Tech Startup

เซเรซัย เผยขีดความสามารถการแข่งขันฟินเทคไทยอยู่อันดับ 7


 
     เซเรซัส บริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์การบริหารประสบการณ์ลูกค้าด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูล ได้เผยแพร่ รายงานดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันของฟินเทค (FinTech Competitiveness Index Report) ฉบับแรกในเอเชีย ซึ่งได้นำเสนอบลูพริ้นท์การพัฒนาฟินเทคโดยการเปรียบเทียบ 10 ประเทศในเอเชีย

     รายงานสรุปว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันของฟินเทคในประเทศไทยอยู่อันดับที่ 7 จาก 10 ประเทศที่มีการสำรวจ และเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศมาเลเซียในกลุ่มประเทศที่กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มีคำแนะนำให้ประเทศไทยปรับปรุงยุทธศาสตร์การสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (customer experience) เชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างรายได้จากคุณค่าของการรวมบริการด้านการธนาคารดิจิทัลและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ การติดตั้งระบบบริหารจัดการที่ใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลของสภาพแวดล้อมทางการเงินในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้ประเทศไทยก้าวข้ามและเอาชนะคู่แข่งในการแข่งขันได้

     รายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า สิงคโปร์เป็นผู้นำด้านฟินเทคในภูมิภาค โดยให้คะแนนรวมโดยเฉลี่ย 58 คะแนน ตามด้วยฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นคะแนนที่สูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ คือ 70 โดยการทำรายงานดังกล่าวใช้วิธีการดึงข้อมูลจากเว็บเพจส่วนที่ต้องการมาเรียกใช้งาน (web scrapping) และแบบจำลองทางสถิติ (statistical modeling) นอกเหนือจากปัจจัยเอื้อในเรื่องสภาพแวดล้อมในการลงทุนธุรกิจที่มีเสถียรภาพแล้ว สิงคโปร์ยังมีความโดดเด่นในด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและความก้าวหน้าด้านกฎระเบียบ สำหรับในบรรดาประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต ประเทศไทยเป็นรองแค่มาเลเซียเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้คะแนนสูงในด้านความก้าวหน้าของกฎเกณฑ์ อันเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างประเทศ, การริเริ่ม sandbox และการส่งเสริมให้ใช้ API แบบเปิดกว้าง



     มร.จอย ลิน ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เซเรซัส กล่าวว่า “เศรษฐกิจดิจิทัลภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ถือเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาฟินเทคของประเทศไทย” ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการรวมบริการธนาคารดิจิทัลในระยะเริ่มต้นเข้ากับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรโดยใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน

     “ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดสำหรับการริเริ่มฟินเทค ก็คือ ทำให้มูลค่าของข้อมูลเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ตั้งแต่การบันทึกข้อมูลธุรกรรมไปจนถึงพฤติกรรมการบริโภค บริการด้านการธนาคารดิจิทัล ซึ่งมีผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซและผู้ค้าปลีกเข้าร่วม จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำการโอนเงินและการซื้อแบบเรียลไทม์ข้ามพรมแดนที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น” มร.ลิน กล่าวเสริม
 
     เซเรซัส บริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์การบริหารประสบการณ์ลูกค้าด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูล (data science) ระบุว่าจะสามารถพัฒนาขั้นตอนการวิเคราะห์ประวัติการทำธุรกรรมของธนาคาร กิจการของฟินเทค และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการชำระเงิน โดยการวิเคราะห์การใช้เงินของบุคคล การให้คะแนนเครดิตสำหรับผู้บริโภคและการแบ่งส่วนข้อมูลลูกค้า ซึ่งสามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในอนาคตได้ดีขึ้น ก็จะเป็นไปได้ ตรรกะเดียวกันนี้สามารถประยุกต์ใช้กับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ทำให้สามารถสร้างประวัติเครดิตระดับองค์กรสำหรับการขยายธุรกิจได้
 
     นอกเหนือจากการสนับสนุนจากภาครัฐ มีคำแนะนำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยผนวกแนวคิดเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้าเข้าไปไว้ในกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของตน โดยใช้ประโยชน์จากคุณค่าของข้อมูลที่รวบรวมได้จากแพลตฟอร์มธุรกรรมที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอบริการทางการเงินแบบเรียลไทม์ที่สะดวกง่ายดายแก่ลูกค้าบุคคลและสถาบัน

     รายงานดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันของฟินเทคในกลุ่มประเทศเอเชียนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงประจักษ์และวิเคราะห์เปรียบเทียบด้วยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยแบ่งเป็น 8 ปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาฟินเทค ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางการเมือง, เสถียรภาพในการลงทุน, แรงดึงดูดใจทางการเงิน, บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ, ความก้าวหน้าด้านกฎเกณฑ์, โครงสร้างผู้บริโภคและตลาด, สภาพแวดล้อมของการพัฒนานวัตกรรมใหม่ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี