Starting a Business

เปลี่ยนบ้านเช่าเป็นคาเฟ่ Becozyrest.cafe ร้านกาแฟลับขวัญใจนิสิตบางแสนที่สร้างยอดขายหลักแสนต่อเดือน

 

Text : Yuwadi.s

     ธุรกิจในฝันของใครหลายคนคือการได้เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ที่หน้าบ้าน ภาพของคาเฟ่ที่ดูสวยงามก็มาพร้อมกับการแข่งขันที่รุนแรง หลายคนเปิดได้ไม่นานก็ต้องถอยทัพ แต่มีร้านกาแฟเล็กๆ ร้านหนึ่งในบางแสนที่เปิดด้วยความตั้งใจของคนสองคน เอาความชอบ ความฝันมารวมกันจนกายเป็นร้านที่ชื่อว่า Becozyrest.cafe ร้านลับในซอยที่ไม่ได้มีทำเลดีๆ ติดถนนใหญ่แต่กลับสร้างรายได้หลักแสนต่อเดือนแถมยังมีฐานลูกค้านิสิตที่เหนียวแน่น พวกเขามีเคล็ดลับอะไร ลองไปคุยกับ แอม-นิภาธร ฟักเขียวและเบสท์-จิรกิตติ์  สรวมศิริ

 

 

เมื่อนักดนตรีและมนุษย์เงินเดือนจับมือกันเปิดคาเฟ่

     โดยแอมได้เล่าย้อนกลับไปในช่วงก่อนที่จะเปิดร้านให้ฟังว่าเธอกับเบสท์มีอาชีพหลักของตัวเองทั้งคู่ โดยแอมเป็นพนักงานประจำ ส่วนเบสท์เป็นนักดนตรีในบางแสน แต่ในช่วงโควิดทำให้ได้รับผลกระทบ โดยเริ่มจากตัวเบสท์ที่ถูกยกเลิกงานทั้งจากร้านอาหารและงานอีเวนต์ พวกเขาจึงต้องมองหาความมั่นคงทางอื่นให้กับชีวิต

     “ตัวร้านมันเกิดจากแอมและเบสท์ทำร่วมกัน ปกติเบสท์ก็จะเล่นดนตรีตามร้านอาหาร งานอีเวนต์ ส่วนแอมทำงานประจำ พอโควิดมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เบสท์ก็โดนพักงาน ส่วนแอมเองยังไม่ได้รับผลกระทบแต่เราก็มานั่งคุยกัน ปรึกษากันเพราะเราชอบฟังนักวิเคราะห์ เขาก็บอกว่ามันน่าจะกินเวลาอีกนาน ตอนนั้นมีกระแสด้วยว่าต่อให้เป็นพนักงาน มีเงินเดือนก็อาจจะโดนเลิกจ้างหรือโดนลดเงินเดือน เราก็คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้เราเองก็อาจจะโดนก็ได้ เราก็นั่งคุยกันว่างั้นต้องทำอะไรที่เป็นของเรา ต่อให้มีอะไรเข้ามาเราก็ยังสามารถสร้างรายได้ได้ ก็มาดูว่าจะทำอะไรดี มาหาความชอบ ความถนัด จนมาจบที่กาแฟ เราชอบกินกาแฟกัน ทำขนม เลยเป็นจุดเริ่มว่าเรามาลองทำร้าน เราแค่อยากหาอะไรขายในบ้านที่เราเช่าอยู่เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าที่สุดด้วย”

 

 

     หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะเปิดร้านในบ้านที่ทั้งคู่เช่าอยู่ ก็ถึงขั้นตอนที่ทำให้ตัวร้านเกิดเป็นรูปเป็นร่าง แอมเล่าว่าเธอใช้ความชอบเป็นตัวตั้งต้นทั้งรสชาติและบรรยากาศร้าน จนเวลาผ่านไป 1 ปีที่เปิดร้าน เธอก็ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาทำร้านแบบเต็มตัว

     “เรื่องกาแฟ เราชอบอยู่แล้ว ตอนจะเปิดเราก็ไปเรียนพื้นฐาน พอมีพื้นฐาน รู้ทริค เราก็มาลองเทสในรสชาติที่เราชอบ ทุกเมนู เครื่องดื่ม อาหาร จะเป็นรสชาติที่แอมกับเบสท์ชอบ ถึงได้ตัดสินใจว่าจะเป็นสูตรของร้าน แรกๆ ที่เพิ่งเปิดแอมจะเอาไปขายที่ออฟฟิศบ้าง เบสท์ก็เอาไปขายเพื่อนนักดนตรีบ้าง เขาก็จะมาช่วยอุดหนุน เราก็จะถามฟีดแบ็คลูกค้าตลอดว่ารสชาติเป็นยังไง ตอนนั้นเรายังทำงานประจำอยู่ ประมาณ 1 ปีที่แอมทำคู่กันไป จนจุดที่รู้สึกว่าทำงานประจำ บางวันมันเหนื่อยมากๆ บางเดือนเหนื่อยมากๆ แต่ก็ยังได้เงินเท่านี้ ส่วนทำร้าน ยิ่งเราเหนื่อยมาก เรากลับยิ่งได้มากขึ้น มากขึ้น เบสท์เลยบอกว่าทำไมต้องทำให้คนอื่น ลองมาโฟกัสที่ร้านของเราดูไหม ทำให้เต็มที่ เลยลาออกจากงานประจำ”

 

 

ใช้การตลาดแบบใจแลกใจจับกลุ่มลูกค้านิสิตบางแสน

     หนึ่งในความเสียเปรียบของร้าน Becozyrest.cafe นั่นคือการตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ได้มีคนผ่านไปผ่านมา แต่พวกเขากลับเรียกลูกค้าได้ จนมีกลุ่มลูกค้าประจำไม่ขาดสายนั่นคือเหล่านิสิตย่านบางแสน

     “กลุ่มลูกค้าเราจะเป็นฐานนิสิต ความโชคดีของเราอย่างหนึ่งคือด้วยความที่เบสท์เป็นนักดนตรีบางแสน คนเลยคุ้นหน้าคุ้นตา เด็กที่มาก็จะเอ๊ะ พี่คนนี้เหมือนนักดนตรีที่ร้านนี้เลย ทำให้คนเริ่มรู้จักว่าอ๋อ เขากำลังทำร้านนี้อยู่ เขาก็จะบอกปากต่อปากกัน แรกๆ เป็นแบบนี้ อีกอย่างหนึ่งที่แอมทำคือทุกครั้งที่น้องๆ มีอีเวนต์ขอยืมสถานที่ ขอยืมพื้นที่ถ่ายงานส่งอาจารย์ ขอแปะโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ ขอให้ช่วยโปรโมตกิจกรรม เราจะช่วยเหลือตลอด สิ่งที่เราทำไป น้องเลยเอาไปบอกปากต่อปากกัน กลายเป็นการโปรโมตให้น้องๆ รู้จักร้านแอมมากขึ้น”

     โดยจุดเด่นของร้านจะเป็นการทำร้านให้มีฟีลโฮมมี่ เป็นกันเอง เหมือนมานั่งบ้านเพื่อน จนทำให้ร้าน Becozyrest.cafe กลายเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ของกลุ่มลูกค้าไปโดยปริยาย

     “ทุกอย่างในร้านมันคือตัวตนของแอมและเบสท์ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งร้าน เมนูอาหาร เป็นความชอบของเราทั้งคู่และอยากถ่ายทอดให้ลูกค้าเห็นในความเป็นตัวเรา มันเป็นแบบนี้ มีความโฮมมี่ อยากให้ทุกคนที่มาไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องตัวเล็กในการมาคาเฟ่ เวลาที่ทุกคนมา แม้ไม่รู้จักกันแต่จอยกันได้ ที่นั่งไม่พอ แบ่งกันได้ บรรยากาศไม่เกร็ง เราตั้งใจอยากให้พื้นที่นี้เป็นคอมมูนิตี้ใหม่ๆ”

 

 

     นอกจากนี้การกลยุทธ์ใจแลกใจในการซื้อใจลูกค้าแล้ว ทางแอมยังใช้การโปรโมตบนแพลตฟอร์มต่างๆ บนโลกออนไลน์เพื่อทำให้ร้าน Becozyrest.cafe กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วย โดยเธอเล่าว่าคลิปที่ทำลง TikTok ทำให้ร้านของเธอมีลูกค้ามาต่อคิวยาวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     “เราทำทุกแพลตฟอร์มเลยทั้ง Facebook, Instagram, Lemon8 แล้วก็ TikTok เราจะศึกษาก่อนว่าแพลตฟอร์มมันมีฐานลูกค้าและคอนเทนต์ไม่เหมือนกัน เราจะดึงจุดเด่นจากแต่ละแพลตฟอร์มมาทำคอนเทนต์ TikTok ก็ต้องทำคลิปเรียลๆ Instagram เน้นภาพสวย เอาจริงก่อนหน้านี้ฐานลูกค้าเราเป็นแค่กลุ่มนิสิตกับคนในบางแสนแต่ช่วงหลังจะเป็นนักท่องเที่ยวเยอะขึ้นเพราะคลิป TikTok แมส เช่น คลิปแมสวันนี้ พรุ่งนี้ร้านแตก เรางงมาก คนยืนต่อแถวยาวถึงถนน วันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ร้านเราบูมในกลุ่มนักท่องเที่ยวมากขึ้น จากแค่คลิปที่เราถ่ายบรรยากาศว่านิสิตมานั่งอ่านหนังสือเฉยๆ ตอนนี้รายได้รวมๆ 3 แสนอัพ ดีกว่าตอนทำงานประจำ ถ้าเราไม่ได้ตัดสินใจลาออกวันนั้นก็อาจจะไม่มีร้านที่ถูกพัฒนามาถึงตอนนี้”

     แอมได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำร้านกาแฟให้มีความแตกต่างและจับลูกค้าได้อยู่หมัดในแบบฉบับของเธอเองนั่นคือความมีวินัยในการทำธุรกิจ

     “แอมว่าเป็นเรื่องของวินัย คู่แข่งเยอะก็จริงแต่เราต้องมีวินัยและแข่งกับตัวเอง ตั้งแต่เราทำร้านมา 3 ปี มีร้านผุดขึ้นใหม่เยอะมาก แต่ที่เราอยู่ได้เป็นเพราะความที่เรามีวินัย ทั้งการเปิดปิดร้าน เราตรงเวลา เมนูไหนที่ลูกค้าอยากสั่ง เราต้องมี ทุกอย่างต้องพร้อม ต้องเป็นไปตามที่เราโปรโมต มองว่าตัวเองเป็นลูกค้า เขามาเสียเงินแล้วต้องได้รับอะไร เราอยากได้อะไร ให้มองในมุมที่เราเป็นลูกค้าเอง”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup