Text : Methawee 

     หากคุณต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง แผนธุรกิจที่มีโอกาสพลิกชีวิตแต่มีความเสี่ยงสูง กับการเรียนต่อมหาวิทยาลัยให้จบ คุณจะเลือกอะไร? หลังจากถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า Alex Rodrigues ตัดสินใจลองเสี่ยงดรอปเรียนที่มหาวิทยาลัย Waterloo ประเทศแคนาดา เพื่อร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน เดินตามความฝัน จนในที่สุดเขาสามารถพา Startup ด้านรถกระบะไร้คนขับอย่าง Embark เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ

 

 

     ปัจจุบัน Embark มีพนักงาน 200 คน บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ Alex Rodrigues ในวัย 26 ปี ขึ้นแท่น CEO อายุน้อยที่สุดที่นำบริษัทระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ และนี่คือบทเรียน 3 ข้อที่ CEO วัย 26 ปีเรียนรู้จากการปั้น Startup จากศูนย์

 

พาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโต หลังจากตัดสินใจดรอปเรียนจากมหาวิทยาลัย Alex Rodrigues สมัครเข้าโปรแกรมของ Y-Combinator เนื่องจากเป็น Incubator ชื่อดังที่บ่มเพาะ Startup ชั้นนำของโลกอย่าง Airbnb, Reddit และ Dropbox โดย Alex Rodrigues มองว่าการย้ายไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริม Startup ทำให้เขาสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน คอนเน็กชัน และกลุ่มลูกค้าได้ดีกว่า

 

 

กล้าที่จะลองผิดลองถูกและเปลี่ยนแปลง จากไอเดียตั้งต้นที่ Alex Rodrigues และเพื่อนอยากสร้างรถกระบะไร้คนขับ ทาง At Y Combinator แนะนำว่า หากปรับมาทำ Software การขับขี่อัตโนมัติสำหรับรถขนส่งสินค้าจะมีโอกาสทางการตลาดมากกว่า โดยคาดการณ์ว่าตลาดนี้มีมูลค่ากว่า 750 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้การขนส่งสินค้าล่าช้าเนื่องจากขาดแคลนกำลังคน ทำให้ Alex Rodrigues ไม่ยึดติดกับไอเดียเดิม ลองปรับไอเดียจนสามารถระดมทุนได้สำเร็จ

 

เอาชนะคู่แข่งด้วยความเร็ว ในโลกเทคโนโลยียิ่งช้ายิ่งเสียเปรียบ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง TuSimple และ Aurora Innovation กำลังไล่ตามมาติดๆ Alex Rodrigues ปล่อยเทคโนโลยีรถกระบะไร้คนขับที่ก้าวหน้ากว่าเดิม เนื่องจากเทคโนโลยีรถกระบะไร้คนขับอื่นๆ ต้องมีคนคอยควบคุมประกอบด้วย แต่กระบะของ Embark สามารถขนส่งสินค้าได้โดยปราศจากคนขับ ในช่วงแรกรถกระบะของ Embark เริ่มขนส่งสินค้าระหว่าง Houston และ San Antonio เพื่อทดสอบระบบ