Digital Marketing

Omnichannel Marketing ใช้เป็น ธุรกิจโต




Main Idea
 
  • มีตัวเลขจากการวิจัยระบุว่า ธุรกิจที่มีทั้งร้านออนไลน์และออฟไลน์ จะมีความยั่งยืนมากถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจที่มีช่องทางขายเพียงช่องทางเดียว
 
  • ขณะเดียวกันนักการตลาดหลายคนยังคาดการณ์ว่า Omnichannel จะกลายเป็นเทรนด์การทำธุรกิจ  ฉะนั้นเพื่อให้พร้อมรับมือกับ Omnichannel จึงขอแนะนำกลยุทธ์การใช้ Omnichannel Marketing  เพื่อให้ธุรกิจโต
 




     จริงๆ เราได้ยินคำว่า Omnichannel หรือการทำธุรกิจออนไลน์ควบคู่ไปกับธุรกิจออฟไลน์มาสักพักใหญ่แล้ว แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจรูปแบบนี้ถูกพูดถึงอีกครั้ง เพราะแม้จะมีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย แต่ลูกค้าก็ยังต้องการเห็นสินค้าจริงก่อนซื้อ ไม่เพียงเท่านี้ นักการตลาดหลายคนยังคาดการณ์ว่า Omnichannel จะกลายเป็นเทรนด์การทำธุรกิจในปี พ.ศ.2562 เพราะจากการศึกษาระบุ ธุรกิจที่มีทั้งร้านออนไลน์และออฟไลน์มีความยั่งยืนมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจที่มีช่องทางขายเพียงช่องทางเดียว ฉะนั้นเพื่อให้พร้อมรับมือกับ Omnichannel ผู้ประกอบการควรรู้ทริกการใช้กลยุทธ์ Omnichannel Marketing เพื่อให้ธุรกิจโตรุดหน้าคู่แข่ง


     1. ใช้โปรโมชันดึงลูกค้า

         ผู้ประกอบการต้องนำเสนอสินค้าผ่านโฆษณาออนไลน์ เพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาทำความรู้จักสินค้าในช่องทางออนไลน์ก่อน จากนั้นกระตุ้นให้ไปร้านออฟไลน์ด้วยโปรโมชันพิเศษเฉพาะการซื้อสินค้าที่หน้าร้าน และเพื่อไม่ให้ยอดขายในร้านออนไลน์ซบเซา ผู้ประกอบการอาจพิมพ์ QR Code ไว้บนป้ายสินค้า เมื่อลูกค้าสแกนจะพบกับคูปองส่วนลดสำหรับใช้ในการซื้อสินค้าครั้งแรกผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่เพียงเท่านี้ ควรขออีเมลลูกค้าไว้เพื่อส่งโปรโมชันและข่าวสารต่างๆ ของแบรนด์ ซึ่งวิธีที่ทำให้ลูกค้ายินดีให้อีเมลคือ ข้อเสนอพิเศษ เช่น มอบส่วนลดสำหรับลูกค้าที่ให้อีเมล และก่อนส่งอีเมลต้องเช็กให้ดีว่า ลิงก์ที่แนบไปนั้นเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียของแบรนด์ได้อย่างไม่มีปัญหา


     2. ส่งข้อมูลสินค้าซ้ำ

         ผู้ประกอบการต้องแจกเอกสารรายละเอียดสินค้าให้ลูกค้าที่เดินทางมาร้านออฟไลน์ และส่งข้อมูลสินค้าให้อีกครั้งทางอีเมลในกรณีที่ลูกค้าไม่ตัดสินใจซื้อทันที แต่ถ้าตัดสินใจสั่งซื้อ แนะนำให้ส่งอีเมลรายละเอียดสินค้าที่ใกล้เคียงกับสินค้าที่ซื้อไปพร้อมกับอีเมลรายละเอียดการสั่งซื้อ วิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสการขายให้มากขึ้น และอย่าลืมขอความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการบริการ ซึ่งความคิดเห็นที่ได้ช่วยให้ปรับปรุงการบริการได้ถูกทางยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าในที่สุดลูกค้าไม่ตัดสินใจซื้อสักที ผู้ประกอบการอาจใช้เครื่องมือ CRM เช่น Salesforce Hubspot และ Zoho เพื่อดูว่าสิ่งใดมีผลต่อการก้าวสู่การเป็นลูกค้าของแบรนด์ และนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของพวกเขา


     3. ลงช่องทางติดต่อให้ครบ

         การเขียนช่องทางติดต่อให้ครบถ้วน ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากในเวลาที่ต้องการติดต่อกับแบรนด์ ช่องทางติดต่อที่ต้องเขียนลงในนามบัตร ใบปลิว และช่องข้อมูลการติดต่อของโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่แบรนด์เข้าไปอยู่ ได้แก่ ที่อยู่ เว็บไซต์ที่เปิดได้กับทุกอุปกรณ์ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล นอกจากนี้ ควรใช้เครื่องมือ Analytics เช่น Google Analytics, Adobe Analytics และ Kissmetrics ดูว่าลูกค้ามาจากช่องทางไหน และมีส่วนร่วมกับช่องทางนั้นอย่างไร เพื่อให้รู้ว่าในอนาคตต้องขยายธุรกิจไปในช่องทางไหน


     4. รู้จักและเข้าใจแพลตฟอร์มโฆษณาที่ใช้

         โฆษณาจะได้ผลตอบรับดี ถ้าผู้ประกอบการรู้จักและเข้าใจแพลตฟอร์มโฆษณาที่ใช้ ซึ่งการทำ Display Advertising ตลอดทั้งโฆษณาบนโซเชียลมีเดียให้ได้ผลต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน โดยกำหนดจากข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรม ส่วน Search Advertising ต้องใช้คีย์เวิร์ดและข้อความโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง เช่น ซื้อเดี๋ยวนี้ ทั้งนี้มีอีกหนึ่งแพลตฟอร์มโฆษณาที่อยากแนะนำให้รู้จัก นั่นคือ Remarketing ที่ช่วยชักชวนลูกค้าให้กลับมาที่เว็บไซต์อีกครั้ง และดำเนินการสั่งซื้อสินค้าให้แล้วเสร็จ
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup