Finanace

​5 เทคนิคเก็บเงินอย่างไรให้อยู่หมัด

Text : เจษฎา ปุรินทวรกุล   




Main Idea
 
  • การเป็นผู้ประกอบการ มักไม่ราบรื่นมีปัญหาอุปสรรคอยู่ข้างหน้าเสมอ ฉะนั้นนอกจะหาเงินและยังต้องรู้จักเก็บเงินด้วย
 
  • และนี่คือกลยุทธ์เก็บเงินให้ได้เงิน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเก็บเงินให้อยู่หมัด





     ในยุคที่เศรษฐกิจเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ การพยายามประหยัดเงินไว้ ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และถ้าเราไม่วางแผนบริหารจัดการเงินที่ได้รับมาให้ดี เงินที่มีอยู่ก็มีโอกาสที่จะสูญหายไปจนหมด ยิ่งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจด้วยแล้ว ยิ่งเป็นปัญหาที่สร้างอุปสรรคอย่างใหญ่หลวง เพราะฉะนั้นใครที่มองหากลยุทธ์เก็บเงินให้ได้เงิน มาลองดูวิธีเหล่านี้กัน เริ่มต้นจาก


     1.  ปรับแนวคิด

         ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการปรับแนวคิดว่าการเก็บเงินไม่ใช่ทางเลือก แต่การเก็บเงินคือสิ่งจำเป็นเหมือนกับค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตที่บ้าน ค่าผ่อนบ้าน ซึ่งเราให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ และต้องจ่ายทุกๆ เดือน จากนั้นจึงมาคิดว่าจะบริหารจัดการเงินที่เหลืออยู่ให้เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละเดือนอย่างไร


     2. หักเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์แบบอัตโนมัติ

         วิธีที่ง่ายที่สุดในการเก็บเงินก็คือ เก็บไปโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางความคิด นั่นก็คือการหักเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์แบบอัตโนมัติ ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่สามารถให้เราตั้งค่าการโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากสำหรับการลงทุนอยู่แล้ว วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องมาคอยจำว่าจะต้องไปธนาคาร หรือเข้าแอพพลิเคชันเพื่อโอนเงินไปฝากเดือนละกี่บาท


     3. ค่อยๆ ปรับเพิ่มเงินฝาก

         สมมติว่าเราได้ฝากเงินเป็นประจำในทุกๆ เดือนอยู่แล้ว วิธีการต่อไปก็คือ การปรับยอดเงินฝากในแต่ละเดือนขึ้นทีละเล็กทีละน้อย หรือใช้วิธีการเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น ทุก 6 เดือน จะฝากเงินเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ การเพิ่มครั้งละน้อยๆ จะทำให้เราไม่รู้สึกว่าการเก็บเงินสร้างภาระให้กับเรา และแต่ละคนจะมีตัวเลขในใจอยู่แล้วว่าควรเพิ่มเงินฝากกี่บาทจึงจะไม่ทำให้ตัวเองหรือธุรกิจเดือดร้อน


     4. เข้าถึงเงินฝากได้ยาก

         ความสะดวกสบายเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชัน การชำระเงินผ่านโลกออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต ผ่าน Wallet แต่การมีโอกาสใช้เงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ก็ทำให้เงินมีโอกาสวิ่งออกจากบัญชีได้ง่ายมากขึ้นเช่นกัน ทางที่ดีควรทำให้บัญชีที่เราใช้ฝากเงิน ยากต่อการใช้เงินด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ เปิดบัญชีไว้อย่างเดียว ไม่ทำบัตร ATM และไม่ทำ Internet Banking ดังนั้น หนทางเดียวที่จะถอนเงินได้ก็คือการเดินทางไปธนาคาร

    
     5. ใช้เวลาคิดให้นานขึ้น

         มีกี่ครั้งที่เราสำนึกผิดหลังจากที่จ่ายเงินซื้ออะไรไปเรียบร้อยแล้ว เพราะแรงกระตุ้น หรือกิเลส เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีโอกาสเสียเงินได้ง่ายที่สุด วิธีที่ง่ายที่สุดจากการถูกกระตุ้นให้ต้องควักเงินออกจากกระเป๋า หรือออกจากบัญชีได้ง่ายที่สุดคือ ให้เวลากับตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อคิดและพิจารณาว่า ควรซื้อหรือไม่ ซื้อเพราะอะไร และมีที่อื่นถูกกว่านี้หรือเปล่า (โดยเฉพาะของชิ้นใหญ่และมีราคาสูง) บางครั้งการให้เวลากับตัวเอง จะช่วยให้เราได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่เรากำลังจะซื้อนั้น เป็น “ความอยาก” หรือเป็น “สิ่งจำเป็น” กันแน่  
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup