ระหว่างการเกิดขึ้นและล้มหายตายจากไปของ Startup ไทย แต่ชื่อของ บัซซี่บีส์ (Buzzebees) ก็ยังยืนหยัดในสนามมาได้กว่า 4 ปี ขึ้นแท่นผู้นำแพลตฟอร์ม CRM Privilege โปรแกรมสิทธิประโยชน์บนโทรศัพท์มือถือ ที่ครองตลาดอยู่เกือบ 98% ของประเทศไทย มีผู้ใช้งานกว่า 33 ล้านคน ขยายไปแล้วใน 7 ประเทศ พร้อมแผนรุก AEC อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเชื่อมโยงระบบเกตเวย์กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า ขณะสิ้นปีนี้ก็หวังพิชิตยอดขายแตะ 1 พันล้านบาท




    
   ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (Buzzebees) บอกผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาว่า บัซซี่บีส์ มีจำนวนผู้ใช้งานแล้วถึง 33 ล้านราย จากที่เคยตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 30 ล้านราย โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้งานสูงถึง 40 ล้านราย ขณะที่รายได้ในไตรมาสแรก มีเข้ามาแล้วกว่า 200 ล้านบาท และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้า 1 พันล้านบาทได้ในสิ้นปี 2560 นี้  โดยผลสำเร็จดังกล่าวมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ย้ายจากการใช้ชีวิตออฟไลน์มาออนไลน์มากขึ้น ตลอดจนการขยายบริการอย่างต่อเนื่องของบัซซี่บีส์ ทำให้สามารถกวาดตลาดได้กว้างมากขึ้น


    โดยกลยุทธ์หลักของบัซซี่บีส์ในปีนี้ คือการนำ Big Data ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ มาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อสนองสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจผู้ใช้งานมากขึ้น และ การรุกให้บริการ Digital Wallet Payment Gateway  หรือระบบเกตเวย์กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์ม e-Wallet บนสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย โดยพันธมิตรเบื้องต้น อาทิ Alipay,True Money และ AirPay ของ Garena  

    

    

   “ครึ่งปีแรกเราทำอะไรไปเยอะมาก ทำงานหนัก เข้าไปหาร้านค้าทุกร้าน บอกเขาว่าเรามีอะไร มองว่าตอนนี้ e-Money กำลังมาแรง ตามกระแส 4.0 และการที่รัฐบาลต้องการให้เราเป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) บวกกับช่วงแรกเราเปิดตัวด้วย Alipay ปรากฏผู้ประกอบการให้ความสนใจเยอะมาก เพราะมีนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเข้ามาเยอะ ทำให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
    

    นอกจากแผนรุก Digital Wallet Payment Gateway ในปีนี้ บัซซี่บีส์ ยังบุกตลาด AEC อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกำลังจะเปิดให้บริการที่มาเลเซีย หลังได้พาร์ทเนอร์เป็นกลุ่มธนาคารและประกันภัยเจ้าใหญ่ในมาเลเซีย ขณะที่อินโดนีเซียก็กำลังศึกษาความเป็นไปได้และเตรียมบุกตลาดเร็วๆ นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขยายตลาดไปแล้วใน 7 ประเทศ คือ พม่า ลาว กัมพูชา แอฟริกา กาน่า แคมมารูน และไอวอรี่โคสต์  
    

    “มองว่าดิจิทัลเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่เราอยู่ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจอาจไม่ได้ดีมากนัก ทำให้คนมองการใช้เงินที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลาดนี้จึงยังขยายด้วยตัวของมันเอง เพียงแต่ว่าช่องว่างที่บัซซี่บีส์จะเข้าไปจัดการนั้น เราจะทำได้มากแค่ไหน ทันต่อความต้องการของตลาดหรือไม่ ตลอดจนจะขยายทีมให้เติบโตได้ทันหรือไม่ เพราะพายมันใหญ่มาก” 
    

    สำหรับกลยุทธ์การทำธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องแบบบัซซี่บีส์ ณัฐธิดา บอกว่า ต้องไม่หยุดนิ่ง และทำให้ดีขึ้นทุกวัน เสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าไปเรื่อยๆ การแข่งขันสูงตลอดเวลา และมีผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นตลอด ฉะนั้นต้องไม่ประมาท และหากทำได้ต้องดึงคู่แข่งมาเป็นพาร์ทเนอร์ให้ได้ กลยุทธ์ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่เป้าหมายต้องไม่เปลี่ยน ขณะที่เป็น Startup ต้องอึด ทุ่มเท และทำงานหนัก จะมาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ไม่ได้ ปิดท้ายกับ พยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องคาดหวังมาก แค่ทำไปเรื่อยๆ ขอแค่อย่าคิดนาน แล้วความสำเร็จก็จะตามมาเอง
เหมือนที่บัซซี่บีส์พิสูจน์ให้เห็นแล้ว!!
    
          
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี