Starting a Business

จับของเก่ามาออกแบบใหม่ เมนูเปาเบอร์เกอร์ฟิวชั่นก็กลายเป็นธุรกิจสุดปังได้ไม่ยาก  

 

Text : Vim Viva

     ซาลาเปาเบอร์เกอร์หรือเบอร์เกอร์ที่ทำจากแป้งซาลาเปาอาจจะไม่ใช่เมนูอาหารแปลกใหม่เพราะหลายประเทศเอเชียก็มีขายมานานแล้วแม้ว่าจะไม่แพร่หลายนักเหมือนซาลาเป้าไส้ต่างๆ แบบดั้งเดิมก็ตาม แต่การดัดแปลงซาลาเปาเบอร์เกอร์ให้เป็นอาหารฟิวชั่นสไตล์ East meets West หรือตะวันออกผสมผสานตะวันตกนั้น สามารถกลายเป็นจุดขายได้หากธุรกิจนั้นดำเนินถูกที่และถูกเวลา ดังเช่นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด “เปอติ๊ด เปา” (Petite Bao) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา

     เปอติ๊ด เปาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ให้บริการเพราะผลพวงจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ระบาดจนทำให้เจย์ ยิป และเจสสิก้า ฮุย สองสามีภรรยาที่เคยทำงานเป็นเชฟในร้านอาหารหรู อย่างลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง และร้านเอปูเลในฮ่องกงต้องพลิกผันเปลี่ยนสถานะจากลูกจ้างเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารเอง

     ครอบครัวของเจย์ได้อพยพไปยังแคนาดาเมื่อ 20 กว่าปีก่อนตอนที่เจย์ยังเด็ก แม้จะเติบโตในแวนคูเวอร์ แต่หลังเรียนจบไฮสกูล เขาก็เลือกจะกลับมาเรียนต่อปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง แต่เรียนไม่จบจึงไปช่วยงานที่ร้านอาหารเกาหลีซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ร้านอาหารดังกล่าวเปิดบริการในใกล้ย่านจิมซาจุ่ยในฮ่องกง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้สัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหาร

     “ผมชอบกิน อาหารทำให้ผมมีความสุข” เจย์เล่าถึงความชอบในอาหารที่มากขนาดทำให้เขาตัดสินใจไปเรียนทำอาหารที่สถาบันเลอ กอร์ดอง เบลอที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยมีเจสสิก้า ภรรยาซึ่งที่เพิ่งแต่งงานกันและรักในอาหารเช่นกันตามไปเรียนทำขนมอบด้วย เมื่อเรียนจบจากเลอ กอร์ดอง เบลอ ทั้งคู่ก็เดินทางกลับฮ่องกงและทำงานในฐานะเชฟที่ร้านอาหารหรู

 

 

     จนกระทั่งครอบครัวเจย์ที่แคนาดาชักชวนให้ย้ายมาตั้งรกรากที่แวนคูเวอร์ เจย์และเจสสิซ้าจึงโยกย้ายถิ่นฐานตามคำชักชวน พวกเขาเดินทางไปถึงแวนคูเวอร์ในต้นปี 25631 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคระบาดจากโควิดกำลังเริ่มต้นพอดี การหางานทำในช่วงนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะร้านอาหารส่วนใหญ่ปิดบริการ แต่โชคดีที่เจย์ได้งานในตำแหน่งซูเชฟหรือผู้ช่วยเชฟที่เชนร้านอาหารชื่อดังของแคนาดา ทำอยู่เกือบ 2 ปีจากที่ไม่เคยมีความคิดจะทำธุรกิจ เจย์และเจสสิก้าก็ตัดสินใจจะเปิดร้านอาหารของตัวเอง

     เจย์เล่าว่าความคิดของเขาคืออยากนำวัตถุดิบท้องถิ่นที่คุณภาพดีมาทำอาหารเพื่อบริการลูกค้า เป็นร้านอาหารประเภท Fast Casual ที่ผสมผสานระหว่าง Fast food และ Casual dining เป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการอาหารที่มีคุณภาพดี ขณะเดียวกันก็ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการบริการควบคู่กันด้วย เดือนธค. 2565 ร้านเปอติ๊ด เปาจึงถือกำเนิดขึ้นในย่านคิตซิลาโน

     คิดซิลาโนเคยเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมฮิปปี้ของแวนคูเวอร์ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ก่อนจะกลายมาเป็นที่พักพิงของคนทำงานในเมืองวัยหนุ่มสาวในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของแวนคูเวอร์สำหรับการช้อปปิ้งและเป็นแหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติมากมาย เปอติ๊ด เปาจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้บริการอาหารผสานวัฒนธรรม เมนูหลักเป็นเบอร์เกอร์แป้งซาลาเปาไส้ที่แตกต่างจากดั้งเดิม

 

 

     เจย์ยอมรับว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากร้าน Little Bao ในฮ่องกงที่โด่งดังเรื่องซาลาเปาเบอร์เกอร์ แต่พวกเขาต้องปรับสูตรเอง โดยเจสสิก้าใช้เวลา 3 เดือนในการลองสูตรแป้งซาลาเปาจนได้ออกมาเป็นที่พอใจคือเนื้อแป้งไม่นิ่มหรือแน่นจนเกินไป จากนั้นก็ทดลองทำไส้ต่างๆ ออกมาเพื่อเลือกว่าไส้ไหนเข้ากันดีและอร่อยสุด เมื่อแป้งลงตัวและได้เมนูแล้วก็ถึงคราวออกแบบโลโก้เพื่อประทับลงบนตัวเบอร์เกอร์ โดยจ้างกราฟิกดีไซเนอร์ให้ออกแบบให้

     สำหรับเมนูที่ได้รับความนิยมได้แก่ เบิฟบูร์กีญง (สตูว์เนื้อไวน์แดง) ซาลาเปาเบอร์เกอร์ไส้หมูสามชั้นย่างตะไคร้น้ำมันงาน ไส้ไก่ทอดบัตเตอร์มิลค์ ไส้เนื้อวากิวมะเขือเทศอบ รวมถึง ซาลาเปอเบอร์เกอร์ไส้มังสวิรัติที่ทำจาก plant-based ที่รสาติเหมือนเนื้อสัตว์จริง และยังมีอาหารข้างเคียงอื่นอีกหลายเมนู เช่น ไก่เสฉวน มันฝรั่งทอดราดซ้อสต่างๆ คาดว่าในช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึงนี้ เปอติ๊ด เปาจะเพิ่มเมนูให้ลูกค้าเลือกมากขึ้น และมีบริการ “บรันช์” หรืออาหารเช้าควบกลางวันที่มีกลิ่นไอเอเชีย รวมถึงเมนูขนมหวานด้วย  

     ซาลาเปาเบอร์เกอร์ แม้จะไม่ใช่อาหารแปลกใหม่ แต่การรังสรรค์ไส้ให้ต่างออกไปก็ทำให้กลายเป็นเมนูที่น่าสนใจได้ ที่สำคัญทำเลในการเปิดธุรกิจมีส่วนอย่างมาก การเลือกย่านคิตซิลาโนซึ่งเป็นทั้งสถานท่องเที่ยวและแหล่งรวมอาหารนานาชาติจึงทำให้เปอติ๊ด เปากลมกลืนไปกับวัฒนธรรมอินเตอร์ และสร้างความว้าวให้กับลูกค้าที่ไม่เคยลิ้มลองอาหารผสานวัฒนธรรมมาก่อน ด้วยเหตุนี้ ถึงจะเปิดบริการได้ไม่นาน แต่ก็ได้รับการตอบรับดี ลูกค้าบางคนชมชอบโลโก้ของร้านที่เป็นซาลาเปามีแขนและขา ทางร้านจึงทำเป็นหมวกออกมา และในอนาคตจะผลิตเป็นของที่ระลึก เช่น เสื้อยืด และกระเป๋าผ้าที่มีโลโก้ร้านจำหน่ายด้วย

ที่มา : 

https://www.scmp.com/lifestyle/food-drink/article/3214413/how-hong-kong-couple-vancouver-opened-casual-asian-bao-burger-business-after-working-high-end

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup