Digital Marketing

เทียบชัดๆ จ้างพนักงานการตลาด หรือ เอเยนซี แบบไหนดีแบบไหนคุ้มกับ SME มือใหม่

เจษฎา ปุรินทวรกุล






     สำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ค่อยๆ พัฒนาตัวเอง หรือกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็จำเป็นต้องยกระดับกลยุทธ์การตลาดไปอีกขั้นเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายและลูกค้าแน่ใจว่าเรายังคงมีการพัฒนาธุรกิจ หาลูกค้าใหม่ สร้างแบรนด์ และสร้างโอกาสทางการแข่งขันเพิ่มเติมด้วยนั่นเอง


     ประเด็นสำคัญที่จะแยกความคิดของผู้ประกอบการออกเป็นสองทางก็คือ เราจะตัดสินใจยกระดับการตลาดอย่างไร ระหว่าง “จ้างนักการตลาด” หรือ “จ้างเอเจนซี” ต้องบอกว่าไม่ว่าเราจะเลือกเส้นทางใด เรื่องนี้ก็ไม่มีถูกและไม่มีผิด เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยด้วยกัน ซึ่งนี่คือ 4 ปัจจัยสำคัญในการเลือกทีมการตลาดให้เหมาะสมกับองค์กร และธุรกิจของเรา
 




     ความเชี่ยวชาญ


    คำถามแรกคือ เราต้องการความเชี่ยวชาญแบบไหน ถ้าเป็นนักการตลาดหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่เราจ้างมาทำงานด้วยโดยตรง คนกลุ่มนี้จะรู้แน่ชัดว่าบริษัท หรือธุรกิจของเราทำอะไรอยู่บ้าง รวมถึงรู้ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียด เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลไปพัฒนาต่อยอดด้านการตลาดให้กับเราตลอดระยะเวลาการทำงาน


     แต่ถ้าเป็นเอเจนซีต่างๆ หรือหน่วยงานด้านการตลาดอื่นๆ เราจะสามารถเข้าถึงทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่มีทักษะในแต่ละด้านที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจเก่งด้านการตลาดออนไลน์ บางคนเก่งการยิงโฆษณาเฟซบุ๊ก บางคนเก่ง TikTok บางคนเก่ง Instagram เป็นต้น แม้ว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ได้เน้นเรื่องการพัฒนาธุรกิจในภาพรวม หรือทุ่มเทให้กับเราได้ตลอดเวลาการทำงานแบบลูกจ้างรายเดือน แต่ความชำนาญของเขาจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ในด้านเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมด้านการตลาดเฉพาะทางได้เป็นอย่างดี 





     งบประมาณ



     งบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญที่เราต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วการจ้างลูกจ้างหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดมาทำงานร่วมกับองค์กร จะมีราคาแพงกว่าการทำงานร่วมกับเอเจนซี เพราะนอกจากต้องจ่ายเงินเดือนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งค่าฝึกอบรม สวัสดิการ ประกันสังคมในส่วนของนายจ้าง ค่าวัสดุอุปกรณ์สำนักงาน โบนัส ฯลฯ 


     ช่วงเวลา


     ในบางครั้ง ธุรกิจขนาดเล็กอาจพบว่าตัวเองกำลังถูกกดดันให้พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด เพราะเริ่มมีการเติบโตจากยอดขาย กลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่เปิดตัว เป็นต้น ซึ่งในสถานการณ์นี้ เอเจนซี จะเข้ามาช่วยพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดได้รวดเร็ว และตอบโจทย์มากกว่าการจ้างพนักงานที่ต้องใช้เวลายาวนานกว่าตั้งแต่ กำหนดคุณสมบัติ รับสมัคร ทดลองงาน และฝึกทักษะเพิ่มเติมให้เหมาะกับการทำงานขององค์กร





     รูปแบบการสื่อสาร



     ปัจจัยสุดท้ายที่มีความสำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆ เป็นเรื่องการสื่อสาร เพราะการมีใครสักคนอยู่ในบ้าน หมายความว่าเราทำงานอยู่เคียงข้างกัน มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา และสามารถปรับแก้หรืออัพเดททุกอย่างได้ทันที แต่เราจะทำแบบนี้กับเอเจนซีไม่ได้ เพราะเขาจะทำงานในลักษณะบริษัทที่ต้องมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปและแนวทางการวางกลยุทธ์ด้านการตลาด หลังจากนั้นค่อยใช้ช่องทางการสื่อสารอื่นๆ เพื่อติดต่อกัน เช่น อีเมล์ ไลน์ โทรศัพท์ ซึ่งบางครั้งอาจช้าและไม่ทันใจสักเท่าไหร่
 

     การพิจารณาว่าจะทำงานร่วมกับเอเจนซี หรือจ้างลูกพนักงานประจำ อาจเป็นเรื่องยากที่ต้องคิดให้รอบคอบ แต่ถ้าเราสามารถชั่งน้ำหนักได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องกับสถานการณ์ก็จะช่วยสร้างโอกาสการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างแน่นอน


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup