Tech Startup

รู้จัก Save da Sea Foods ซีฟู้ดจากพืชที่คิดค้นโดยสตาร์ทอัพแคนาดา แต่หวังโกยรายได้จากอเมริกา

 

Text : Vim Vipa


Main Idea

- เพราะต้องการแก้ pain point ในการหาอาหารทะเล plant-based ในตลาด นักธุรกิจสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น จึงคิดค้นอาหารทะเลจากพืชภายใต้แบรนด์ เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์ ปรุงแต่งไม่มากและใช้วัตถุดิบน้อยสุดเท่าที่เป็นได้ แต่ให้รสชาติใกล้เคียงของแท้

- ผลิตภัณฑ์ขของเซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์ เช่น แซลมอนรมควัน ทูน่าสลัด ทูน่ากระป๋องทำจากขนุนอ่อน มียอดขายเติบโต 3 เท่าในช่วงเวลาเพียงปีเดียว แต่แคนาดายังเป็นตลาดขนาดเล็ก เป้าหมายต่อไปจึงเป็นการรุกตลาดสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพเนื่องจากเป็น white market  อีกด้วย


 

     ในแวดวงธุรกิจอาหาร plant-based ที่กำลังบูมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยส่วนใหญ่เน้นไปที่เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือกระทั่งไข่ไก่เทียม อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังจะเห็นสตาร์ทอัพฟู้ดเทครุ่นใหม่หันมาสนใจจับตลาดอาหารทะเลจากพืชมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ “เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์” (Save da Sea Foods) จากแคนาดา

     อากิ คันเทนบาค นักธุรกิจสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์เล่าถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ plant-based เลียนแบบซีฟู้ดภายใต้แบรนด์เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์คลีนที่ปรุงแต่งไม่มากและใช้วัตถุดิบน้อยสุดเท่าที่เป็นได้ แต่ให้รสชาติใกล้เคียงของแท้ เช่น แซลมอนรมควันที่มีส่วนประกอบหลักเป็นแครอท

     แม้จุดเริ่มต้นของอากิจะมาจากการแก้ pain point หรือปัญหาจากความยากลำบากในการหาอาหารทะเล plant-based ในตลาด แต่เมื่อลงมือทำธุรกิจนี้จริง เป้าหมายต่อไปที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมจึงเป็นการเจาะตลาดเพื่อนบ้านอย่างสหรัฐฯ ซึ่งเธอมองว่าเป็น white market ที่ไม่มีคู่แข่งเนื่องเพราะยังไม่มีผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จำหน่าย และเธออยากให้แบรนด์ของเธอเป็นเจ้าแรกๆ ที่เข้าไป ภารกิจนี้ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายอากิอย่างมาก  

 

 

เริ่มต้นที่แซลมอนรมควัน plant-based  

     อากิเล่าว่าแม้ไม่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมฟู้ดเทค แต่เธอก็คลุกคลีในธุรกิจอาหารเนื่องจากครอบครัวของเธอเป็นเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น 3 แห่งด้วยกันในเมืองวิสเลอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย และอากิก็รับหน้าที่เป็นผู้บริหารร้านเหล่านั้น กระทั่งเมื่อ 5 ปีก่อน อากิเริ่มเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หันไปทานอาหารวีแกน สิ่งที่สังเกตเห็นคืออาหาร plant-based โดยส่วนใหญ่มักผลิตออกมาในรูปเนื้อ หมู หรือไก่ แต่ไม่แทบไม่มี plant-based ที่เป็นอาหารทะเลเลย

     ปี 2019 ในขณะที่ดูแลร้านอาหารญี่ปุ่นของครอบครัว อากิก็ก่อตั้ง “เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์” ไปด้วย เบื้องต้น เธอหาเงินลงทุนด้วยการขอสินเชื่อจาก Futurpreneur Canada  องค์กรเอกชนที่สนับสนุนคนรุ่นใหม่ในแคนาดาที่ต้องการเป็นผู้ประกอบการ ด้วยเงินจำนวนหนึ่งที่ได้มา เธอสามารถจ้างนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารมาเพื่อช่วยคิดสูตรอาหารและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้รสชาติเหมือนอาหารทะเล คุณค่าทางโภชนาการครบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  

     อากิกล่าวว่าเนื่องจากกระแส plant-based กำลังอยู่ในความนิยม แต่ละแบรนด์ก็พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาหลากหลายและเพื่อให้รสชาติใกล้เคียงของแท้ที่สุดจึงต้องผ่านกระบวนการแปรรูปอย่างหนัก แต่งกลิ่นเติมสีจนคุณค่าทางโภชนาการลดลง อากิต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของเธอแตกต่างออกไป เธอจึงเลือกใช้วัตถุดิบน้อยสุดผ่านการแปรรูปเท่าที่จำเป็น ผลิตภัณฑ์แรกจาก เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์ที่ออกมาชิมลางตลาดคือแซลมอนรมควันที่มีส่วนผสมเพียง 8 อย่างและวัตถุดิบหลักคือแครอทรวมถึงสาหร่ายทะเลและน้ำมันจากเมล็ดแฟล็กซ์

 

 

จับมือเชฟทำตลาดสร้างรายได้

     ช่วงแรกเน้นผลิตวัตถุดิบป้อนลูกค้าที่เป็นร้านอาหาร โชคดีที่ในตอนต้นได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทคอปเปอร์ บรานซ์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร plant-based รายใหญ่ของแคนาดาที่มี 42 สาขาทั่วประเทศ โดยทางร้านนำมาทำเมนูข้าวหน้าแซลมอนรมควัน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดวิกฤติโควิด-19 ระบาดในต้นปี 2020 ร้านอาหารต่างๆ ระงับบริการ เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์จึงต้องปรับกลยุทธ์หันมาจับกลุ่มลูกค้าทั่วไป โดยจำหน่ายทางออนไลน์ผ่านแพลทฟอร์มของ The Very Good Butchers ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านอาหารจากพืชอีกราย ผลคือสินค้าขายหมดใน 2 วัน

 

ขายผลิตภัณฑ์สู่ทูน่าสลัดและทูน่ากระป๋อง

     หลังจากแซลมอนรมควัน เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์ก็มีผลิตภัณฑ์อื่นตามมา เช่น ทูน่าสลัด และทูน่ากระป๋องทำจากขนุนอ่อน ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์วางจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ ราว 500 แห่งทั่วแคนาดา ยอดขายเติบโต 3 เท่าในช่วงเวลาเพียงปีเดียว แต่แคนาดาก็ยังเป็นตลาดขนาดเล็ก เป้าหมายต่อไปจึงเป็นการรุกตลาดสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพเนื่องจากเป็นตลาดสีขาว (white market) หรือตลาดที่ยังไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากพืชจำหน่ายมากนัก

     อากิเล็งไปยังพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือฝั่งแปซิฟิก เน้นที่ร้านค้าปลีกอาหารสายสุขภาพ เช่น Whole Foods และอื่นๆ  อากิลงทุนจ้างทีมที่ปรึกษาจากบริษัทบียอนด์แบรนด์ในนิวยอร์กซึ่งเป็นเอเจนซี่ด้านผลิตภัณฑ์ธรรมชาติให้วางกยุทธ์ เช่น พาไปสำรวจผู้เล่นรายอื่นในตลาด ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์และการกำหนดราคา รวมถึงพาเข้าหานายหน้าที่จะนำเซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์ไปรู้จักผู้ค้าปลีกต่างๆ

     นอกจากจ้างบริษัทที่ปรึกษา เซฟ ดะ ซี ฟู้ดส์ยังได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมาธิการการค้า และสำนักงานการค้าและการลงทุนในการนำสินค้าไปจัดแสดงเพื่อการส่งออก อากิเผยว่าบริษัทของเธอเตรียมแนะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดอเมริกาในฤดูใบไม้ผลิปีนี้  เธอตั้งเป้าอยากเป็นแบรนด์ plant-based ซีฟู้ดระดับโลก เมื่อเจาะตลาดแคนาดาและสหรัฐฯ ได้ก็หวังขยายไปยังยุโรปซึ่งเป็นตลาดที่ผู้คนนิยมบริโภคแซลมอนรมควันมากสุดในโลก รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น เช่น หมึก หอยเชลล์ และหอยนางรม

  
ที่มา :
- https://www.theglobeandmail.com/business/article-how-this-plant-based-seafood-company-is-planning-to-capture-the-us/
- https://coralus.world/leading-the-plant-based-seafood-movement-with-aki-kaltenbach-of-save-da-sea-foods/
- https://www.sfu.ca/food/Blog/save-da-sea.html
- https://vegconomist.com/company-news/canada-save-da-sea-us-launch/



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup