Starting a Business

Bunny Shoot Film ร้านขายฟิล์มของคนเก๋! ที่ออกอะไรมาก็ขายดี มีแต่คนรอ CF

 

Text : Yosita T. 

ในยุคที่ใครๆ ต่างก็หันมาขายของออนไลน์กันนี้ จะมีสักกี่คนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ 

     แต่สำหรับไข่มุก-นพพรรณ พรวนสุข เจ้าของร้าน Bunny Shoot Film ที่เริ่มต้นจากธุรกิจขายฟิล์ม ก่อนที่จะต่อยอดมาทำสายคล้องกล้อง เธอมีเทคนิคการขายที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบและติดตามแบรนด์ของเธอชนิดที่ว่าจะออกสินค้าหรือคอลเลกชันไหนมาก็ขายหมดเกลี้ยง

 

 

     ไข่มุกเล่าว่าเธอชอบเล่นกล้องฟิล์มอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นมืออาชีพในการถ่ายภาพ เพียงแค่ชอบ Mood&Tone ของภาพที่ถ่ายจากฟิล์ม และแค่อยากถ่ายภาพตามสไตล์ของตัวเอง เธอจึงได้ไอเดียจากความชอบของตัวเองมาเป็นเทคนิคในการนำเสนอสินค้า โดยการทำคอนเทนต์นำเสนอสินค้าแบบที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงกล้องฟิล์มได้ง่ายขึ้น

     “ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ชอบเรียนรู้วิธีการถ่ายภาพให้ยุ่งยากอยู่แล้ว เราอยากถ่ายออกมาเป็นสไตล์ของเราก็เลยคิดว่าคนนิสัยแบบเราก็น่าจะค่อนข้างเยอะ ที่ไม่ได้เป็น Professional แต่ก็อยากเล่นกล้องฟิล์ม เราเลยพยายามถ่ายภาพโปรโมตเป็นแบบสไตล์เรา เป็นรีวิวที่เราใช้เอง เหมือนว่าเราใช้ตัวเองเป็นลูกค้าคนหนึ่ง แล้วเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร เลยทำให้ฟิล์มของที่ร้านเริ่มขายดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะลูกค้าจะบอกกันปากต่อปาก”

 

 

     นอกจากจะมีฟิล์มแล้ว ด้วยความที่เธอเรียนจบด้านการออกแบบมา ไข่มุกจึงต่อยอดจากการขายฟิล์มมาสู่การเป็นผู้ออกแบบและผลิตสายคล้องกล้อง แล้วทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ที่เล่าเรื่องราวในชีวิตของเธอผ่านสายคล้องกล้องในแต่คอลเลกชัน ซึ่งปรากฏว่าได้ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะการขายออนไลน์ในยุคนี้ต้องสร้างความแตกต่างและดึงจุดเด่นของแบรนด์ตัวเองออกมาให้ได้ มากไปกว่านั้นด้วยดีไซน์ที่แปลกใหม่เป็นเอกลักษณ์ของ Bunny Shoot Film ที่หาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีก

     “คือเราคิดอะไรก็อยากนำเสนอความคิดเราออกมาด้วย แล้วการเลือกที่จะเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านสายคล้องกล้องแต่ละแบบเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จับต้องง่ายที่สุดถ้าเราไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่เราออกแบบหรือสิ่งที่ทำอยู่จะไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย แต่พอเป็นเรื่องใกล้ตัวหรือเป็นเรื่องที่เราสัมผัสกับตัวเองมันจะเล่าได้ง่ายกว่าแล้วคนที่อ่านก็จะสัมผัสได้ โดยวิธีการเล่าก็จะเล่าเป็นสไตล์ของเรา แต่จะต้องรู้ว่าคนที่ใช้แต่ละแพลตฟอร์มเขาชอบคอนเทนต์แบบไหน ถ้าเล่าในอินสตาแกรมก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เล่าในทวิตเตอร์ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นเรื่องเดียวกันแต่จะมีวิธีการนำเสนอคอนเทนต์ที่ต่างกัน”

 

 

     อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งเทคนิคการตลาดที่ทำให้สินค้าของ Bunny Shoot Film ขายหมดทุกคอลเลกชัน นั่นคือการทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้ามีความพิเศษ ใช้แล้วแตกต่างจากแบรนด์อื่นและไม่ตกเทรนด์

     “วิธีการคืออยากให้ลูกค้าเอาไปใช้แล้วก็รู้สึกว่าใช้ได้นานแล้วก็ไม่ได้ใช้ซ้ำกับใครเยอะ เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้ผลิตสายคล้องกล้องออกมาเยอะ ปีหนึ่งจะมีเพียง 2-3 คอลเลกชัน คอลเลกชันละประมาณ 1 พันชิ้นเท่านั้น สินค้าขายหมดแล้วหมดเลยไม่มีการรีสต็อก เพราะสินค้าเราจะเป็นลิมิเต็ด เวลาคนที่ซื้อไปก็จะได้มีระยะเวลาใช้ไปนานๆ ไม่ใช่ว่าซื้อไปไม่นานก็ตกรุ่นแล้ว อันนี้เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าไม่ลังเลที่จะตัดสินใจซื้อเมื่อเราออกคอลเลกชันใหม่ เพราะถ้าซื้อคอลเลกชันนี้แล้วก็อีกนานกว่าจะมีคอลเลกชันใหม่ออกมา”

 

 

      นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้ Bunny Shoot Film มีลูกค้าประจำมากมายและยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ การทำการตลาดผ่านคอนเทนต์และรู้ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ไข่มุกเล่าว่าเธออ่านคอมเมนต์ของลูกค้าทุกคนด้วยตัวเองซึ่งเพราะการใส่ใจความเห็นและความต้องการของลูกค้านี่เองที่ทำให้เธอพาธุรกิจไปได้ไกลอย่างในวันนี้

     “เราจะเข้าใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด ต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรแล้วเราก็นำเสนอให้ตรงจุด ถ้ามองในแง่ของการตลาดเราจะฟัง Feedback ตลอด ถึงจะมีแอดมินคอยตอบลูกค้าแต่เราก็จะมาอ่านคอมเมนต์เองตลอด แล้วก็จะเก็บคำแนะนำนั้นมาเพื่อมาออกแบบและทำการตลาดในครั้งต่อไป เพื่อที่จะพยายามรักษาลูกค้าเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะไปแนะนำต่อปากต่อปากให้เราเอง”

 

IG : bunny.shoot.film

Line : @bunnysher

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup