699-honbap-solo-dining-table-for-one
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup