Starting a Business

Katekesorn ปั้นธุรกิจให้แม่วัยเกษียณ สร้างฟาร์มดอกไม้กินได้ ยอดขายครึ่งแสนต่อเดือน!

 

Text : Yuwadi.s

     เมื่อลูกสาวเปลี่ยนแพสชันของคุณแม่ให้กลายเป็นงานอดิเรกสร้างรายได้ ทำให้คุณแม่ไม่เหงาแถมยังได้ธุรกิจใหม่ในวัยเกษียณกับแบรนด์ Katekesorn Facefood Accessory ก่อตั้งโดยเอม ธัญญชล บวรกฤตวิรตี ที่มองเห็นโอกาสของดอกไม้ที่ปลูกไว้ในบ้านและหยิบมาทำให้กลายเป็นธุรกิจดอกไม้กินได้ จนปัจจุบันขยายเป็นฟาร์มดอกไม้กินได้ ณ จังหวัดระยองแถมยังสร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน แม้ว่าจะเป็นงานอดิเรกที่สร้างรายได้เล็กๆ แต่กลับสร้างความสุขที่ไม่เล็กให้แก่คุณแม่ได้

เปลี่ยนดอกไม้ในบ้านให้เป็นเงิน

     โดยเอมได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ Katekesorn Facefood Accessory นั่นมาจากการที่เธอเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่นชอบการไปคาเฟ่ ร้านอาหารและติดคอนเทนต์ เธอจึงได้เห็นดอกไม้ไปอยู่ในอาหารต่างๆ ประกอบกับที่บ้านของเธอปลูกดอกไม้เหล่านี้อยู่แล้วโดยคุณแม่ ทำให้เธอมองเห็นโอกาสที่จะเปลี่ยนดอกไม้เหล่านี้ให้กลายเป็นงานอดิเรกสร้างเงินได้

     “ตัวธุรกิจดอกไม้กินได้นี้เป็นธุรกิจเสริม ตัวเรามีงานประจำอยู่แล้ว ทำบริษัทรับเหมาก่อสร้างและทำธุรกิจ Logistic ส่วนตัวดอกไม้กินได้เราทำก่อนเปิดขนส่ง คือคุณแม่ชอบดอกไม้ ชอบปลูก เราก็จะมีดอกไม้ปลูกอยู่แล้วในบ้าน ตัวเราเวลาไปร้านอาหารก็จะชอบติดคอนเทนต์ เห็นดอกไม้พวกนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่คิดว่าเราเอาดอกไม้ที่คุณแม่ปลูกมาขายดีไหม เพิ่มมูลค่าให้ของมันจะเป็นยังไง”

     หลังจากปิ๊งไอเดียว่าจะเริ่มต้นทำธุรกิจจากสิ่งที่คุณแม่รัก เอมก็เริ่มต้นจากใช้ชื่อของคุณแม่ในการสร้างแบรนด์นั่นคือเกศเกสร กลายเป็นแบรนด์ชื่อ Katekesorn Facefood Accessory โดยมีคุณแม่ลงมือปลูก ดูคุณภาพ ส่วนคุณเอมเป็นคนดูแลเรื่องการขายและการทำการตลาด

     “ตอนแรกเราเริ่มจากใจรัก แม่ปลูกดอกไม้ แม่ชอบดอกไม้ ไม่ได้มองว่าจะได้หรือไม่ได้กำไร เราก็เริ่มจากเอาดอกไม้มาแต่งจัดใส่กล่อง เราจัดใส่ให้เต็มกล่อง ใส่ให้ดูเยอะๆ แล้วก็เปิดเพจ ใช้ชื่อคุณแม่เลย เขาชอบดอกไม้ มีความสุขในการจัดอะไรแบบนี้ แล้วก็จะเกษียณแล้ว ได้อยู่กับดอกไม้เยอะก็จะรู้ว่าต้นไหน ปลูกยังไง แม่เป็นคนมือเย็น มันเป็นอะไรที่แม่ชอบ ไม่ได้มองถึงกำไรเยอะ แต่พอทำไปทำมาก็ต่อยอดไปเรื่อยๆ”

     สำหรับลูกค้าในช่วงแรกมาจากการบอกกันปากต่อปาก จากการที่ได้เห็นรูปภาพของดอกไม้กินได้อยู่ในกล่องแบบเยอะจุใจ ทำให้ลูกค้าเริ่มทดลองสั่งและบอกกันปากต่อปาก จนกลายลูกค้าประจำ ทั้งกลุ่มลูกค้าโรงแรมรวมไปถึงลูกค้าร้านอาหารและคาเฟ่

     “มันปากต่อปาก ขยายไปเรื่อยๆ เริ่มจากแค่เราเปิดเพจในเฟซบุ๊กแพลตฟอร์มเดียว ลูกค้าเห็นว่าเราให้เยอะ เริ่มมีกลุ่มโรงแรมติดต่อมา นอกจากโรงแรมก็มีคาเฟ่ ส่วนลูกค้าโฮมเมดก็มีบ้าง แต่จะเน้นลูกค้าที่ทำ Catering ทำอาหารเบรก เราจะเน้นลูกค้าที่ขายส่ง 5-10 กล่องขึ้นไป แล้วก็จะมีลูกค้าประจำเยอะ เพราะของเราหนึ่งกล่องได้เยอะมากๆ”

จากธุรกิจเล็กๆ ขยายสู่ฟาร์มดอกไม้กินได้

     หลังจากที่ทำธุรกิจดอกไม้กินได้มาประมาณ 1 ปี ก็ถึงเวลาที่ต้องขยับขยาย จากการปลูกดอกไม้ในพื้นที่บ้านก็ขยายสู่การทำฟาร์ม เนื่องจากลูกค้าเพิ่มขึ้นและมีความต้องการดอกไม้และใบไม้กินได้ที่มากขึ้น

     “ประมาณ 1 ปี จากที่เราปลูกในบ้านก็เริ่มขยายไปฟาร์ม เป็นจุดที่ลูกค้าโรงแรมเราเยอะขึ้น อย่างในระยอง ก็มีโรงแรม Kantary ทั้งสาขาบ้านฉางและสาขาระยองเลย แล้วก็โรงแรมโนโวเทล โรงแรมคามิโอและอื่นๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีสถาบันสอนทำเบเกอรี่ด้วยค่ะ พอมันเริ่มเยอะ กำลังการผลิตในบ้านเราไม่พอแล้ว มันมีพื้นที่ก็จริง แต่ไม่ได้พื้นที่เยอะ เลยต้องขยายเป็นฟาร์มแล้ว ด้วยความที่ลูกค้าเยอะขึ้นและเราต้องจริงจังกับมันมากขึ้น เราก็เริ่มทำการตลาดมากขึ้น มีเปิดไอจีอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม”

     จุดเด่นของแบรนด์ดอกไม้กินได้ Katekesorn Facefood Accessory ที่มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นนั่นคือการเน้นกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนนั่นคือการขายให้กับลูกค้า B2B เป็นหลัก ทำให้ปริมาณต่อกล่องที่ให้ลูกค้าจะเยอะมาก ที่สำคัญคือปลอดสารพิษและปลอดภัย 100%

     “ของเจ้าอื่นอาจจะเป็นกล่องเล็กๆ แต่งหน้าสวยๆ แต่เราอยากให้ต่าง ขายสินค้าเหมือนกันแต่ต้องแตกต่าง เราเลยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ใช้เยอะ เราก็จัดหนักจัดเต็มและแต่งหน้าสวยเหมือนกัน ลูกค้าเราเลยจะเน้นโวลลุม นอกจากนี้เรายังปลอดสารพิษ ควบคุมทุกอย่างด้วยมือคุณแม่ เขาจะลงดูงานเองเพราะมีความรัก ความเข้าใจดอกไม้มาก่อน ส่วนการบริการ เราจะแนะนำลูกค้าทั้งการเก็บ การใช้งาน มีคู่มือไปให้เป็นภาพอินโฟกราฟิก หรือการแพ็คส่ง ก็ต้องแปะหน้ากล่องบอกขนส่งว่าถ้ารีแพ็ค ขอให้เหมือนเดิมที่สุด เป็นธุรกิจที่ต้องใส่ใจเยอะเหมือนกัน”

     โดยเอมได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจนี้ให้ฟังว่าความใส่ใจต้องมาเป็นอันดับแรก เพราะความยากของธุรกิจนี้คือการขนส่ง ทำให้เธอต้องลองผิดลองถูกเป็นปีกว่าที่จะอยู่ตัว

     “ความใส่ใจสำคัญ ต้องฟังเสียงจากลูกค้าเยอะๆ อันไหนไม่ดีต้องปรับทันที เพราะของที่เราขายมันควบคุมยาก ช่วงแรกเราก็ลองผิดลองถูก มีปัญหาเรื่องการขนส่ง กว่าจะเฟ้นหาขนส่งที่ส่งเย็นได้ รวมถึงการแพ็คด้วย เราจะเน้นการถามฟีดแบคจากลูกค้าว่าเจอปัญหาอะไร เราก็จะแก้ให้เขาทันที เขาก็จะประทับใจที่เราใส่ใจแล้วก็สั่งซ้ำ กลายเป็นลูกค้าประจำ เราต้องเข้าใจลูกค้า บริการเขาให้ดี จะได้อยู่เป็นลูกค้ากับเรานานๆ”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup