Tech Startup

Crown Digital ผู้ให้บริการสมาร์ทคาเฟ่ กาแฟชงโดยหุ่นยนต์จากสิงคโปร์ ส่งต่อโมเดลสุดไฮเทคสู่ญี่ปุ่น

    ในธุรกิจกาแฟ หุ่นยนต์บาริสต้าอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การใช้งานเชิงพาณิชย์นั้นเรียกได้ว่ายังไม่แพร่หลายสักเท่าไร อย่างไรก็ตาม การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานใกล้ 2 ปีและเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเสี่ยงอาจเป็นปัจจัยเร่งให้ขยายการใช้งานหุ่นยนต์บาริสต้ามากขึ้น 


     ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือสิงคโปร์เตรียมเปิดสมาร์ทคาเฟ่โดยนำหุ่นยนต์บาริสต้ามาใช้เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกด้วยการกระจาย 30 จุดตามสถานีรถไฟใต้ดิน หุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถชงกาแฟได้เร็วถึง 200 แก้วต่อชั่วโมง ลูกค้าสามารถสั่งซื้อโดยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Crown Digital และรับสินค้าตามจุดที่สะดวก




     Crown Digital เป็นบริษัทในเครือคราวน์ เทคโนโลยีส์ สตาร์ทอัพสิงคโปร์ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนรอบพรีซีรีส์เอจากสเตลลาร์ ไลฟ์สไตล์ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลายอย่าง รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก สื่อและโฆษณาดิจิทัล Crown Digital ก่อตั้งเมื่อปี 2018 โดยคีธ ตัน ผู้หลงใหลในธุรกิจกาแฟ เขาจึงได้พัฒนาหุ่นยนต์บาริสต้ารุ่นแรกของสิงคโปร์ที่มีชื่อว่า “ELLA” ขึ้นมา 


     หุ่นยนต์ ELLA เมื่อติดตั้งและให้บริการจะเทียบเท่าร้านกาแฟพื้นที่ขนาดไม่เกิน 25 ตารางเมตรแต่สามารถเสิร์ฟกาแฟได้มากถึง 200 แก้วต่อชั่วโมง ลูกค้าสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด แล้วค่อยแวะไปไปรับตามสถานีที่กำหนดเอง และชำระเงินผ่านแอปโดยไม่ต้องใช้เงินสด จึงลดการสัมผัสเสี่ยงได้เป็นอย่างดี  


     อย่างที่ทราบกัน การระบาดของโควิด-19 กลายเป็นปัจจัยเร่งให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ นำระบบอัตโนมัติมาใช้งานเพื่อลดการแพร่เชื้อ ธุรกิจร้านกาแฟก็เช่นเดียวกัน บาริสคต้าเริ่มถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์ นอกจากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อยังเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะด้านนี้ด้วย 




     หุ่นยนต์บาริสต้า ELLA ไม่เพียงนำมาใช้ในสิงคโปร์ แต่ Crown Digital ผู้เป็นเจ้าของนวัตกรรมนี้ยังประสบความสำเร็จในการนำเสนอเทคโนโลยีนี้แก่ญี่ปุ่นอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ลงนามในสัญญาลงทุนข้ามประเทศกับบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออกหรือ (JRE- East Japan Railway Company) การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนั้นส่งผลให้คราวน์ ดิจิทัลมีมูลค่าเริ่มแรกในตลาดที่ 33 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์หรือราว 800 ล้านบาท 


     ในการลงทุนที่ญี่ปุ่น คราวน์ ดิจิทัลได้ทดสอบการตลาดโดยติดตั้งหุ่นยนต์บาริสค้า ELLA ตามสถานีรถไฟเจอาร์อีสต์ 1,657 แห่งที่รองรับผู้โดยสารวันละเฉลี่ย 17 ล้านคน เป็นการอำนวยความสะดวกในช่วงมหกรรมกีฬาโตเกียว โอลิมปิกส์ 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ซุ้มสมาร์ทคาเฟ่ที่ติดตั้ง ELLA จะให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และหุ่นยนต์บาริสต้าสามารถชงกาแฟได้ชั่วโมงละ 200 แก้ว 


     นอกจากนั้น ELLA เวอร์ชั่นที่ติดตั้งในญี่ปุ่นยังปรับระบบให้เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่นอีกด้วย เช่นการมีระบบที่ลูกค้าสามารถทำรายการเองได้บนหน้าจอ OLED หรือจะทำผ่านแอปพลิเคชั่นก็ได้ พร้อมกับชำระเงินผ่านอี-วอลเล็ต หรือระบบชำระเงินของเครื่องเอง นอกจากนั้น ยังเอื้อให้เจอาร์ อีสต์สามารถส่งโฆษณา หรือแจ้งเตือน และข้อมูลอื่น ๆ ตรงถึงลูกค้าได้ด้วย ที่สำคัญ ในการทำงานเบื้องหลังของสมาร์ทคาเฟ่จะขับเคลื่อนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมโดยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI และบิ๊กดาต้า รวมถึงระบบการเติมสินค้าที่ใช้การวิเคราะห์ คำนวณ และซัพพลายแบบดิจิทัลทำให้ไม่ต้องใช้กำลังคนมากมาย  




     ข้อมูลระบุญี่ปุ่นเป็นตลาดที่บริโภคกาแฟมากเป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นประเทศที่ได้ชื่อในความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์มานาน แต่สาเหตุที่ทำให้คราวน์ ดิจิทัล สตาร์ทจากอัพสิงคโปร์ลอยลำเข้าไปเซ็นสัญญากับบริษัทผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ของญี่ปุ่นก็เนื่องมาจากช่วงที่ คีธ ตัน ซีอีโอคราวน์ ดิจิทัลตระเวณนำเสนอเทคโนโลยีของเขาในญี่ปุ่นนั้น  องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือที่รู้จักในนาม JETRO (Japan External Trade Organisation) ได้แนะนำเขาไปยังเจอาร์ อีสต์ 


     เมื่อมีการนำเสนอแผนและพบว่าหุ่นยนต์บาริสต้า ELLA สามารถตอบโจทย์แผนระยะกลางและระยะยาว 20 ปีของเจอาร์ อีสต์เกี่ยวกับการลงทุนในนวัตกรรมด้านต่าง ๆ รวมถึงการขาดแคลนแรงงานเนื่องจากญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงวัย จึงนำไปสู่การตกลงทางธุรกิจระหว่างกันในที่สุด    


     ย้อนกลับมาที่บริษัทสเตลลาร์ ไลฟ์สไตล์ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคราวน์ ดิจิทัลในสิงคโปร์ โทนี่ เฮง ประธานบริษัทเผยว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการเพิ่มประสบการณ์ดี ๆ ในการใช้ชีวิตแก่ชาวสิงคโปร์โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟใต้ดินวันละราว 1.4 ล้านคน และ ELLA ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการอำนวยในชีวิตประจำวัน ด้านคีธ ตัน แห่งคราวน์ ดิจิทัลเองก็ภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับสเตลลาร์ ไลฟ์สไตล์ในการนำเสนอกาแฟคุณภาพสูงที่แสนสะดวกแก่ลูกค้า และเขาหวังจะสามารถขยายการใช้งานเทคโนโลยี ELLA ไปยังทั่วโลกได้

 
ที่มา
https://vulcanpost.com/757320/robot-barista-ella-to-be-deployed-at-30-mrt-stations/




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup