สังเกตกันไหม ทำไมช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา เราถึงได้ยินข่าวการลาออก หรือการเปลี่ยนงานของพนักงานกันบ่อยมากขึ้น ยกตัวอย่างในปี 2021 มีสถิติรายงานว่าประชากรในสหรัฐอเมริการาว 47.4 ล้านคน (จากประชากรทั้งหมด 159 ล้านคน) ตัดสินใจลาออกจากงาน
รับจ้างลาออก ธุรกิจใหม่มาแรงในญี่ปุ่น ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่ขี้เกรงใจ เปิดให้บริการแล้วกว่า 100 แห่ง
จากเทรนด์การทำงานของผู้คนยุคนี้ที่รักในอิสระ ให้ความสำคัญกับการแสวงหาความสุขให้กับชีวิต พอๆ กับการทำงาน จนเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ๆ เช่น The Great Resignation – การลาออกครั้งใหญ่, Quiet Quitting – การลาออกเงียบ จนล่าสุดทำให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า “บริษัทรับจ้างลาออก”
“Quiet Quitting” หรือ “การลาออกเงียบ” เทรนด์การทำงานของคนยุคนี้ที่มีการพูดถึงกันมากเมื่อช่วง 2 ปีก่อน ล่าสุดคนรุ่นใหม่ หรือ คน Gen Z ต่างหันมาแต่งตัวไปทำงานด้วยชุดที่ไม่เหมาะสม เช่น การสวมชุดที่ดูคล้ายชุดนอนมาทำงาน, การแต่งกายด้วยชุดเวอร์วัง อย่างเสื้อคลุมขนสัตว์ที่ดูรุ่มร่าม เป็นต้น โดยมองว่าไม่ได้ทำผิดกฎอะไร แค่อยากแสดงออกเชิงสัญญาลักษณ์เฉยๆ
พนักงานยุคใหม่ไม่ได้ต้องการเลื่อนตำแหน่ง แต่ต้องการความสุขในชีวิตมากกว่า และยินดีที่จะอยู่ในตำแหน่งที่เล็กกว่า ถ้าไม่ต้องรับผิดชอบอะไรที่กดดัน หรือเครียดจนเกินไป
Quiet Luxury เป็นเทรนด์แรงแห่งปี 2023 แพร่หลายไปในทุกภาคธุรกิจทั้ง แฟชั่น เครื่องสำอาง ที่นอน ฯลฯ ช่วงเวลาโกยเงินแบบเงียบๆ
หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีเทรนด์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งรวมถึงเทรนด์การจ้างงานด้วย เราเลยจะพาเพื่อนๆ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปรู้ 4 เทรนด์การจ้างงานยุคใหม่ที่ธุรกิจ SME ต้องรู้ เพื่อเตรียมตัวในการรับมือ จะมีเทรนด์อะไรบ้างตามมาดูกันเลย
จ้างงานแบบเงียบ (Quiet hiring) เป็นศัพท์ใหม่ของเทรนด์การทำงานปี 2023 มีความหมาย คือ การที่บริษัทหรือองค์กรเพิ่มทักษะและเติมช่องว่างในที่ทำงานได้โดยไม่ต้องจ้างพนักงานเข้ามาใหม่ และจะดีต่อ องค์กร และ พนักงาน อย่างไร